ผ้าขาวเปื้อนหมึก
กานนา สงกรานต์ กานต์ วิสุทธสีลเมธี

รู้ไหมว่า..


รู้ไหมว่า..
กว่าใครสักคนจะมาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้นั้น..ยากแค่ไหน
และต้องอดทนสร้างบารมีมานานสักเท่าใด ?

ก่อนได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ต้องสละชีวิตและอวัยวะมานับภพนับชาติไม่ถ้วน หากเปรียบศีรษะที่ทรงสละไป ก็มากกว่าผลมะพร้าวในชมพูทวีป ดวงตาที่สละไปมากกว่าดวงดาวบนฟากฟ้า เลือดที่สละไปมากกว่าน้ำในมหาสมุทร เนื้อที่สละไปมากมายกว่าพื้นแผ่นดินพระโพธิสัตว์ยอมสละทุกอย่างก็เพื่อให้ตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และจะได้ช่วยสั่งสอนพวกเราให้พ้นทุกข์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน

คนเราเลือกเกิดได้รึเปล่า

จริงๆ แล้วคนเราเลือกเกิดได้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับบุญบารมีของแต่ละคน เช่นพระบรมโพธิสัตว์ท่านสร้างบารมีมามาก ท่านจึงเลือกเกิดได้ตามต้องการ คือ

1. เลือกเวลาที่อายุมนุษย์อยู่ระหว่าง 100 ปี ถึง 100,000 ปี
2. เลือกเกิดในชมพูทวีป
3. เลือกเกิดในมัชฌิมประเทศ (ในกรุงกบิลพัสดุ์)
4. เลือกตระกูลที่คนยกย่องคือตระกูลกษัตริย์
5. เลือกผู้ที่บำเพ็ญบารมีมานานถึงแสนกัปและมีศีล 5 ครบถ้วนมาเป็นพุทธมารดา

ฉะนั้น.. ถ้าเราอยากเลือกเกิดได้ก็ต้องทำบุญให้มากๆ คือ ทำทาน รักษาศีล และทำสมาธิ(Meditation)ภาวนา ควบคู่กันไป


ไก่งามเพราะขน แล้วคนงาม..งามได้อย่างไร

พระนางยโสธรา พระชายาของเจ้าชายสิทธัตถะ มีลักษณะเบญจกัลยาณี คือ มีลักษณะงาม 5 ประการ ดังนี้
1. ผมงาม คือ มีผมเหมือนหางนกยูงเมื่อสยายออกก็จะทิ้งตัวลงมาถึงชายผ้า ปลายผมงอนขึ้นเล็กน้อย
2. เนื้องาม คือ มีริมฝีปากแดงเหมือนลูกตำลึงสุก เรียบสนิทมิดชิดดี
3. ฟันงาม คือ ขาวเหมือนสังข์ เรียบเสมอและไม่ห่างกัน
4. ผิวงาม คือ ถ้าผิวดำก็ดำสนิทเหมือนดอกอุบลเขียว ถ้าขาวก็ขาวเหมือนกลีบดอกกรรณิการ์
5. วัยงาม คือ งามทุกวัย แม้คลอดบุตรมาแล้ว 10 ครั้ง ก็ยังดูสาวพริ้งอยู่ใครอยากเป็นเบ็ญจกัลยาณีต้องหมั่นสั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน ศีล ภาวนา แล้วตั้งความปรารถนาไว้ ก็จะได้ลักษณะยอดหญิงที่สวยที่สุดในโลก

ไขข้อข้องใจ ศิลปศาสตร์ 18 ประการคืออะไร

คือวิชาความรู้สำหรับนักปกครอง เป็นวิชาของพราหมณ์ที่สอนกันอยู่ในชมพูทวีป ตั้งแต่ก่อนพุทธกาล ประกอบด้วย
1. สูติ วิชาฟังเสียงคนเสียงสัตว์ รู้ว่าดีหรือร้าย
2. สัมมติ วิชากฎธรรมเนียม
3. สังขยา วิชาการคำนวณ
4. โยคยันตร์ วิชาการการช่างการยนต์
5. นีติ วิชาแบบแผนราชการ
6. วิเสสิกา วิชาการค้า
7. คันธัพพา วิชานาฏศิลป์
8. คณิกา วิชาบริหารร่างกาย
9. ธนุพเพธา วิชายิงธนู
10. ปุราณา วิชาโบราณคดี
11. ติกิจฉา วิชาแพทย์
12. อิติหาสา วิชาตำนานหรือว่าประวัติศาสตร์
13. โชติ วิชาดาราศาสตร์
14. มายา วิชาตำราพิชัยสังคราม
15. ฉันทสา วิชาการประพันธ์
16. เกตุ วิชาพูด
17. มันตา วิชาร่ายมนตร์
18. สันทา วิชาไวยากรณ์

วัดใดเป็นวัดแห่งแรก

วัดใดเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนาและเกิดขึ้นเมื่อไร ?
วัดเวฬุวัน เป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา บริเวณวัดมีกอไผ่สีเขียวชอุ่มจำนวนมาก มีกำแพงสูง 18 ศอก พร้อมซุ้มประตูและป้อม พระเจ้าพิมพิสารทรงถวายแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเพื่อให้เป็นที่ประทับของพระ พุทธองค์และพระภิกษุสงฆ์ในพรรษาที่ 2 หลังจากที่พระพุทธองค์เสด็จไปแสดงพระธรรมเทศนาจนกระทั่งพระเจ้าพิมพิสารรวม ทั้งพราหมณ์และคฤหบดีบรรลุโสดาบันถึง 110,000 คนและอีก 10,000 คน เข้าถึงไตรสรณคมน์ วัดเวฬุวันแห่งนี้เป็นสถานที่ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทานโอวาทปาฏิโมกข์ และเป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ในระยะเริ่มแรก ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเป็นที่พึ่งของชาวโลกตลอดมา

หลักธรรมใด ที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา
วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของปีถัดมานับจากวันตรัสรู้ ที่วัดเวฬุวันได้เกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า “จาตุรงคสันนิบาต” อันประกอบด้วยองค์ 4 คือ
1. เป็นวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ดวงจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
2. พระภิกษุ 1,250 รูปมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย
3. ทั้งหมดเป็นพระอรหันต์
4. ทั้งหมดเป็นพระภิกษุที่พระพุทธองค์ทรงประทานการบวชให้

วันนั้นเป็นวันเริ่มต้นของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างเป็นระบบระเบียบโดยพระ พุทธองค์ทรงแสดงหลักธรรมซึ่งเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา คือ โอวาทปาฏิโมกข์ เพื่อประกาศอุดมการณ์ หลักการ และวิธีการในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เพื่อสร้างสันติสุขแก่ชาวโลกและนำพาชาวโลกให้หลุดพ้นจากทุกข์ในสังสารวัฏ

รู้ไหมเอ่ยว่า...ทำไมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาที่ดาวดึงส์

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (สวรรค์ชั้นที่ 2) เพื่อแสดงธรรมโปรดพุทธมารดา พระพุทธองค์ทรงประทับเหนือบัณฑุกัมพลศิลาซึ่งเป็นที่ประทับของพระอินทร์ ทรงแสดงพระอภิธรรมปิฎกตลอด 3 เดือน พุทธมารดาซึ่งไปเกิดเป็นเทพบุตรในสวรรค์ชั้นดุสิตได้เสด็จมาฟังธรรมที่ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เมื่อจบพระธรรมเทศนา เทพบุตรพุทธมารดาได้ บรรลุโสดาปัตติผล เมื่อออกพรรษาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ในพระคัมภีร์กล่าวว่า มนุษย์จำนวนมหาศาลที่เห็นพระพุทธองค์ในวันนั้น ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่ไม่อยากเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

องคุลิมาลตัดนิ้วคนมาคล้องคอเพราะอะไร

องคุลิมาลเดิมชื่อว่า อหิงสกะ ได้ไปเรียนวิชาที่เมืองตักสิลา เรียนเก่งกว่าศิษย์ทั้งปวง ต่อมาอาจารย์ผู้สอนถูกยุยง ก็เกิดคิดจะกำจัดอหิงสกะจึงสั่งให้ไปฆ่าคนให้ครบหนึ่งพันคนแล้วจะสอนสุดยอด วิชาให้อหิงสกะฆ่าคนแล้วตัดนิ้วมือมาคล้องคอ เพื่อให้จำได้ว่าฆ่าไปกี่คนจึงมีชื่อว่า องคุลิมาล แปลว่า ผู้เอานิ้วมือมาเป็นพวงมาลัยคล้องคอ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงหยั่งรู้ว่า องคุลิมาลสามารถจะบรรลุอรหัตผลได้จึงเสด็จไปโปรด จนกระทั่งองคุลิมาลหยุดการฆ่าคนแล้วหันมาฆ่ากิเลสแทน ด้วยการบวชเป็นพระภิกษุและได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์

ใครรู้วันตายของตัวเองบ้าง

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ทรงรู้
วันดับขันธปรินิพพานและได้เตรียมการไว้อย่างดีด้วย

หลังจากทรงปลงอายุสังขารแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเตรียมการเรื่องปรินิพพานไว้พร้อมสรรพ และทรงสะสางปัญหาต่างๆ จนเรียบร้อย เพื่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนา เช่นทรงเลือกปรินิพพานที่นครกุสินาราซึ่งเป็นเมืองเล็ก เพราะทรงเห็นว่าถ้าปรินิพพานที่เมืองใหญ่ ก็จะเกิดการทะเลาะวิวาทฆ่าฟันกันเพื่อแย่งพระบรมสารีริกธาตุ , ทรงบอกวิธีการจัดการกับพระสรีระของพระองค์กับพระอานนท์ เพื่อจะได้ทำให้ถูกต้องและสมควร , ทรงสอนวิธีปฏิบัติกับสตรี , ทรงสอนลงพรหมทัณฑ์แก่พระฉันนะ ในฐานะที่หัวดื้อ ไม่ยอมเชื่อฟังคำตักเตือน ของพระอัครสาวก เป็นต้น

ใคร คือพระภิกษุผู้เป็นเลิศถึง 5 ประการ
คำตอบ คือ พระอานนท์ ท่านเป็นเลิศในด้าน
1. พหูสูต คือ ได้ยินได้ฟังมามาก
2. มีสติ คือ มีความทรงจำดีเยี่ยม
3. มีคติ คือ นอกจากจำธรรมะได้ทุกบทแล้ว ยังสามารถขยายความได้อย่างแจ่มแจ้ง
4. มีธิติ คือ ความอดทน มีความเพียร

5. พุทธอุปัฏฐาก คือ ทำหน้าที่รับใช้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ดี
ท่านเป็น 1 ใน 500 ของพระภิกษุ ผู้ได้รับเลือกจากคณะสงฆ์ให้เข้าร่วมทำปฐมสังคายนา และเป็นผู้เดียวที่บรรลุอรหัตผลในระหว่างอิริยาบถทั้ง 4 คือ ไม่ใช่ท่านั่ง ท่านอน ท่ายืน หรือท่าเดิน แต่บรรลุขณะที่ท่านกำลังเอนกายลงนอนศีรษะยังไม่ทันถึงหมอน และเท้าทั้งสองยังไม่พ้นจากพื้น

อ๊ะ อ๊ะตาวิเศษเห็นนะ ตาทิพย์.. (เหลือเชื่อ แต่เป็นเรื่องจริง)

พระอนุรุทธะเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากพระบรมศาสดาว่าเป็นผู้เลิศกว่า ภิกษุทั้งหลายในด้าน “ทิพย์จักษุ” คือ มีตาทิพย์ เหตุที่ท่านได้ตาทิพย์ เพราะ

1. ฝึกหัดจนชำนาญ โดยการเล็งดูสัตว์โลกทั้งหลายด้วยทิพย์จักษุทั้งกลางวันและกลางคืน ยกเว้นเวลาฉันภัตตาหาร
2. ตั้งความปรารถนาไว้ในอดีตชาติ เมื่อสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าปทุมุตระ ท่านได้ถวายแด่พระภิกษุสงฆ์โดยมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน เป็นเวลา ๗ วัน แล้วตั้งความปรารถนาว่าขอให้เป็นผู้เลิศกว่าพระภิกษุทั้งหลายผู้มีทิพย์ จักษุอีกทั้งยังได้ทำบุญจุดประทีปถวายเป็นพุทธบูชาเป็นประจำ

คำสำคัญ (Tags): #รู้ไหมว่า..
หมายเลขบันทึก: 616627เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2016 11:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 ตุลาคม 2016 11:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท