​บทเรียนจากการแชร์ Line


บทเรียนจากการแชร์ Line

ผมได้รับ Line จากผู้ที่ผมนับถือท่านหนึ่ง มีใจความดังนี้

รธน.นี้ ประชาชนเดือดร้อนตรงไหน ?

ก็เพราะในร่างดังกล่าวระบุว่า หากนักการเมืองมีการโกงกิน คอรัปชั่น ผลาญงบประมาณเป็นว่าเล่น มีโทษหนัก คือ ประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต ไม่มีการรอลงอาญา และมิให้ประกันตัวแล้วประชาชนเดือดร้อนตรงไหน?

เพราะเหตุใด? นักการเมืองทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ และอีกหลายๆพรรค ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับของ คสช.

คดีความต่างๆที่เกิดขึ้นในทางการเมือง คดีความจะไม่มีวันหมดอายุความเมื่อมีคดีความติดตัว คดีอยู่ระหว่างการดำเนินการของศาล หรือองค์กรอิสระ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศโดยเด็ดขาด แล้วประชาชนเดือดร้อนตรงไหน?

หากมีการตรวจสอบพบว่า มีการร่ำรวยผิดปกติ มีการฟอกเงิน มีการยักยอกทรัพย์สินของทางราชการหรืองบประมาณแผ่นดินไปเป็นของตนเองหรือพวกพ้อง ต้องโทษจำคุก 15 ถึง 30 ปี และยึดทรัพย์ที่ได้ไปโดยมิชอบนั้นให้ตกเป็นของแผ่นดิน แล้วประชาชนเดือดร้อนตรงไหน?นักการเมืองถึงรับไม่ได้ ทั้งอดีตฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลดาหน้าสามัคคีกันออกมาคัดค้าน เรียกหาประชาชนเป็นเครื่องมือเพื่อคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. แล้วประชาชนจะยอมเป็นเครื่องมือให้เขาอีกไหม?

ห้ามมิให้นักการเมืองใช้ช่องทาง VIP มิให้อำนวยความสะดวกให้แก่นักการเมือง ห้ามโดยสารเครี่องบินชั้น First Class ฟรี แล้วประชาชนเดือดร้อนตรงไหน?

พวกโกงกิน สปก. , สถานีตำรวจ, ถนนปลอดผุ่น, ครุภัณฑ์อาชีวะ, ไทยเข้มแข็ง, น้ำมันปาล์ม, ประกันราคาข้าว และจำนำจำนองข้าว ฯลฯ พวกนี้เป็นวัวสันหลังหวะ แถมเคยได้รับอภิสิทธิ์ต่างๆเหนือประชาชนมากมาย จึงกลัวร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาก ถึงได้ออกมาเรียกร้องให้คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ

เหมือนผีเห็นพระดีที่เราแขวนคออยู่ เรียกร้องให้เราถอดออก แล้วเราจะถอดออกเพื่อให้ผีมาบีบคอเราไหม?

กรุณาแชร์ต่อออกไปให้มากที่สุด เพื่อชาติไทยของพวกเราจะได้ปลอดคนโกงซะที “

ผมได้อ่านทบทวนข้อความนี้หลายครั้ง และมีความคิดว่า ถ้ารัฐธรรมนูญ เขียนไว้เช่นนั้นจะดีกับประเทศชาติ นักการเมืองจะได้เกรงกลัว และไม่กล้าทำสิ่งผิดๆที่เคยทำกันมาตลอด ข้อความดังกล่าว เป็นการสื่อข้อมูลเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้คิด ซึ่งไม่มีอะไรเสียหายกับผู้ใดทั้งสิ้นนอกจากนักการเมืองที่โกงกินประชาชน

ผมแชร์ข้อมูลดังกล่าวไปถึงกลุ่มต่างๆใน Line ที่ผมเป็นสมาชิกอยู่ประมาณ 14 กลุ่ม สมาชิกรวมประมาณ 500 ท่าน มีหลายท่านขอบคุณที่ส่งข้อมูลไปให้ กลุ่มอื่นๆส่วนมากก็เฉยๆ ไม่มีการแสดงความคิดเห็นอะไร ปล่อยผ่านไป โดยมีผู้อ่านมากกว่า 50 % มีอยู่กลุ่มหนึ่งที่มีสมาชิกเกือบ 100 ท่าน สมาชิกกลุ่มนี้มาจากตัวแทนของสมาคมการค้าที่เข้ามาร่วมกิจกรรมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สมาชิกท่านหนึ่ง เขียนมาเตือนผมว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีความคิดเห็นต่างกันมาก คุยกันหลังไมล์ดีกว่า ส่วนอีกท่านหนึ่งแจ้งว่ากลุ่มนี้เขาทำมาค้าขายกันข้อมูลเช่นนี้ไม่ควรนำมาเผยแพร่ ผมตกลงใจและคิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ จึงรีบเขียนลงไปว่าผมขอโทษจะรีบลบข้อความดังกล่าวออกจากกลุ่มนี้ แต่ไม่สามารถลบได้ จึงรีบเขียนแจ้งไปว่าผมไม่สามารถลบได้ ท่านใดทราบวิธีลบข้อความนั้นออกได้ช่วยลบให้ด้วย มีสมาชิกอีกท่านเขียนถึงผมว่าลบไม่ได้ครับ ผ่านไปแล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ให้ระวังหน่อยครับ คนที่เคยเขียนว่าผมไม่สมควรนำข้อความมาลง เขียนมาอีกครั้งนี้เขียนแบบไม่ดี ไม่สุภาพและว่ากล่าวถึงกลุ่มบุคคลที่สามและโจมตีผมโดยโยงไปถึงเรื่องทางการเมืองที่ผมไม่ได้เกี่ยวข้องและรู้เห็นด้วย ผมรู้สึกผิดที่ผมทำให้สมาชิกท่านอื่นๆ ได้รับบรรยากาศที่ไม่ดีใน line กลุ่ม ผมเป็นผู้ทำให้เกิดประเด็นที่ไม่สร้างสรรค์ขึ้นมา ผมจึงพิจารณาตัวเองและรีบถอนตัวเองออกจากกลุ่ม หลังจากนั้นก็มีสมาชิกในกลุ่ม 3 -4 ท่าน ส่งLine ส่วนตัวเข้ามาให้กำลังใจ และแจ้งว่าผมไม่ผิด และจะเชิญผมเข้ากลุ่มใหม่ ผมขอขอบพระคุณผู้ที่หวังดีและเข้าใจผม ที่กรุณามาให้กำลังใจ แต่ผมได้ตอบสมาชิกเหล่านั้นไปว่า ผมไม่ได้คิดอะไร และได้พิจารณาอย่างมีสติโดยรอบครอบแล้ว ว่าผมผิดพลาดไปจริง ไม่สมควรแชร์ข้อความนี้เข้าไปในกลุ่มนี้ตามที่สมาชิกได้ตำหนิมา ผมเป็นผู้ก่อปัญหาให้กับสมาชิกในกลุ่มต้องเดือดร้อน จึงต้องรับผิดชอบ

อย่างไรก็ตามการแชร์ข้อความดังกล่าวก็ได้รับการต้อนรับและให้ประโยชน์กับบางกลุ่ม โดยเฉพาะเมื่อวานได้พบกรรมการของพรรคประชาธิปัตย์ในงานประชุมงานหนึ่ง ท่านรีบตรงเข้ามาหาผมและแจ้งว่าจะมาคุยเรื่องที่นำข้อมูลเผยแพร่ในสื่อต่างๆ ท่านกระซิบให้ผมฟังว่าข้อมูลที่ลงไปนั้นพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้โต้แย้ง เห็นด้วยแต่มีข้อความอื่นในร่างรัฐธรรมนูญที่ คุณบวรศักดิ์ใส่ลงไปทำให้ประชาธิปัตย์ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับร่าง รัฐธรรมนูญ ของ คสช ผมจึงเรียนท่านไปว่า ท่านควรชี้แจ้งให้ชัดเจนว่าอะไรที่ทำให้ทางพรรคประชาธิปัตย์คัดค้าน ร่างรัฐธรรมนูญ โดยการเผยแพร่ ให้ประชาชนได้พิจารณาในข้อมูลต่างๆทุกด้านและทุกมิติ เพื่อประชาชนจะได้เลือกสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

24 เมษายน 2559

หมายเลขบันทึก: 605356เขียนเมื่อ 24 เมษายน 2016 18:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน 2016 18:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ผมได้นำบทความนี้เผยแพร่ในสื่อต่างๆหลายกลุ่มด้วยกันและได้รับการแสดงความคิดเห็นกลับมามากพอสมควรจึงขอนำสำเนามาลงเพิ่มเติมในการแสดงความเห็นในบทความนี้ครับ

สังคมนั้นการคือการที่คนเราหลายๆคนมาอยู่ร่วมกันจำนวนมาก
เเต่ธรรมชาติของคนเราเเม้อยู่คนเดียวก็ต้องมีกฏเกณฑ์
หน้าที่ที่พึงกระทำ อะไรทำได้ไม่ได้แค่ไหน ยิ่งการไปเกี่ยวข้องกับคนอื่นที่มากขึ้นก็ยิ่งมีปัญหาอีกมากมายที่อาจกระทบกันเเละกัน เบียดเบียนกัน เเต่การที่คนเราอยู่ร่วมกันเป็นสังคมเพราะเเสวงหาความมั่นคงความปลอดภัย ต้องการความสุขสะดวกสบาย การมีเกียรติ เเต่ตนเรานั้นมีอัตตา เเเละอัตตาที่มากเกินไปเเละการใช้วิธีที่ตอบสนองอัตตาด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องนำมาซึ่งปัญหา กระทบกระเทือนเกิดปัญหาต่อคนในสังคม ฉะนั้นจึงต้องมีกฏหมายเเละรัฐธรรมนูญ เเต่คนคือผู้สร้างผู้ควบคุมรัฐธรรมกฏหมาย กฏหมายเเละรัฐธรรมนูญจะสามารถดำเนินสู่เป้าหมายได้จริงเเค่ไหนอยู่ที่คนออกกฏหมายยุติธรรมหรือไม่ คนบังคับใช้เป็นกลางหรือไม่ ทั้งกฏหมายรธน.เองก็ก็ต้องประยุกต์ให้สอดคล้องสถานการณ์ เดต่กฏหมายเเละรัฐธรรมนูญเป็นเเค่องค์ประกอบหนึ่งที่จะสร้างสังคมที่สุขสงบสบาย เเต่ต้องมีอีกหลายองค์ประกอบประเทศสังคมจึงจะสามารถดำเนินสู่ประเทศที่เจริญสงบสุขสบายได้

ความเห็นของคุณคมเพชร ศรีมังคละ

คัดลอกมาจาก https://www.facebook.com/kingdragonmission?pnref=s...

ผมขอให้กำลังใจและสนับสนุน มล.ชาญโชติ ครับ ผมไม่คิดว่าจะเกี่ยวกับการเมืองตรงไหน แต่มันเป็นเรื่องของคนไทยทุกคนมากกว่า เราควรได้รับข้อมูลหลายๆ ทาง และข้อมูลที่ท่านแชร์ก็ถือเป็นข้อมูลที่เราจะศึกษา ผมพร้อมเปิดใจครับ

จากคุณไชวัฒน์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท