ทันที่ที่ร่างนั้นได้เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา แสงไฟเล็กๆที่ออกจากโคมไฟพกพา มันสว่างมากพอที่จะทำให้เขามองเห็นหน้าตาของร่างนั้นได้ชัดเจน เขารับรู้ผ่านสายลมที่พัดผ่านมา คำภาวนาของเขาไม่เป็นจริงเสียแล้ว เขาไม่ได้ครอบครัวกลับคืนมา แต่เขากลับได้เพื่อนใหม่ ที่ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน ยังไม่ทันที่เขาจะกล่าวถ้อยคำใดๆออกมา ร่างนั้นกลับชิงพูดก่อน เหมือนจะรู้ว่าเขากำลังจะพูดอะไร “เ-ร-า-ม-า-อ-ย่-า-ง-เ-ป็-น-มิ-ต-ร” “……….@-@....”โอ้ ให้ตายเถอะ ช่วยปลุกผมที หรือนี่อาจจะเป็นแค่ความฝัน คำพูดประโยคนี้ ผมเคยได้ยินมาเมื่อหลายปีก่อน จากการดูหนังการ์ตูนแนวไซไฟ มันเป็นคำยอดฮิตของมนุษย์ต่างดาวที่มาเยือนโลก... เอกภพครุ่นคิด
เอกภพนิ่งงันไปชั่วขณะ แล้วก็เริ่มตั้งสติได้ เขาเริ่มยิงคำถามไปเป็นชุด ราวกับยิ่งกระสุนเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างเมามัน เขาถามคำถามมากมายจนเขาเองก็ยังลืมคำถามก่อนหน้าที่เขาถามไป ตั้งแต่ถามชื่อ ที่อยู่ จุดประสงค์การมา จะอยู่นานแค่ไหน แล้วต้องการอะไร? เอกภพหายใจหอบและถี่ หลังจากที่คำถามของเขาได้พรั่งพรูจากปากไปจนหมด ร่างสองร่างที่ยืนประจันหน้ากันอย่างกระชั้นชิด ต่างฝ่ายต่างเงียบ หลังจากที่อีกฝ่ายได้ยิงคำถามเข้าใส่อีกฝ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว อีก30วินาทีต่อมา อีกฝ่ายก็เริ่มตั้งตัวได้และเริ่มยิงคำตอบกลับคืนให้กับฝ่ายถาม โดยไม่ยั้งมือราวกับเขาได้ขว้างลูกกระสุนทั้งหมดที่ยิงมา กลับคืนไป “สะ-หวัด-ดี ผม-ชื่อ-ไมก้า-ผม-มา-จาก-ดาว-นี-เพ-ทัซ-ซึ่ง-อยู่-ห่าง-ไกล-จาก-โลก-ของ-คุณ----และ-ผ…..” “หยุดก่อนครับ!!!คุณไมก้า ผมขอร้องได้ไหมครับ ขอให้คุณช่วยเร่งสปีดความเร็วในการพูดของคุณ ให้เร็วขึ้นกว่านี้จะได้ไหมครับ คือ..ถ้าคุณพูดแบบนี้ไปตลอด ผมว่าผมคงจะผล็อยหลับไปก่อนที่คุณจะพูดจบแน่ๆครับ” เอกภพพูด ไมก้าพยักหน้า และเริ่มเปลี่ยนท่าทีจากยืนแล้วไปนั่งที่เก้าอี้ของเอกภพที่วางอยู่ใกล้ๆ เอกภพซึ่งยืนอยู่ จึงเดินไปหยิบเก้าอี้อีกตัว แล้วมานั่งข้างๆไมก้า เพื่อฟังเรื่องราวจากเพื่อนใหม่ของเขา
ไม่มีความเห็น