ทำไมผมจึงไม่แนะนำให้เริ่มเรียนจาก "พระเก๊" เนื้อพลาสติก
ทำไมผมจึงไม่แนะนำให้เริ่มเรียนจาก "พระเก๊" เนื้อพลาสติก
********************************
จากการศึกษาพระเก๊ทั้งหมดที่ผมมี และเคยเห็นมา เกือบ 100% ทำมาจากพลาสติก หรือสารสังเคราะห์แบบต่างๆ ที่ดูคล้ายกับวัสดุธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเห็น คล้ายดิน คล้ายเม็ดทราย คล้ายปูนเปลือกหอย คล้ายสีสนิม คล้ายมวลสารในองค์พระ คล้ายน้ำว่าน คล้ายตังอิ้ว คล้ายคราบกรุ ฯลฯ
เขาใช้สารสังเคราะห์สารพัดรูปแบบมาทำให้ดูใกล้เคียง ได้ทุกอย่าง
ใครที่เริ่มต้นหัดส่องพระที่ไม่เคยเห็นวัสดุธรรมชาติ จะหลงหมดทุกคน รวมทั้งผมด้วย
แต่สำหรับผม มีพื้นฐานทางธรณี ดิน หิน แร่ โลหะ ปฏิกริยาทางคมี คุ้นเคยกับสีสนิมโลหะชนิดต่างๆ ทั้งโลหะเดี่ยว และโลหะผสม ผมก็เลยมีข้อสงสัย และนำไปเปรียบเทียบกับของจริง ที่เป็นวัสดุธรรมชาติ
เช่น ดิน หิน เม็ดทราย แร่ โลหะ การเกิดสนิมโลหะแบบต่างๆ และ โทนสีของสนิมโลหะ ชนิดต่างๆ ทำให้เกิดข้อสงสัยมาก และนำกลับมาเปรียบเทียบ แยกแยะว่า น่าจะใช่ หรือ ไม่น่าจะใช่ จนสามารถกำหนดหลักการต่างๆ เพื่อการแยกแยะงานฝีมือ ออกจากวัสดุธรรมชาติต่างๆ โดยลำดับ
เมื่อแยกได้แล้วก็มองย้อนกลับไปพิจารณาความผิดพลาดของตัวเอง ที่มี 3 ประการหลักๆ คือ
ก. เริ่มเรียนจากพระเก๊
ข. เริ่มจากตำราสอนให้ดูพระเก๊เป็นพระแท้ และ
ค. ใช้หูดูพระ (ใครว่าอย่างไรก็เชื่อเขา และนำพระไปเที่ยวถามความเห็นจากคนอื่น)
ทำให้ผมเสียเวลา เสียเงินอย่างมากมาย โดยแทบจะไม่ได้อะไรเลย
ที่ได้บ้างก็เป็นพระเหมายกบ้าน ที่ก็เก๊เกือบทั้งหมด มีแท้บ้างก็นำมาตรวจสอบเทียบกับวัสดุธรรมชาติ และใช้เป็นองค์ครูในระยะต่อๆมา
ฉะนั้น พระแท้องค์แรกๆของผม ต้นทุนอย่างน้อยก็หลักแสน จนถึงหลักล้าน
คือลงทุนไปเป็นแสนหรือเป็นล้าน กว่าจะได้พระแท้มาสักองค์
----------------------------------------
หลังจากทบทวนชัดเจนแล้ว ก็ได้กำหนดหลักการ เพื่อการเรียนที่เร็ว และประหยัดที่สุดสำหรับทุกคน
โดยขอให้เริ่มจากวัสดุดังเดิม ที่มั่นใจว่าแท้ อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น ดิน หิน ปูน ทราย โลหะ แร่ เปลือกหอย ฯลฯ ที่พอหาได้ ให้นำมาส่องจนเข้าใจและติดตา
แล้วนำความเข้าใจนั้นไปหาส่องพระแท้ๆ ที่รู้ชัดแจ้งว่าไม่เก๊ ถ้าสงสัยให้เว้นไว้ก่อน
พอชัดแล้วค่อยขยับไปทีละเรืองๆๆๆๆๆๆๆ จนครบประเด็นที่จำเป็นต้องรู้
----------------------------------------
ทำดั่งนี้แล้ว ท่านจะเริ่มต้นด้วยความรู้ที่มั่นใจได้ ไม่คลอนแคลนไปกับของเก๊ ตำราเก๊ หรือคำหลอกลวงของใคร
จะพลาดน้อยลงๆๆๆๆๆๆๆๆ และเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว
-------------------------------------
สำหรับท่านที่หลงทางไปแล้ว ให้รีบกลับตัวกลับใจเสียใหม่
แต่ถ้าอาการสาหัส แก้ไขยาก ผมขอแนะนำใหเลิกไปจะปลอดภัยกว่า
ชีวิตเรายังมีทางเลือกอีกมากมาย อย่ามาเสียเวลากับเรื่องที่มีปัญหา ที่ท่านไม่ถนัดเลยครับ
โดยเฉพาะท่านที่ "ตาเสีย สมองฟั่นเฟือน หูอื้อ" เพราะข้อผิดพลาดไปหลงส่องพระเก๊ อ่านตำราพระเก๊ และใช้หูดูพระ จนทำให้ระบบการเรียนเสียหายไปหมด
--------------------------------------
นี่คือที่มาของข้อแนะนำต่างๆ ที่ทุกท่านจะได้ยินจากผม
เพราะเป็นประสบการณ์ตรงของผมเอง
ผมพลาดมาแล้ว ก็ไม่อยากให้ใครพลาดเหมือนผมอีก
--------------------------------
ด้วยความปรารถนาดีกับทุกท่านครับ
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น