วันก่อนผมได้ไปเที่ยวชมความงามของดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน นครปฐม ตามที่สื่อและหลายๆคนเชิญชวนมา ดูแล้วงดงามจริงๆ ไม่แพ้ซากุระที่สวนอูเอโนะและทะเลสาปฮามานะของญี่ปุ่นที่เคยไปดูมา
แม้อากาศบ้านเราจะไม่เย็นเหมือนบ้านเขา แต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์อากาศยังไม่ร้อนและมีลมพัดเย็นสบาย ถึงไม่ใช่วันหยุดแต่ก็มีคนมาเที่ยวกันหนาตาตลอด แต่ละคนแต่ละกลุ่มต่างบันทึกภาพในลีลาต่างๆกันอย่างมีความสุข ได้เห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวแต่งชุดวิวาห์มาถ่ายภาพกันเหมือนที่ญี่ปุ่น แต่ยังไม่เห็นภาพการจับจองที่นั่งสังสรรค์กันใต้ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์เหมือนใต้ต้นซากุระที่สวนอูเอโนะ
ต้องชื่นชมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ที่ปลุกกระแสการท่องเที่ยวเรื่องนี้ขึ้นมา ผมคิดว่ารัฐบาลน่าจะต่อยอดแนวคิดนี้พัฒนาให้เกิดแหล่งท่องเที่ยวในประเทศเราหลายๆจังหวัดให้มากขึ้น ซึ่งบ้านเรามีต้นไม้ดอกไม้สวยๆไม่แพ้ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนางพญาเสือโคร่ง เหลืองปรีดียาธร ราชพฤกษ์(คูน) ตะแบก/อินทนิล/เสลา สุพรรณิการ์ ทองกวาว(จาน) หางนกยูง เป็นต้น หากเราส่งเสริมให้ปลูกกันเป็นกลุ่มเป็นแนว ทั้งเป็นสวน และปลูกให้ยาวเหยียดไปตามสองฝั่งถนนอย่างอลังการ์ โดยอาจกำหนดให้มีดอกไม้ประจำจังหวัดและบริหารจัดการให้ปลูก ดูแลกันอย่างเป็นระบบระเบียบ สร้างมูลค่าเพิ่มทั้งด้านรายได้และความเป็นเอกลักษณ์ของชาติให้โดดเด่น บ้านเราก็จะเป็นเมืองที่งดงามน่าเที่ยวลำดับต้นๆของโลกทีเดียว
เห็นด้วยครับอาจารย์
มีอย่างหนึ่งคือเรื่องระเบียบ คนไทยเรายิ่งมีน้อยด้วย
ผมไปวันมาฆะบูชา
รถติดมาก
ไม่มีที่จอด
จอดในที่ไม่ควรจอด
ควรจัดการบริหารเรื่องนี้ให้ดี จะเยี่ยมมากครับ