1. หลักการและเหตุผล
ปัจจุบันกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้มีการเตรียมความพร้อมและบริหารการเปลี่ยนแปลงผ่านกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเพื่อตอบสนองต่อนโยบายการเป็น National Health Authority (NHA) ของกระทรวงสาธารณสุขด้านระบบป้องกันควบคุมโรค โดยมีเป้าหมายในการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่มีประสิทธิภาพเพื่อประชาชนสุขภาพดี กรมควบคุมโรคจึงมีการเปลี่ยนแปลงบทบาทสู่การเป็นผู้กำหนดนโยบาย/วิชาการ (Strategic/Academic) และการกำกับคุณภาพระบบป้องกันควบคุมโรค (Regulator) ดังนั้น สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา จึงได้มีการทบทวนแผนยุทธศาสตร์ ปี 2558 - 2562 โดยมีวิสัยทัศน์คือ “เป็นองค์กรชั้นนำที่มีมาตรฐานสากลด้านการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ภายในปี 2562” ซึ่งปัจจุบันข้าราชการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา มีอายุเฉลี่ย 48 ปี (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กรกฎาคม 2558) และจะมีข้าราชการเกษียณอายุราชการในอีก 5 ปีข้างหน้า (ปี 2558 - 2562) จำนวน 26 คน ซึ่งข้าราชการกลุ่มนี้มีประสบการณ์สูงในการทำงานและมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ
ดังนั้น เพื่อมิให้ความรู้ที่อยู่ในตัวคนผู้ปฏิบัติงานหายไปเมื่อข้าราชการเกษียณอายุ มีการจัดเก็บองค์ความรู้จำเป็นที่ใช้ในการปฏิบัติงาน เกิดการถ่ายทอดความรู้/เคล็ดลับ/เทคนิคจากผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ของหน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรคให้กับผู้ที่ต้องปฏิบัติงานในรุ่นต่อไป สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา จึงจัดให้มีโครงการจัดการความรู้ด้วยวิธีการถอดบทเรียนจากตัวคน (Tacit Knowledge to Explicit Knowledge) และการถอดบทเรียนจากโครงการ ของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา ปี 2558 โดยใช้แนวคิดหรือนำเครื่องมือการจัดการความรู้มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อพัฒนางานให้มีคุณภาพมากขึ้น พัฒนาคนให้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น
2. ภาพรวมการจัดการความรู้และผลการดำเนินงาน
สคร.5 มีการใช้แนวคิด หรือนำเครื่องมือการจัดการความรู้มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อพัฒนางานให้มีคุณภาพมากขึ้น พัฒนาคนให้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น โดยกำหนดเป็นตัวชี้วัดตามคำรับรองการปฏิบัติราชการหน่วยงาน กรมควบคุมโรค ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 มิติที่ 4 ด้านการพัฒนาองค์กร ตัวชี้วัดที่ 8 ระดับความสำเร็จของการจัดการความรู้ของหน่วยงาน ขับเคลื่อนการดำเนินงานโดยคณะทำงานจัดการความรู้ (KM Team) สคร.5 ซึ่งมีผู้อำนวยการ สคร.5 เป็นประธาน (CKO) และสมาชิกจากทุกกลุ่มงาน มีการประชุมคณะทำงานจัดการความรู้ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2557ณ ห้องประชุมชั้น 1 สคร.5
เพื่อทบทวนหัวข้อความรู้สำคัญของหน่วยงานตามที่ระบุในโครงสร้างความรู้ (Knowledge Structure) และคัดเลือกเพื่อกำหนดเป็นโจทย์ในการนำมาจัดการความรู้ 3 เรื่อง ดังตารางที่ 1 |
|
|
ตารางที่ 1 หัวข้อความรู้สำคัญของหน่วยงานที่ต้องดำเนินการ
ชื่อหัวข้อความรู้ ปี 2558 |
เครื่องมือ การจัดการความรู้ |
สอดคล้องกับ (ร่าง) โครงสร้างความรู้หน่วยงาน (Knowledge Structure) กรมควบคุมโรค |
สอดคล้องกับ โครงสร้างความรู้หน่วยงาน (Knowledge Structure) สคร.5 |
(1) ปัจจัยการดำเนินงานด้านชันสูตรให้ประสบผลสำเร็จ |
การถอดบทเรียนจากตัวคน |
ลำดับที่ 59 เรื่อง การพัฒนาระบบคุณภาพมาตรฐานทางห้องปฏิบัติการ |
ลำดับที่ 6 เรื่อง การพัฒนาระบบส่งเสริมและสนับสนุนด้านวิชาการ (ด้านการพัฒนาระบบคุณภาพมาตรฐานทางห้องปฏิบัติการ) |
(2) เทคนิคการจัดทำแผนเงินบำรุง (ปรับชื่อเรื่องหัวข้อความรู้) |
การถอดบทเรียนจากตัวคน |
ลำดับที่ 61 เรื่อง การพัฒนาระบบการเงินและบัญชี |
ลำดับที่ 40 เรื่อง การพัฒนาระบบคุณภาพงานการเงิน |
(3) โครงการพัฒนาสมรรถนะที่จำเป็นต้องการของหน่วยงาน หลักสูตรการวิจัยเชิงคุณภาพ |
การถอดบทเรียนจากโครงการ |
ลำดับที่ 56 เรื่อง การพัฒนาบุคลากรที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนบทบาทภารกิจ |
ลำดับที่ 34 เรื่อง การวางแผนพัฒนาทรัพยากรบุคคล (HDP) |
มีการจัดทำ “โครงการจัดการความรู้ด้วยวิธีการถอดบทเรียนจากตัวคน และการถอดบทเรียนจากโครงการ ของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดนครราชสีมา ปี 2558” เพื่อให้ KM Team ของหน่วยงานมีความรู้ ความเข้าใจในแนวคิด กระบวนการถอดบทเรียนจากตัวคน (ผู้รู้/ผู้เชี่ยวชาญ/ผู้ใกล้เกษียณอายุราชการ) และการถอดบทเรียนจากโครงการ รวมทั้งเพื่อให้หน่วยงานมีการรวบรวม จัดเก็บและถ่ายทอดแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่จำเป็นให้กับผู้รับผิดชอบในรุ่นต่อไป ซึ่งได้ความรู้และบทเรียนการถอดความรู้จากผู้รู้ การถอดบทเรียนโครงการ และคู่มือการปฏิบัติงาน สรุปผลการจัดการความรู้เสนอผู้อำนวยการ และจัดเก็บเผยแพร่ในคลังความรู้ต่อไป
มีการจัดกิจกรรม “การถอดบทเรียนจากตัวคน” (ผู้รู้/ผู้เชี่ยวชาญ/ผู้ใกล้เกษียณอายุราชการ) เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 จำนวน 2 เรื่องคือ
(1)ปัจจัยการดำเนินงานด้านชันสูตรให้ประสบผลสำเร็จ ผู้รู้: นายสุรนอง ใหญ่สูงเนิน ตำแหน่ง: เจ้าพนักงานสาธารณสุขอาวุโส (ผู้รู้ที่มีประสบการณ์สูงและใกล้เกษียณ อายุราชการปี 2559) |
|
||
|
|
||
|
|
|
|
(2)เทคนิคการจัดทำแผนเงินบำรุง ผู้รู้: นางพัชรา สายอร่าม ตำแหน่ง: เจ้าพนักงานการเงินและบัญชีชำนาญงาน (ผู้รู้ที่มีประสบการณ์สูงและใกล้เกษียณ อายุราชการปี 2559) |
|
||
|
|
||
|
|
|
|
ใช้การสร้าง Mind Map ของหัวข้อความรู้หลัก/หัวข้อความรู้ย่อย จัดทำเล่มชุดความรู้ของผู้รู้ 2 ท่าน บันทึกในแบบฟอร์มถอดความรู้จากผู้รู้หน่วยงาน บันทึกวีดีโอคลิปข้อคิดอยากฝาก เสนอผู้อำนวยการ สคร.5 มีการจัดเก็บ เผยแพร่ความรู้ และคู่มือการปฏิบัติงาน ในเว็บไซต์ของหน่วยงาน (การจัดการความรู้) ที่ http://www.dpck5.com/KM/index.html และคลังความรู้ กรมควบคุมโรค ที่ http://db.kmddc.go.th/
จัดกิจกรรม “การถอดบทเรียนจากโครงการ” โครงการพัฒนาสมรรถนะที่จำเป็นต้องการของหน่วยงาน หลักสูตรการวิจัยเชิงคุณภาพ สคร.5 ปี 2558 ซึ่งโครงการอบรมจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 กุมภาพันธ์ 2558 ณ โรงแรมสบายโฮเทล นครราชสีมา จัดกระบวนการถอดบทเรียนขึ้นในวันที่ 6 มีนาคม 2558 ณ ห้องประชุมกลุ่มพัฒนาองค์กร สคร.5 โดยใช้วิธีการถอดบทเรียนจากการประเมินผลแบบเสริมพลัง (Empowerment Evaluation: EE) 3 ขั้นตอนคือ (1) กำหนดภารกิจเป้าหมาย (2) ตรวจสอบต้นทุน และ (3) การวางแผนสำหรับอนาคต ตามแนวทางการถอดบทเรียนจากโครงการตามคู่มือการจัดการความรู้ กรมควบคุมโรค ปี 2558 บันทึกในแบบฟอร์มถอดความรู้จากโครงการ เสนอผู้อำนวยการ สคร.5 มีการจัดเก็บและเผยแพร่ความรู้ ในเว็บไซต์ของหน่วยงาน และคลังความรู้ กรมควบคุมโรค |
|
|
3. บทสรุปการเรียนรู้
มีการประชุมคณะทำงานจัดการความรู้ (KM Team) สคร.5 เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2558 ณ ห้องประชุมชั้น 1 สคร.5 เพื่อ “สกัดความรู้จากการถอดบทเรียน” และ “สรุปบทเรียนการจัดการความรู้ของหน่วยงาน” มีรายละเอียดดังนี้
3.1 องค์ความรู้และบทเรียนที่ได้
การถอดบทเรียนทั้ง 3 เรื่องใช้เครื่องมือการจัดการความรู้ ได้แก่ การถอดบทเรียนจากตัวคน และการถอดบทเรียนจากโครงการ มีการเรียนรู้จากเอกสาร/คู่มือแนวทางการปฏิบัติงาน (Explicit knowledge) และเรียนรู้จากผู้รู้ (Tacit knowledge) แลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยเรื่องเล่าความสำเร็จ (Sharing knowledge) ซึ่งสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ หรือเป็นแนวทางการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการดำเนินงาน หมุนเกลียวความรู้ (Knowledge Spiral) และพัฒนาต่อยอดในงาน สร้างความรู้ใหม่ (Innovation) แล้วนำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่อไป ซึ่งการนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้หรือไปขยายผลที่อื่น ต้องพึงระวังในเรื่องบริบทของแต่ละหน่วยงาน ได้แก่ ปัจจัยสนับสนุน อุปสรรคที่พบและข้อเสนอแนะ
3.2 ปัจจัยสนับสนุนต่อการดำเนินงาน
3.3 อุปสรรคต่อการดำเนินงาน
3.4 ข้อเสนอแนะ
ไม่มีความเห็น