หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

วันวานรำลึก (๑๖) : จะทะเลาะเพื่อเลิกหรือเปล่า


"เธอเคยทะเลาะกับแม่แล้วมีความสุขไหม......เด็ก ๆ ส่ายหัว.....ใช่ ดังนั้น ถ้าเธอฝึกตนเองให้ทำบางสิ่งให้พ่อแม่หรือคนอื่นมีความสุข เธอจะรู้ว่า มันโคตรมีความสุขกว่าการทะเลาะกัน" ย้อนกลับไป ๑ ปี หลังได้ยินเรื่องราวนี้ โลกความคิดก็ถูกสะกิดให้ใคร่ครวญ

……………………………….

หลายครั้งการสื่อสารก็กลายเป็นปัญหาสำคัญในชีวิตที่อยู่ร่วม เมื่อคนเราคุยกันน้อยลงๆ

เหตุผลที่มักจะหยิบมาอ้างเวลาไม่คุย คือ
คบกันมานานขนาดนี้ยังไม่รู้อีกหรือ
เธอไม่เข้าใจฉัน ฉันก็เลยไม่อยากคุยกับเธอ
เธอรู้อยู่แล้ว อย่าทำเป็นไก๋ว่าไม่รู้เลย แก้ตัวอ่ะ
บลา..บลา...บลา

.................................

เมื่อเริ่มต้นคุยแล้ว ฝ่ายหนึ่งพาตัวเข้าไปอยู่ในกล่องความคิด
ต่อให้เปิดใจ อีกฝ่ายก็ไม่สามารถเข้ามาสัมผัสได้ว่ารู้สึกอะไรอยู่

.................................

ไม่ว่าใครก็เรียกร้องให้คนอื่นมาเข้าใจตัว
แล้วบ่อยครั้งตัวก็ลืมทำความเข้าใจคนอื่น เป็นอย่างนี้แล
แล้วความเข้าใจจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
..................................

ใจอยู่ห่าง แม้กายใกล้ชิด
ความเป็นคนใกล้ชิดย่อมเปลี่ยนแปร เมื่อใจอยู่ห่างกัน
ยิ่งพาตัวเข้าไปท่องเที่ยวในกล่องความคิดมากหลาย
ก็ยิ่งทำให้ไม่ได้คุยกัน
เมื่อนั้นก็มิอาจใช่คน(ใจ)ใกล้ชิดได้อีกต่อไป

มีอะไรให้คุยกันไม่สำคัญเท่ากับมีอะไรให้ฟังกัน
หลายๆครั้งที่คนไม่ค่อยชอบฟังคนอื่นพูด
หลายๆครั้งที่เมื่อฝ่ายหนึ่งเริ่มพูด
อีกฝ่ายก็เริ่มต้นแย้งว่า ไม่ใช่อย่างนั้น
แย้งด้วยความเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ถูก
เมื่อไรที่คนคิดต่างไป คนนั้นก็คิดผิด

การติดกับ ตกลงไปอยู่ในกล่องความคิด ถูก-ผิด ก็สำคัญ
......................................

ถ้าคนหมั่นฝึกตัวเองให้ฟังคนที่คิดต่างจากตัวได้
ยอมรับได้ว่าทุกชีวิตมีสิทธิ์คิดต่าง
ฝึกละวางการยึดความคิดตัวเป็นศูนย์กลาง
ฝึกละวางการตัดสินคนอื่นที่คิดต่างว่ายึดความคิดตัวเป็นศูนย์กลาง
ความขัดแย้งจะเกิดน้อยลงไปเรื่อยๆ
ประตูใจจะเลื่อนเปิดให้ใจที่อยู่ห่างจัดวางตัวเองใหม่
ความเย็นสบายบางอย่างจะแผ่ซ่าน ห่มใจให้เย็น
ใจสบาย กายก็สบาย....สภาวะใหม่ๆแห่งชีวิตก่อกำเนิด
.....................................

เมื่อไรที่คุยกันแล้วความขัดแย้งก่อตัว
ให้เอะใจว่า เวลานั้น คนได้พาตัวหลุดจากการฟังอีกฝ่ายไปซะแล้ว
และพาตัวไปสู่การให้ความสำคัญกับตัวเองที่สุด

....................................

บทเรียนแห่งความขัดแย้งเล็กๆ สอนให้รู้ว่าเมื่อเรากำลังให้ความสำคัญกับตัวเอง ประตูใจของเราจะเลื่อนปิดลง ไม่สนกับใจใครนอกจากใจตัวเอง
และบัดนั้นมารจะตามมาผจญ
กล่าวส่อเสียด ยุแยง จนเกิดความกังขา ความข้องใจ
ชวนให้หูเลือกฟังแต่เสียงเรียกร้องของตัวเราเอง
สร้างนิยายเรื่องยาวหลากหลายเรื่อง ฟังจนเพลิน
เพลินขนาดยอมให้มารจูงไปกระโดดหน้าผาความโกรธ
กระโดดแล้วยังหลงเพลินคลุกกับความโกรธ
จนลืมไปว่า.....แท้จริงแล้ว คนทุกคนปรารถนาความรัก ความเมตตาจากกันและกัน อยากทำความดี

.......................................

ขอบคุณครูณา เจ้าของเรื่องเล่าของเด็กๆ

๗ มีนาคม ๒๕๕๘

คำสำคัญ (Tags):
หมายเลขบันทึก: 603101เขียนเมื่อ 8 มีนาคม 2016 00:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มีนาคม 2016 00:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

A friend of mine puts up 1 thumb when he agrees (with his wife); 1 finger (an index) when he wants to argue a point; 2 fingers (index and thumb) when he wins an arguement; ...

In doing so he claims to keep "in communicado" but not to go into "emotional outbursts".

I can see some values in using "emojis" or "symbols" in talking. Can we?

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท