NECTEC ใช้ wiki เป็นอุปกรณ์ในการนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ วาระที่ 1 เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา 14.00 น.
สรุปคำอภิปรายในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วาระที่ 1
ร่างพรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 เวลา 14.00 น.
กัญจนา ศิลปอาชา:(พรรคการเมือง)
- ถ้าคนที่เข้าไปใช้บริการ Internet Cafe ใส่ข้อมูลอะไรลงไปแล้วเดินออกไปเลยโดยเจ้าของร้านไม่รู้ เจ้าของร้านต้องรับผิดหรือไม่ กรณีนี้จะดูแลอย่างไร
- ศักยภาพของพนักงานเจ้าหน้าที่ที่จะดูแลให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพมีเพียงพอหรือไม่
- เว็บลามก block ไปวันสองวันก็เข้าไปดูใหม่ได้ กรณีนี้จะทำอย่างไร
- ปัจจุบันยังไม่มีระบบป้องกันที่ดีในเรื่องการใช้ระบบสื่อสารไร้สาย (ยกตัวอย่างเรื่องการใช้ระบบเครือข่ายไร้สายที่ที่ทำการพรรค ซึ่งมักได้สัญญาณจากสำนักงานวุฒิสภา)
ดร. ฉลองภพ สุสังกรกาญจน์: (นักวิจัย/วิชาการ)
- เห็นความจำเป็นของการมีกฎหมายนี้ แต่คิดว่าข้อความหลายข้อน่าจะปรับให้มีความชัดเจนขึ้น เช่น การเข้าไประบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ต้องจงใจทำ (มาตรา 5) เท่านั้นจึงควรได้รับโทษ เพราะปัจจุบันมีโปรแกรมที่เข้ามาคอมพิวเตอร์ของเราโดยที่เราไม่ทราบและอาจเผยแพร่ไปยังคอมพิวเตอร์ของคนอื่นได้ด้วย ซึ่งถ้าเราไม่รู้ ก็ไม่น่าเข้าข่ายมีความผิด หรือในมาตรา 12 ซึ่งต้องระวัง เพราะเครื่องมือหรือโปรแกรมขึ้นกับผู้ใช้ ของที่มีประโยชน์ ถ้าใช้ในทางที่ผิดก็อาจก่อปัญหาได้ ควรระบุด้วยว่า ใช้เพื่อมุ่งทำให้เกิดความเสียหาย หรือในมาตรา 16 ซึ่งร่างฯ ปัจจุบันให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่มากเกินไป ควรต้องมีหลักฐานเพียงพอ และควรขออำนาจศาลก่อน
พลเรือเอกประเสริฐ บุญทรง: (ข้าราชการบำนาญ)
- เห็นควรรับหลักการ เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้คอมพิวเตอร์แพร่หลายในทุกระดับ
- คำว่า “ระบบคอมพิวเตอร์” รวมโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆด้วยหรือเปล่า?
- ในมาตรา 16 ไม่ได้ให้เจ้าหน้าที่กระทำตามมาตรา 10 โดยไม่ถูกลงโทษ ซึ่งปัจจุบันก็มีการทำอยู่แล้ว โดยเฉพาะการ block เว็บไซต์ที่มาจากต่างประเทศ
ดร. วิริยะ นามศิริพงศ์พันธ์: (องค์กรเอกชนสาธารณประโยชน์)
- สนใจว่าทำอย่างไรจะดำเนินกระบวนการที่จะฟ้องร้องคดีได้รวดเร็ว ทำอย่างไรจะให้กระบวนการดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิดทำได้เร็ว ปัจจุบันอะไรก็ตำรวจหมด จะเป็นคอขวด ถ้าจากพนักงานเจ้าหน้าที่ไปอัยการได้เลย ก็น่าจะช่วยให้เร็วขึ้น
นายภูมิศักดิ์ หงส์หยก: (นักธุรกิจทั่วไป)
- มาตรา 9 กำหนดให้ความผิดวรรค 1 ยอมความได้ แต่ปัจจุบันการเก็บข้อมูล โดยเฉพาะด้านการแพทย์ ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ขัดต่อศีลธรรม ไม่ควรให้ยอมความ
นายวิทย์ รายนานนท์: (ข้าราชการบำนาญ)
- เนื่องจากยกร่างมานาน ได้มีการปรับปรุงให้มีความทันสมัย และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นถึงปัจจุบันได้หรือยัง
- ในการพิจารณากำหนดโทษ ได้พิจารณาถึงความเหมาะสมอย่างถ่องแท้หรือยัง
- หัวใจของการยกร่างพรบ. ใดๆ คือการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิผล ไม่ทราบว่าได้พิจารณารอบคอบในประเด็นนี้หรือยัง
ว่าที่ รอ. จิตร์ ศิรธรานนท์: (ธุรกิจการค้า อุตสาหกรรม บริการ ขนส่ง ก่อสร้าง และอสังหาริมทรัพย์)
- เนื้อหาที่ปรากฎในร่างกฎหมาย ส่วนใหญ่เป็นการลงโทษผู้กระทำ ส่วนผู้จ้างวาน หรือนายทุนผู้อยู่เบื้องหลัง ยังไม่ชัดเจนว่ามีการกำหนดโทษไว้อย่างไร หรือไม่
นายภัทระ คำพิทักษ์: (สื่อสารมวลชน นักเขียน ศิลปิน)
- คนที่จะได้รับผลกระทบจากกฎหมายนี้มีตั้งแต่ ISP ผู้ใช้ และคลื่นใต้น้ำต่างๆ
- ยกตัวอย่างถึงกรณีหนึ่งที่เกิดขึ้น ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ขอให้ ISP รายหนึ่งให้ข้อมูล log-in/log-out เนื่องจากพบว่ามีการเล่นการพนันบอลในเว็บหนึ่ง แต่ ISP ไม่ให้ความร่วมมือ จึงส่งคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งถ้าเป็นสิ่งพิมพ์ จะมีพรบ. ควบคุมการพิมพ์ แต่กรณีของอินเทอร์เน็ต ยังไม่มีพรบ. ใดๆ ควบคุม
- จะรักษาสมดุลย์อย่างไรในการควบคุมและลงโทษ กับการจำกัดสิทธิเสรีภาพของคน เพราะด้วยความละเอียดอ่อนของกฎหมายและการบังคับใช้ จะเกิดผลกระทบข้างเคียงได้ ต่อไปอาจเกิดการอุ้มข้อมูล (แทนที่จะอุ้มคน) ตำรวจเข้าไปค้น และเอาข้อมูลมาใช้ ซึ่งจะกระทบถึงข้อมูลความลับทางการค้าด้วย
- ต้องคำนึงถึงสิทธิด้วยในขณะที่เพิ่มดุลพินิจของเจ้าหน้าที่
นายคำนูณ สิทธิสมาน: (สื่อสารมวลชน นักเขียน ศิลปิน)
- มาตรา 13 ข้อ 2 ...........
- มาตรา 16 น่าจะปรับคำพูดเป็น “..... ในกรณีที่มีหลักฐานโดยชัดแจ้งว่า .....”
- ในประเด็นเรื่องพนักงานเจ้าหน้าที่ การจะให้มีอำนาจ ขอให้ร้องขอต่อศาล เพื่อให้ศาลอนุญาตให้ดำเนินการ เพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน และสอดคล้องกับมาตรการการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
- มาตรา 18 วรรคท้าย ที่กำหนดว่า ยึดแล้วภายใน 24 ชั่วโมงค่อยไปรายงานต่อศาล คิดว่าสายเกินไปที่จะรักษาสิทธิเสรีภาพของประชาชน อาจถูกกล่าวหาว่าเป็น ปร. 42 ฉบับดิจิทัล
นายไพศาล พืชมงคล: (ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ)
- กฎหมายนี้เป็นกฎหมายที่บัญญัติความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 3 เรื่อง ได้แก่ ความผิดต่อระบบคอมพิวเตอร์ ความผิดต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ และความผิดต่อข้อมูลจราจรคอมพิวเตอร์ โดยบัญญัติความผิดทางอาญา เช่น ต่อความมั่นคงของประเทศ ไม่ทราบว่าควรไปปรับปรุงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่ เพราะปัจจุบันสถานการณ์ทั้ง 3 เรื่องยังไม่นิ่ง
ดร. สมเกียรติ อ่อนวิมล: (สื่อสารมวลชน นักเขียน ศิลปิน)
- กฎหมายนี้กระทบสิทธิเสรีภาพพื้นฐานในการวิจารณ์รัฐหรือเปล่า
- ในส่วนหลักการ มีแค่เจาะระบบกับการเอาข้อมูลลามกอนาจารไปเผยแพร่ใช่หรือเปล่า
นายอรรคพล สรสุชาติ: (พรรคการเมือง)
- รัฐบาลให้ความสำคัญกับกฎหมายฉบับนี้มากขนาดให้เป็นกฎหมายฉบับแรกที่เสนอเข้าสภานิติบัญญัติเลยหรือ
- กฎหมายนี้มีส่วนที่ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เพราะรัฐบาล (โดยคณะรัฐมนตรี) ตัดส่วนที่อ้างถึงรัฐธรรมนูญออกไป มีอะไรที่จะรับรองสิทธิที่จะไม่ไปละเมิดในสิ่งที่ไม่ควรจะทำหรือไม่
- ถ้าไม่มีความระแวงสงสัยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็จะไม่ติดใจ แต่บางรัฐบาลใช้อำนาจในการไปละเมิดสิทธิส่วนบุคคล!!
- ไม่ควรออกมาเป็นร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์โดดๆ ควรมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลออกมาควบคู่กันไปด้วย
- จะให้ความมั่นใจแก่ประชาชนได้อย่างไรว่ารัฐจะไม่ไปล่วงละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน
นายบดินทร์ อัศวาณิชย์: (ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ)
- การออกกฎหมายนี้มีความจำเป็น จะรอให้ประเด็นต่างๆ นิ่งก่อนคงเป็นไปไม่ได้
- ห่วงใยว่า ไม่แน่ใจว่าท่านรัฐมนตรีต้องการให้กฎหมายครอบคลุมขนาดไหน
- คำจำกัดความ (definition) ของคำว่า ระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ตรงกับในกฎหมายอื่น
- ลักษณะความผิด ยังน้อยและแคบเกินไป หลายประเด็นยังไม่ได้ครอบคลุม อาทิ ประเด็นเกี่ยวกับความผิดที่ต่อเนื่อง เช่น ผู้ซื้อข้อมูลที่มีผู้ขโมย หรือได้มาโดยมิชอบ มีความผิดหรือไม่ หรือผู้ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้าสู่ระบบได้ เอาข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ มีความผิดหรือไม่ เป็นต้น
- ควรพิจารณาเรื่องขอบเขตอำนาจด้วย ควรให้กว้างกว่าหลักกฎหมายอาญาโดยทั่วไป
- โทษน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเทียบกับต่างประเทศ น่าจะเอาระบบการลงโทษทางแพ่ง ระบบความเสียหายเป็นพิเศษ มาพิจารณาใช้ด้วย
ดร. บวรศักดิ์ อุวรรณโณ: (นักวิชาการ)
- ควรทำให้ชัดเจนขึ้นในหลายประเด็น อาทิ รูปแบบของกฎหมาย ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2549 ข้อ 29 ต้องอ้างบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจ รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว มีมาตรา 3 ซึ่งบัญญัติว่า ...... สิทธิเสรีภาพที่ประชาชนได้รับการคุ้มครองอยู่ตามประเพณี .... ฉบับก่อนๆ ได้ให้ความคุ้มครองเสรีภาพในการสื่อสารถึงกัน ซึ่งถ้าออกกฎหมายไปจำกัดเสรีภาพตรงนั้น คงต้องระบุไว้ด้วย
- ต้องสำรวจว่า เสรีภาพในการสื่อสารถึงกันในอนุสัญญาต่างๆ ที่เราไปลงไว้เปิดสิทธิให้ทำได้หรือไม่
- ถือได้ไหมว่ามาตรา 29 เป็นประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตย และอ้างอิงว่า ทำได้ในพันธะกรณีระหว่างประเทศด้วย
- ประเด็นที่เกี่ยวกับสาระ ควรคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่ควรได้รับความคุ้มครอง การให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่ถึง 8 ข้อ ควรต้องมีศาลหรือคณะบุคคลมากลั่นกรองการใช้อำนาจด้วย
- ในมาตรา 13 การปลอมแปลงเอกสาร ปลอมของตัวเองก็ได้ ซึ่งการปลอมเอกสารตามกฎหมายอาญา น่าจะเป็นความผิดด้วย แต่ฉบับนี้ ยังคลุมไปไม่ถึง
- ไม่ได้ตอบคำถามว่า คนที่ไปบรรจุข้อมูลใน server ต่างประเทศ แล้วเผยแพร่เข้ามาในประเทศ จะมีความผิดหรือไม่
- อำนาจในการ block ข้อมูลที่อยู่ต่างประเทศ ที่ละเมิดต่อความมั่นคงของราชอาณาจักร เป็นอย่างไร
- ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายนี้กับกฎหมายอื่น หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ในกฎหมายนี้ กับกฎหมายอื่น เป็นอย่างไร
- ร่างกฎหมายในมาตรา 28 วรรค 2 ถ้าใช้อำนาจตามกฎหมายอาชญากรรม คงทำไม่ได้ เพราะไปตัดอำนาจตำรวจ สมควรหรือไม่ ถือเป็นการรวบอำนาจที่เกินกว่าเหตุหรือไม่
- โดยปกติถ้าเกิดความผิดอาญาขึ้น แล้วพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการ จะต้องไปขึ้นศาลยุติธรรม แต่ถ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจตามมาตรา 16 ซึ่งเป็นคำสั่งทางปกครอง ปกติต้องขึ้นศาลปกครอง จะก่อให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และก่อให้เกิดความสับสนของประชาชน อาจไปฟ้องผิดศาลได้
นายสมชาย สกุลสุรรัตน์: (สื่อสารมวลชน นักเขียน ศิลปิน)
- มาตรา 2 ความหมายของ “ผู้ให้บริการ” ควรกำหนดให้ชัดเจน ไม่เหวี่ยงแห เพราะอาจกระทบสิทธิเสรีภาพในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และในการเรียนรู้ โดยควรยกเว้นผู้ที่ให้บริการซอฟต์แวร์ในองค์กรด้วย
ดุลพินิจของพนักงานเจ้าหน้าที่อาจทำลายสิทธิเสรีภาพของประชาชน และปัจจุบัน การขออำนาจศาลสามารถทำได้รวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว
- ควรมีบทเฉพาะกาล เพื่อให้เวลาในการดำเนินการหลายเรื่องที่จำเป็น อาทิ เรื่องการอบรม, ให้เวลาคนได้ทำการ back-up ข้อมูล, การลงทุนอุปกรณ์ เป็นต้น
สรุป
ให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างฯ ให้เสร็จภายใน 45 วัน โดยคณะกรรมาธิการประกอบด้วย 25 ท่าน ดังนี้
รายชื่อที่เสนอโดยรัฐบาล
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (เป็นประธาน)
- นายอัครวัฒน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา
- พันตำรวจเอกญานพล ยั่งยืน
- นายทวีศักดิ์ กออนันตกูล
- นายสุเจตน์ จันทรังษ์
รายชื่อที่เสนอโดยสภานิติบัญญัติ
- นายสมเกียรติ อ่อนวิมล
- นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์
- นายพรเพชร วิชิตชลชัย
- นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา
- นายไกรสร พรสุธี
- นายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช
- นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ
- นายคำนูญ สิทธิสมาน
- นายสหัส ตรีทิพย์บุตร
- นายสมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์
- นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ
- นายสมภพ เจริญกุล
- นายภราเดช พยัฆวิเชียร
- นายปรัชญา เปี่ยมสมบูรณ์
- พลตำรวจโทชาตรี สุนทรศร
- นายปรเมศวร์ มินศิริ
- คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม
- นายชาติศิริ โสภณพนิช
- นายทวี สุรฤทธิกุล
- นางมาณี ไชยธีรานุวัฒน์ศิริ
กำหนดการแปรญัตติยื่นหนังสือขอแก้ไขภายใน 7 วัน
บันทึกโดย ชฎามาศ ธุวะเศรษฐกุล 19 พฤศจิกายน 2549
ไม่มีความเห็น