ร้อยฝัน เยือนถิ่น ผืนแผ่นดินเมืองน่าน(ตอนที่๑)
กระต่ายใต้เงาจันทร์(สุภัชชา พันเลิศพาณิชย์)
น่าน ผืนดินถิ่นเมืองเก่า เมืองแห่งหุบเขาที่ไปแล้ว ต้องตกหลุมรัก ดั่งต้องมนต์เสน่ห์แห่งมนตรา เส้นทางที่ดูคดเคี้ยว เงียบเหงาแต่น่าค้นหา หุบเขาที่มีชีวิต วัฒนธรรมและวิถีไทยล้านนา
รถตู้ค่อยๆเคลื่อนตามเส้นทางที่คดเคี้ยวผู้คนต่างหลับใหล ยามใกล้รุ่งอรุณ ความหนาวกระทบผิวกายทำให้ข้าพเจ้าลืมตาตื่นมองไปยังเบื้องนอก ฝนตกพร่ำๆ ละอองหมอกเริ่มจางลง ตะวันเริ่มฉายแสงทักทายท้องฟ้า พาความฝันของหลายคน ทะยานสู่จุดหมาย บ้างไม่รู้หนแห่ง บ้างรู้ว่าชีวิตต้องทำอะไร ท้องฟ้าปลายฤดูฝน ชุ่มชื่น ฉ่ำดิน ข้าพเจ้าค่อยๆลืมเอื้อมมือเปิดกระจก สายลมกระทบทักทาย สองฝากฝั่งรายล้อมด้วยผืนหญ้าสีเขียว ภูผาที่แข็งแกร่งดั่งอ้อมกอดความอบอุ่น คล้ายบทเพลง มโหรี ดนตรี แว่วหวานมาคนเมืองน่านยินดีต้อนรับคนต่างถิ่น สีสันของหมอกเมฆเปล่งประกายเฉิดฉายแข่งสีสันกับดอกไม้ ปลายฤดูฝน
ความแข็งแกร่ง แต่ดูอบอุ่น อ่อนโยน ของขุนเขา สง่างามดั่งบ่งบอกว่า น่านคือถิ่นที่มีศิลปวัฒนธรรมล้ำค่า ดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา ที่อยู่คู่บ้านเมืองมาเนิ่นนาน เพราะผู้คนชาวเมืองร่วมใจ อนุรักษ์ รักษา สืบทอด ส่งต่อ จากรุ่นสู่รุ่น บทเพลงซอพื้นบ้านที่โดดเด่น มีลักษณะเฉพาะเป็นเอกลักษณ์ของคนเมืองน่านโดยเฉพาะคงอยู่ ลมหายใจของคนน่าน ที่เต็มไปด้วยความรัก ทะนุถนอม หวงแหนสิ่งล้ำค่า ที่บรรพบุรุษสร้างเอาไว้
ข้าพเจ้าเยือนถิ่นเมืองน่านเป็นครั้งสองแต่กลับหลงใหล รอยยิ้มเยือน เอื้อนให้คนต่างถิ่น ดูจริงใจ ใสซื่อ บริสุทธิ์ ซื่อสัตย์ สำหรับข้าพเจ้าแล้วนี่คือเสน่ห์ที่สำคัญของเมืองน่าน ที่ค่อยๆเลือนหายไปจากเมืองใหญ่ แต่คนน่านกลับรักษาไว้ได้อย่างงดงาม
เสน่ห์เมืองน่านไม่เคยห่างหายลบเลือนเหมือนกาลเวลา แต่กลับรัดตรึงใจผู้พบเห็น ความทรงจำเหล่านี้ ถูกเก็บเข้าลิ้นชักแห่งความทรงจำ ของหัวใจ เพราะเมื่อเปิดดูขึ้นครั้งใด ความสุขและรอยยิ้มจะกลับมาเยือนเราอีกครั้ง
๑๑ กันยายน ๒๕๕๙ เวลา๑๑.OOน.
ณ.บ้านนี้มีแต่รัก...แกมนาค..เชียงราย
อาจารย์ สุภัชชา พันเลิศ พาณิชย์
กระต่ายใต้เงาจันทร์
ไม่มีความเห็น