"ทฤษฎีหน้าต่างแตก"Broken Windows Theory
ในปี 1969 มีการทดลองที่โด่งดังโดยนักจิตวิทยาจอดรถยนต์ 2 คันที่ไม่มีป้ายทะเบียน ไว้ในที่จอดรถ เปิดฝากระโปรงทิ้งไว้
คันแรกจอดในเขตบรองซ์ นิวยอร์ค ซึ่งเป็นแหล่งสภาพสังคมดี และเป็นไปตามคาด เพียงไม่กี่นาที ถูกมือดี รื้อชิ้นส่วนจนไม่เหลือซาก
แต่ที่น่าสนใจคือคันที่สอง จอดในพาโลอัลโต แคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นแหล่งสภาพสังคมชั้นสูง รถจอดอยู่เป็นสัปดาห์ โดยไม่มีใครไปแตะต้องมัน
จนกระทั่ง...นักจิตวิทยา เดินเอาค้อนปอนด์เข้าไปทุบกระจกรถ! หลังจากนั้นก็มีไม่รู้อีกกี่มือที่ผ่านไปผ่านมา วนเวียนเข้ามาทุบ กระทืบ ทำลาย และขโมยชิ้นส่วนจนไม่เหลือซาก
การทดลองดังกล่าวเป็นที่มาของทฤษฎีอาชญากรรม ที่เรียกว่า "ทฤษฎีหน้าต่างแตก"
ซึ่งเปรียบดังเช่นบ้านที่เคยสวยงามกลายเป็นที่รกร้างไร้การเหลียวแลได้ เพราะแค่ว่า “กระจกหน้าต่างแตกหนึ่งบาน ที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่ยอมซ่อม” เป็นการส่งสัญญาณ และทำให้เกิดความรู้สึก “ไม่มีคนสนใจ ไม่มีคนเหลียวแล” ให้กับคนที่ผ่านไปผ่านมา และคนที่อยู่อาศัย และก็อาจจะมีบางคนที่ผ่านไปผ่านมา ปาหินให้มันแตกมากขึ้น ทำให้สัญญาณนั้นชัดเจนรุนแรงมากขึ้นทุกที
จากกระจกบานหนึ่งไปอีกบานหนึ่ง จากบ้านหนึ่งก็จะลามไปอีกบ้านหนึ่ง จนมากขึ้นๆ เหมือนกับมะเร็งที่ลุกลามในอวัยวะ ที่หากปล่อยไว้จนลุกลาม ก็ยากจะรักษาเยียวยาได้
เรื่องเล็กน้อยสามารถส่งผลใหญ่โตในระยะยาว เพราะผลของมันจะลามจากเรื่องหนึ่งไปยังอีกเรื่องหนึ่ง มากขึ้นๆ ทุกทีเรื่องนี้บอกอะไร?.....
...ปัญหาต่าง ๆ ที่ลุกลาม ใช่เพราะคิดว่า..มันก็แค่กระจกบานเดียว จะไปมีผลอะไรมากมาย?????
ไม่มีความเห็น