"ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ"

“ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ”

ประเทศไทยตั้งอยู่ตั้งอยู่ในเขตอบอุ่นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของทวีปเอเซีย มีลักษณะภูมิอากาศแบบร้อนชื่นและมีฝนตกชุบ มีสภาพภูมิประเทศที่ติดกับชายฝั่งทะเลไปจนถึงยอดเขาสูง จึงส่งผลให้ประเทศไทยมีลักษณะทรัพยากรป่าไม้ที่มีความหลากหลายชนิดและกระจายอยู่ทั่วทุกภาพของประเทศ เช่น ภาคใต้และภาคตะวันออกมีลักษณะพื้นที่เป็นป่าดิบชื้นมีปริมาณฝนตกชุบ ส่วนพื้นที่ชายฝังทะเลและบริเวณปากแม่น้ำก็เป็นป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์เป็นที่อยู่อาศัยแหล่ะเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ทางภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือนั้นมีสภาพพื้นที่ป่าที่หลากหลายไปด้วยเช่น ป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง ป่าสนเขา ป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง ส่วนทางภาคกลางและภาคตะวันตกก็มีพื้นที่ป่าไม้กระจายอยู่ทั่วไป

ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยทรัพยากรทางชีวภาพที่มีความหลากหลายเป็นแหล่งรวมทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต เนื่องจากมีสภาพภูมิอากาศและลักษณะของภูมิศาสตร์เป็นตัวกำหนดให้เกิดระบบนิเวศวิทยาที่มีความแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น ชนิดพันธุ์ พืชพรรณธัญญาหาร ล่วงเป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ได้เป็นอย่างดี จนมีคำกล่าวว่า “ทรัพย์ในดิน สินในน้ำ” เพราะลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่ตั้งของประเทศไทยได้เอื้ออำนวยต่อความหลากหลายทางชีวภาพอีกทั้งทรัพยากรป่าไม้นั้นมีคุณประโยชน์กับมนุษย์มากมาย เป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์อีกทั้งยังทำให้เกิดความชุ่มชื่นในอากาศทำให้ฝนตกลงมาได้ตามฤดูกาลและเมื่อใดก็ตามที่มีปริมาณน้ำฝนมีมาก ป่าไม้ก็จะดูดซับน้ำไว้ช่วยบรรเทาการเกิดอุทกภัยและกักเก็บน้ำไว้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร นอกจากนี้ป่าไม้ยังเป็นที่อยู่ของสัตว์น้อยใหญ่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและยังเป็นห้องสมุดหลังใหญ่ให้เราได้ศึกษาหาความรู้ได้อย่างไม่มีวันจบสิ้น

แต่สถานการ์ในปัจจุบันเป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ทั้งๆที่ประเทศไทยเราเคยมีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เคยอุดมสมบูรณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปมาก สาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่กลายเป็นที่อยู่อาศัย พื้นที่ทำการเกษตร โรงงานอุตสาหกรรม สนามกีฬา และการลักลอบเข้าไปครอบครองเพื่อสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติอย่างผิดกฏหมาย ทำให้สภาพป่าเสื่อมโทรมและขาดต้นไม้ที่จะชะลอการไหลของน้ำรวมทั้งการพัฒนาเส้นทางการคมนาคมในพื้นที่บางแห่งที่ไปปิดกั้นหรือขวางทางน้ำตามธรรมชาติ จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยประสบกับภัยพิบัติ สร้างความเสียหายและส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ สังคม การเมือง การปกครอง เกษตรกรรม อุตสาหกรรมและสาธารณสุข รัฐบาลต้องเสียงบประมาณในการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ประสบภัยตลอดจนการบูรณะฟื้นฟูและซ่อมแซ่มสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างจากภัยพิบัติ

อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติได้มอบสิ่งที่มีคุณค่าและประโยชน์มากมายกับสังคมไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม เพียงแต่เราต้องรู้จักนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยในการวางแผนการ การมองปัญหาต่างๆ ได้กว้างขึ้นกว่าเดิม ปกติคนเราจะมองเพียงแค่ผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจอย่างเดียวจึงก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมแก่ทรัพยากรธรรมชาติ ฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่จะต้องช่วยกันดูแลรักษาป่าไม้เหล่านี้ให้อยู่เคียงกับเมืองไทยตลอดไป