การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยไม่ลืมคำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประกอบการวางแผน ซึ่งในที่นี้คือการวางแผนในการรักษาผู้ป่วยที่มาทำการรักษากับนักกิจกรรมบำบัด เพื่อให้ได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
มีหลักพิจารณาที่สามารถนำมาปรับใช้กับกิจกรรมบำบัด ดังนี้
1. ความพอประมาณ
คือการทำให้ผู้ป่วยพึงพอใจในการรับการรักษา ไม่ทำอะไรมากเกินกว่าที่ร่างกายจะรับไหว ซึ่งเป็นหน้าที่ของนักกิจกรรมบำบัดที่จะต้องคอยดูแลผู้ป่วยให้ค่อยๆ รับการรักษาไปทีละขั้นตอนอย่างถูกต้องเหมาะสม
2. ความมีเหตุผล
พิจารณาเลือกวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วย โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับอาการป่วย ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการรักษาแต่ละขั้นตอนอย่างรอบคอบ
3. การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว
เป็นการเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด โดยจะต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น พร้อมทั้งมีแผนสำรองในการรักษาอยู่เสมอ
เงื่อนไข การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้นต้องอาศัยทั้งความรู้ และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน กล่าวคือ
นอกจากทั้งหมดที่กล่าวมา นักกิจกรรมบำบัดจะต้องมีการเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ หมั่นติดตามข่าวสาร เพื่ออัพเดตความรู้ที่จะใช้ในการรักษาผู้ป่วย รู้จักปรับเปลี่ยนวิธีการรักษาให้มีความทันยุคทันสมัย
จะเห็นได้ว่าหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สามารถนำมาปรับใช้ได้กับหลากหลายวิชาชีพ ไม่เว้นแต่วิชาชีพกิจกรรมบำบัดเอง ที่กำลังค่อยๆ พัฒนาให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ค่อยๆ เผยแพร่ความรู้ที่เป็นประโยชน์ให้กับคนไทย เป็นไปอย่างเชื่องช้า แต่มีความมั่นคงและยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
อ้างอิง : http://www.eto.ku.ac.th/s-e/main-th.html
ไม่มีความเห็น