​‪วราภรณ์ สายทอง‬ : พาแม่กลับบ้าน


เราผ่านเรื่องราวเหล่านี้มากับตัว เพราะคุณแม่เป็นมะเร็งตับอ่อน

มันทำใจให้ปวดร้าวมาก ที่ต้องเห็นคนที่เรารัก กำลังจะจากไป แต่เราก็นำแม่กลับบ้าน โดยไม่ทำอะไรเลย เพราะหมอบอกว่าระยะสุดท้ายแล้ว และอยากบอกว่า คนป่วยทุกคน เวลาเค้าเจ็บป่วย เค้าต้องการคนที่เค้ารักให้อยู่ใก้ลชิด และอยู่ในที่เดิมๆที่เค้ามีชีวิตอยู่ ถัารักษาไม่หายแล้ว เราเห็นด้วย ให้นำกลับบ้านมารักษาตามอาการที่บ้าน เค้าจะมีความสุขกว่าอยู่โรงพยาบาล เพราะมันอบอุ่นกว่า แต่ในรายที่กลับไม่ได้ก็จนใจ

หมอบอกคุณแม่จะอยู่ได้เพียงสองอาทิตย์ แต่คุณแม่อยู่ได้เกือบสี่เดือน จากกำลังใจที่คนใกล้ชิดให้

การนำคนที่เรารักกลับบ้านนั้น ไม่ใช่คนไข้อย่างเดียว ดิฉันยังมีคนที่รักที่ไม่ได้เจ็บป่วยทางกาย แต่เจ็บป่วยทางใจร่วมอยู่ด้วย มันเป็นการยากมากที่จะอธิบายว่า เหตุใด จึงต้องนำกลับ ยากกว่าคนไข้อีก เพราะคนไข้พอจะพูดกันได้ ดิฉันให้คุณแม่อยู่รพ. ให้คุณหมอรักษาตามอาการ ตัวเองกลับมาบอกกับคนที่ป่วยทางใจ พยายามอธิบาย แต่ยังไม่พูดความจริงทั้งหมด เอากลับมารอให้แข็งแรงก่อน เพราะถ้าบอกความจริง กลัวคุณพ่อรับไม่ได้

น้องๆ บางคนมีปัญหา แต่ก็พอเค้าใจ ดิฉันรักษาคุณแม่อย่างดี เพื่อให้ทุกคนเห็นว่า ดิฉันมิได้เสียดายเงินค่ารักษา เมื่อรับตัวคุณแม่กลับมา ดิฉันก็ยังพาคุณแม่ไปหาหมอ ทั้งที่ไม่จำเป็นเลย แต่บอกคุณหมอว่า คนไม่เจ็บป่วยกว่าดิฉันต้องทำ

คุณแม่อยากบวชน้องชาย ทำให้แม่มีความสุข ดิฉันข้ามขั้นตอนการรักษาทั้งหมด

คุณหมอถามจะเจาะคอให้อาหารเอามั้ย ผลคือ คุณแม่จะพูดไม่ได้และเจ็บ

ดิฉันไม่ทำ คุณแม่พูดกับคนใกล้ชิดจนจากไป แม่มีความสุข เราได้ดูแลแม่ตามอาการ และปรึกษาหมอตามอาการ

แต่ที่สำคัญมากๆ สำหรับดิฉัน คือ คนที่ยังต้องอยู่ ต้องดูแล อย่าคิดว่าไม่สำคัญ และคนไข้ต้องมีความสุขกับชีวิตที่เหลือ แม่จะคุยกับดิฉันตลอด แม่จะสั่งให้ทุกคนให้ทำให้ดิฉันเหมือนแม่ตอนที่ยังไม่ป่วย ทุกคนรู้ว่าแม่มีความสุข แม่จะสอนลูกๆ เหมือนเคย

เมื่อแม่อาการหนัก ดิฉันถามแม่ว่า แม่รู้แล้วใช้หรือไม่ว่าจะต้องจากกัน แม่เข้าใจ จากนั้น

เริ่มให้แม่สวดมนต์ อ่านหนังสือธรรมะให้แม่ฟัง และแม่ก็จากไปอย่างสงบ พร้อมคำอวยพรให้ลูกและฝากฝังคนที่แม่เป็นห่วง

แต่ที่สำคัญ ที่ปรึกษาทางการแพทย์ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด เพื่อญาติจะได้ช่วยเหลือคนป่วยและจิตใจของคนใกล้ชิดคนป่วยด้วย เพราะจะได้รู้สึกว่า เราไม่ได้ทอดทิ้ง มีส่วนสำคัญมากนะค่ะ

.. .. ..

การตัดสินใจเบื้องตนที่จะเอากลับบ้าน จำเป็นต้องปรึกษาคุณหมอถึงอาการที่จะเกิดขึ้น และดูอาการไป

คนที่พาคนที่เรารักกลับไป เมื่อคุณตัดสินใจแล้ว สิ่งสำคัญสิ่งแรก คือ สติ เมื่อมีอาการผิดปกติ คุณจะต้องสังเกตุอาการทุกวัน ดูและถามคุณแม่ตลอด เพราะรู้จากคุณหมอมาแล้ว ของดิฉัน คุณแม่จะปวดมาก และแสบร้อนตามตัว เมื่อถึงจุดหนึ่ง จำเป็นตัองฉีดยาก็จะมีหลานสาวของเพื่อนมาฉีดให้ และสุดท้ายก็ทานไม่ได้ ดิฉันก็จะให้ของเหลว โดยไม่เจาะคอ และขอย้ำ สติค่ะ เพราะมันจะเหมือนคนใจร้าย โดยไม่มีการช่วยเหลือ แต่คุณแม่มีความสุข แม้จะอาการหนักเพราะ คนที่รักเป็นคนทำให้

ดิฉันจึงดีใจที่มีโครงการนี้ คุณจะช่วยเหลือได้มาก ญาติจะไม่ตกใจที่มีอาการผิดปกติ เพราะมีคนให้ความช่วยเหลือ ข้อสำคัญ คุณต้องใก้ลชิดผู้ป่วย ดูและสังเกต และขอใช้คำว่า ปฐมพยาบาลไปตามอาการ ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่การรักษา มันเป็นการบรรเทา ไม่ให้คนไข้ทรมาน เมื่อสุดท้ายกลไกของร่างกายจะหยุดการเจ็บปวดไปเอง

มีคนบอกว่า ให้ไปฝังเข็มสกัดจุดปวดของคนเป็นโรคมะเร็ง ที่รู้มีที่รพชลบุรีดิฉันไม่แน่ใจนะค่ะในข้อมูล คงต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติม

ขอบอกนิดนะค่ะ เวลาแสบร้อน อย่าเช็ดตัวให้เอาผ้าชุบน้ำแล้วบิดพอหมาด วางตามตัว เพราะตอนนั้นคนไข้จะผอมมากๆ ค่ะ ผิวบาง ถ้าคุณเช็ด จะเป็นแผล

อาจจะวกวนไปบ้าง คุณไม่เข้าใจหรือยังไม่ตรงประเด็นนัก

ถ้าสนใจถามใหม่ได้นะค่ะ คิดว่าคงพอมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย

คำสำคัญ (Tags): #Pal2Know#Pal2Know7#palliative care#home care
หมายเลขบันทึก: 597241เขียนเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2015 12:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2015 22:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท