ระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยงานฝึกอบรม
เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน และการดำเนินการฝึกอบรม พ.ศ. ๒๕๔๙
อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๑๗ แห่งประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ลงวันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ซึ่งออกตามความในกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. ๒๕๔๙ อันเป็นกฎหมายที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๑ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน และการดำเนินการฝึกอบรม พ.ศ. ๒๕๔๙”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศเป็นต้นไป
หมวด ๑
การขึ้นทะเบียน
ข้อ ๓ การขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานมี ๕ ระดับดังต่อไปนี้
(๑) หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับหัวหน้างาน
(๒) หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับเทคนิค
(๓) หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับเทคนิคขั้นสูง
(๔) หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับวิชาชีพ
(๕) หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับบริหาร
ทั้งนี้ หน่วยงานตามข้อ ๑๖ แห่งประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ลงวันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ สามารถขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานหนึ่งระดับ หรือหลายระดับได้
ข้อ ๔ หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
(๑) มีบุคลากรซึ่งมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทำหน้าที่บริหารจัดการการฝึกอบรมอย่างน้อยหนี่งคน
(๒) มีวิทยากรซึ่งมีคุณสมบัติตามข้อ ๑๕ ปฏิบัติงานเต็มเวลาในหน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานอย่างน้อยหนึ่งคน เว้นแต่หน่วยงานตามข้อ ๑๖ (๕) แห่งประกาศกรมสวัสดิการและคุมครองแรงงาน เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ลงวันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙
(๓) มีเอกสารประกอบการฝึกอบรมที่มีเนื้อหาและรายละเอียดตามที่หลักสูตรการฝึกอบรมเจ้าหน้า ที่ความปลอดภัยในการทำงานกำหนดไว้ในแต่ระดับที่ขอขึ้นทะเบียน
(๔) มีอุปกรณ์ประกอบการฝึกอบรมที่เหมาะสมกับหลักสูตรเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานในแต่ระดับที่ขอขึ้นทะเบียน
(๕) ในกรณีที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด หรือกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งนิติบุคคลอื่น หรือสถาบันอุดมศึกษาต้องได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ หรือประกันคุณภาพการศึกษา แล้วแต่กรณี เว้นแต่เคยเป็นหน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานตามประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ลงวันที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ต้องดำเนินการให้ได้รับการรับรองดังกล่าวภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ขึ้นทะเบียนตามระเบียบนี้
(๖) ไม่เคยถูกเพิกถอนการขึ้นทะเบียน เว้นแต่กำหนดสามปีนับแต่วันที่เพิกถอนการขึ้นทะเบียน
(๗) ไม่มีผู้มีอำนาจกระทำการแทน กรรมการ ผู้บริหาร หุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นหรือเคยเป็นกรรมการของหน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานอื่นที่ถูกเพิกถอนการขึ้นทะเบียน เว้นแต่พ้นกำหนดสามปีนับแต่วันที่เพิกถอนการขึ้นทะเบียน
ข้อ ๕ ให้หน่วยงานที่มีความประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานยื่นคำขอพร้อมเอกสารดังต่อไปนี้ต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย
(๑) สำเนาเอกสารที่แสดงถึงความเป็นหน่วยงานตามข้อ ๑๖ แห่งประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ลงวันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙
(๒) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยงาน
(๓) สำเนาทะเบียนบ้านของผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยงาน
(๔) แผนที่แสดงที่ตั้งของหน่วยงานโดยสังเขป
(๕) เอกสารแสดงรายชื่อ และวุฒิการศึกษาของบุคลากรซึ่งทำหน้าที่บริหารจัดการฝึกอบรม
(๖) เอกสารแสดงรายชื่อ และคุณสมบัติของวิทยากร รวมทั้งหนังสือยืนยันการเป็นวิทยากรให้กับหน่วยงานสำหรับวิทยากรอื่นซึ่งมิได้ปฏิบัติงานเต็มเวลา
(๗) เอกสารประกอบการฝึกอบรมตามหลักสูตรการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานในแต่ละระดับที่ขอขึ้นทะเบียน
(๘) เอกสารแสดงรายการอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบในการฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติในหลักสูตรการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานในแต่ละระดับที่ขอขึ้นทะเบียน
(๙) สำเนาเอกสารรับรองระบบการบริหารงานคุณภาพ หรือประกันคุณภาพการศึกษา
(๑๐) เอกสารแสดงรายชื่อผู้มีอำนาจกระทำการแทน กรรมการ ผู้บริหาร หุ้นส่วน หรือผู้ถือหุ้นของหน่วยงาน
(๑๑) เอกสารแสดงแผนและเป้าหมายการจัดฝึกอบรม พร้อมอัตราค่าบริการที่จะเรียกเก็บจากผู้เข้ารับการฝึกอบรม
ให้ผู้มีอำนาจกระทำการแทนหน่วยงานลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องของเอกสารตามวรรคหนึ่ง
ข้อ ๖ เมื่อมีการยื่นคำขอตามข้อ ๕และอธิบดีพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ยื่นคำขอมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ ๔ ให้อธิบดีขึ้นทะเบียนผู้ยื่นคำขอนั้นเป็นหน่วยงานฝึกอบรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน และออกใบทะเบียนพร้อมมีหนังสือแจ้งให้ผู้ยื่นคำขอทราบภายในห้าวันนับแต่วันที่ขึ้นทะเบียน
ในกรณีที่อธิบดีพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้ยื่นคำขอขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างหนึ่งอย่างใดตามข้อ ๔ ให้อธิบดีมีหนังสือแจ้งให้ผู้ยื่นคำขอทราบโดยเร็ว
ข้อ ๗ ในกรณีที่ปรากฏว่าหน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ตามข้อ ๖ แล้วขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามอย่างหนึ่งอย่างใดตามข้อ ๔ ให้อธิบดีเพิกถอนการขึ้นทะเบียน
ข้อ ๘ ในกรณีที่ปรากฏว่าหน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ตามข้อ ๖ มีการเปลี่ยนแปลงที่ตั้ง สถานภาพของหน่วยงาน วิทยากรฝึกอบรม หรือ เปลี่ยนแปลงอื่นใดจากที่ได้ยื่นคำขอขึ้นทะเบียนไว้ ให้หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ในการทำงานนั้นส่งเอกสารแสดงการเปลี่ยนแปลงนั้นต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายภายใน สามสิบนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง
ข้อ ๙ หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ตาม ข้อ ๖ อาจยื่นคำขอต่ออายุการขึ้นทะเบียนได้ภายในระยะเวลาสามสิบวันก่อนวันที่การขึ้นทะเบียนจะสิ้นสุดลง
ให้นำความในข้อ ๕ ข้อ ๖ ข้อ ๘ มาใช้บังคับแก่การยื่นคำขอต่ออายุการขึ้นทะเบียนโดยอนุโลม
หมวด ๒
การดำเนินการฝึกอบรม
ส่วนที่ ๑
บททั่วไป
ข้อ ๑๐ หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานต้องดำเนินการฝึกอบรมตามที่หลักสูตรการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานแต่ละระดับกำหนดไว้
ในการฝึกอบรมภาคปฏิบัติ หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานต้องจัดให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้รับการฝึกอบรมภาคปฏิบัติในสถานที่จริง และได้รับการฝึกอบรมโดยใช้อุปกรณ์ประกอบการฝึกอบรมอย่างทั่วถึง
ข้อ ๑๑ การฝึกอบรมภาคทฤษฎี หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานต้องจัดให้ห้องฝึกอบรมหนึ่งห้องมีผู้เข้ารับการฝึกอบรมไม่เกินหกสิบคน และวิทยากรอย่างน้อยหนึ่งคน
การฝึกอบรมภาคปฏิบัติ หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานต้องจัดให้มีวิทยากรอย่างน้อยหนึ่งคนต่อผู้เข้ารับการฝึกอบรมไม่เกินยี่สิบคน
ข้อ ๑๒ ให้หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานแจ้งกำหนดการ ฝึกอบรมแต่ละครั้งต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายก่อนวันฝึกอบรมไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน
ข้อ ๑๓ ให้หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการฝึกอบรม และเอกสารประเมินผลการฝึกอบรมของผู้ผ่านการฝึกอบรมแต่ละราย โดยให้วิทยากรซึ่งเป็นผู้ดำเนินการฝึกอบรมเป็นผู้รับรองเอกสารดังกล่าว และส่งเอกสารนั้นต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายภายในสามสิบวันนับแต่วันที่เสร็จสิ้นการฝึกอบรม
ข้อ ๑๔ ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอำนาจเข้าไปในสำนักงานของหน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน และสถานที่จัดการฝึกอบรมในเวลาทำการ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ตรวจสอบ หรือควบคุมให้หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดำเนินการฝึกอบรมให้เป็นไปตามระเบียบนี้
ส่วนที่ ๒
วิทยากร
ข้อ ๑๕ หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานต้องจัดให้มีวิทยากรที่มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ตามเนื้อหาวิชาที่หลักสูตรเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานกำหนด และมีคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
(๑) เป็นหรือเคยเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการที่มีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีสาขาอาชีวอนามัย หรือเทียบเท่า หรือผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรด้านความปลอดภัยในการทำงานของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ทั้งนี้ ต้องปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการทำงานมาไม่น้อยกว่าห้าปี และมีประสบการณ์การเป็นวิทยากรเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานไม่น้อยกว่าสามปี
(๒) เป็นอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐหรือเอกชนที่สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีสาขาอาชีวอนามัย หรือเทียบเท่า โดยสอนวิชาที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน และมีประสบการณ์การสอนเกี่ยวกับวิชาดังกล่าวไม่น้อยกว่าสามปี
(๓) เป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์ในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อวิชาที่บรรยายไม่น้อยกว่าห้าปี หรือเป็นผู้ปฏิบัติงาน โดยตรงเกี่ยวกับการพัฒนาองค์ความรู้หรือมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการทำงานไม่น้อยกว่าห้าปี ทั้งนี้ มีประสบการณ์การเป็นวิทยากรเกี่ยวกับหัวข้อวิชาที่บรรยายมาไม่น้อยกว่าสามปี
วิทยากรตามวรรคหนึ่งต้องเข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติม หรือพัฒนาความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานอย่างต่อเนื่องปีหนึ่งไม่น้อยกว่าสิบสองชั่วโมง
ข้อ ๑๖ ให้หน่วยงานฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานส่งหลักฐานการฝึกอบรมเพิ่มเติมหรือการพัฒนาความรู้ของวิทยากรตามข้อ ๑๕ ต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายภายในวันที่ ๑๕ ของเดือนมกราคมนับแต่วันสิ้นปีปฏิทิน
ประกาศ ณ วันที่ ๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙
(นายผดุงศักดิ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา)
อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
โดย นายนรินทร์ แก้ววารี เจ้าพนักงานแรงงาน
อยากจะขึ้นทะเบียนครับ ต้องไปทำอะไรอย่างไร และมีค่าใช้จ่ายหรือเปล่าครับ ติดต่อหน่วยงานไหนครับ