“สหกรณ์เป็นองค์กรอิสระทางด้านเศรษฐกิจและสังคมรูปพิเศษ มีสภาพเป็นนิติบุคคล
ที่ผู้คนจัดตั้งขึ้นด้วยความสมัครใจ มีการบริหารจัดการวิสาหกิจและควบคุมตามรูปแบบประชาธิปไตย เพื่อสนองความต้องการ
ที่จำเป็น มุ่งหวังที่จะช่วยตนเองและช่วยเหลือกันและกัน โดยไม่มุ่งแสวงหากำไรเป็นที่ตั้ง และกำไรที่เกิดขึ้นจะถูกจัดสรรกลับไปพัฒนาองค์กร บำรุงขวัญกำลังใจ และส่งเสริมสนับสนุนคุณภาพชีวิตสมาชิก ชุมชน และสังคม”
นิยามนี้ผมใช้อธิบายแก่สมาชิกสกรณ์ ที่เข้ามาเรียนกับผม ตามที่เห็นว่า ถ้าเป็นสหกรณ์ในไทยตามนิยามแล้วหน้าตาสหกรณ์ไทย จะเป็นอย่างไร คืออ่านแล้วเห็นภาพชัด ๆ หน่อย ก็เลยต้องบูรณาการว่า พ.ร.บ.เรากำหนดให้ ต้องเป็นนิติบุคคล เพราะถูกบังคับให้จดทะเบียน ถ้าไม่จดทะเบียน นำคำว่าสหกรณ์ไปใช้ไม่ได้ เป็นองค์กรทางเศรษฐกิจและสังคมรูปพิเศษ ให้เป็นไปตามทฤษฎีวิชาการทางเศรษฐศาตร์และสังคม ที่แบ่งสหกรณ์ออกเป็นสังคมนิยมประชาธิปไตย คือเศรษฐกิจและสังคมรูปพิเศษ นอกนั้นก็ครอบคลุมอยู่ในนิยามาของ ไอ ซี เอ และปรมาจารย์สหกรณ์ทั้งหลาย ตอนท้ายมาเน้น เรื่องที่สังคมถกเถียงกันมาก คือ สหกรณ์ไม่แสวงหากำไร จริง ๆ แล้วไม่ใช่ไม่เอากำไร สหกรณ์ไม่แสวงหากำไรเป็นที่ตั้ง หมายถึง เน้นที่ปรัชญาสหกรณ์ คือช่วยตนเองและช่วยเหลือกันและกัน จึงนำเอาแนวคิดของโรเบอร์ตโอเวน บิดาสหกรณ์มาขมวดท้ายไว้ คือ จำหน่ายสินค้าราคาต่ำพอคุ้มทุน คือไม่มุ่งหวังแสวงหากำไรเป็นที่ตั้ง และเรื่องจัดสรรเงินกำไร ก็ใช้ทฤษฎีแนวคิด ของชาญเฮาวัท แห่งร้านสหกรณ์รอชเดล มากตบท้ายไว้ ทั้งหมดที่ผมใช้สอนได้ได้ตรัสรู้เอง แต่ได้มาจากกการค้นคว้าศึกษา ทฤษฎีและหลักวิชาการที่ได้รับการยอมรับเป็นสากลแล้วทั้งสิ้นครับ
อย่างไรก็ตามคำนิยามนี้ กินความครอบคลุมนิยามความหมายของ ไอ ซี เอ และปรมาจารย์สหกรณ์ทั้งหลาย
ไม่มีความเห็น