เมล่อนมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ในปริมาณสูง มีวิตามินซี วิตามินเอ เบต้าแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และธาตุเหล็ก ไม่มีไขมันและคอเลสเตอรอล อีกทั้งแคลอรี่ต่ำ จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
นอกจากนี้ยังเชื่อว่าเอนไซม์ในน้ำเมล่อนชื่อว่า "superoxide dismutase" มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระและลดกระบวนการทางเคมีภายในร่างกาย ส่งผลให้สามารถลดระดับความเครียดได้
เนื่องจากมีฤทธิ์หนาว จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ อืดแน่นท้อง ย่อยอาหารไม่ดี ถ่ายเหลว ซึ่งเป็นอาการของม้ามพร่อง
ผู้ที่มีประวัติ อาเจียนเป็นเลือด ไอเป็นเลือดไม่ควรกิน
เมื่อมีโปรตัสเซี่ยมนำ จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ไตไม่แข็งแรงและผู้ป่วยโรคไต
การกินเมลอน นอกจากปอกเปลือกแช่ตู้เย็นกินชิ้นๆ แล้ว ยังนำมาปั่นอร่อยๆ ดื่มได้ โดยเตรียม เมลอน 1 ลูก ขึ้นไช่ต้นใหญ่ ครึ่งขีด น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ นำเมลอนและขึ้นไช่ 2 อย่างมาใส่เครื่องปั่นพร้อมกับเกร็ดน้ำแข็งนิดหน่อย ปั่นได้ที่แล้วค่อนเติมน้ำผึ้งและน้ำมะนาวลงไป พร้อมดื่มอร่อยๆ ได้ สูตรนี้ช่วยดับร้อนแก้กระหายในยามร้อนๆ ดีนัก
นอกจากเนื้อจะกินอร่อยแล้ว เม็ดยังมีประโยชน์ เอาเม็ดเมลอนไปตากแห้ง แล้วปั่นให้ละเอียด ผสมน้ำผึ้งปั้นเป็นเม็ด อมหลังแปรงฟันตอนเช้า 1 เม็ด จะทำให้ปากไม่มีกลิ่นเหม็น พูดคุยกับคนอื่นได้อย่างมั่นใจ เหมาะกับผู้ที่มีกลิ่นปากแรง
ในเมล่อนมีวิตามิน แร่ธาตุ ที่ต้านสารอนุมูลอิสระเยอะมากจริง ๆ สำหรับคนที่มีความเสี่ยงกับสารอนุมูลอิสระเยอะ ก็เลือกทานเมล่อนเพื่อล้างสารเหล่านั้นได้ นอกจากเมล่อนแล้วผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระยังมีอีกเยอะ อย่าง มะม่วงน้ำดอกไม้สุก, มะเขือเทศราชินี, มะละกอสุข, ส้มสายน้ำผึ้ง ฯลฯ การทานผลไม้ที่สุกแล้วนั้นจะได้รับสารเบต้าแคโรทีนมากกว่าเพราะสารตัวนี้จะ พบในผลไม้สุขมากกว่าตอนยังดิบอยู่ เมล่อนก็ต้องทานตอนสุกเหมือนกัน การเลือกซื้อเมล่อนให้ได้รสชาติหอมวาน ต้องดูจากภายนอก ควรเลือกเมล่อนจากความสมบูรณ์ของผลที่สวย น้ำหนักดี มีลักษณะเป็นผลกลมสวย จากนั้นก็มากลิ้งรอบผล เพื่อดูลายที่เปลือกของเมล่อนควรมีลักษณะเป็นตาข่ายพาดกันอย่างสวยงาม และผิวผลจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเมื่อสุกเต็มที่ เท่านี้ก็จะได้เมล่อนรสชาติดีมีประโยชน์มาทานกัน
ไม่มีความเห็น