เด็กจะอ่านออกเขียนได้ต้องรู้ศัพท์ที่ใช้บ่อยๆ ให้เยอะๆ ไว้ค่ะ ยิ่งใช้บ่อยมากๆ ยิ่งน่าจะเหมาะกับวัยเด็กเล็กค่ะ เมื่อในสมองเด็กมีคลังคำศัพท์ที่ใช้บ่อยแล้ว การอ่านเป็นประโยคก็จะง่ายขึ้นค่ะ
ดิฉันลองสืบค้นทางอินเทอร์เน็ตก็พบคำศัพท์ไทยที่ใช้บ่อยๆ หรือคำที่คุ้นตา ภาษาอังกฤษเรียกว่า Word frequency ค่ะ แต่ภาษาไทยเขาเรียกกันว่า คำพื้นฐาน ซึ่ง สพฐ. เป็นผู้รวบรวมไว้ค่ะเพื่อแจกจ่ายให้ครูนำไปสอนศัพท์ให้เด็กในแต่ละวัยต่อค่ะ รวบรวมครั้งแรกคือ ปี 2537 ต่อมาปี 2553 ค่ะ
แต่วิธีการรวบรวมนั้นถูกต้องเหมาะสมอย่างไรดิฉันก็ยังสงสัยค่ะ เพราะดิฉันเจอคำว่า "ตายโหง" ในคำศัพท์พื้นฐานสำหรับประถมปีที่ 3 ในรายการคำพื้นฐานในปี 2537 ค่ะ มาถึงตรงนี้ ต้องขออนุญาตอุทานเป็นภาษาใต้นะคะ "ตายโหงแล้ว" สมัยนั้นเด็ก ป. 3 ควรรู้คำนี้เพื่อจะสามารถอ่านออก เขียนได้ เหรอค่ะ ส่วนคำบางคำเช่น "ฮูลาฮูป" เป็นคำพื้นฐาน ป.3 ปี 2553 ล่าสุดค่ะ แล้วคำว่า นา น่า น้า มาใช้สอนใน ป.3 เหรอออออ....
ส่วนตัวแล้ว รู้สึกแปลกๆ สงสัยอยู่ว่า
OMG!! Oh! My God. #ร้องไห้หนักมาก
ลองดาวน์โหลดไปอ่านดูค่ะ คำพื้นฐานจาก สพฐ. คาดว่าคงนำต้นฉบับมาจาก เว็บ สพฐ. ซึ่งตอนนี้เข้าไม่ได้แล้วค่ะ
มาร่วมเรียนรู้ด้วยค่ะ...
ขอขอบคุณค่ะอาจารย์ที่นำมาเล่า
อ่านแล้วเศร้าใจ แท้
ขออุทานภาษาใต้ด้วยคนค่ะ "ฮาโรย"
ขอบคุณอาจารย์มากๆ ที่ชวนมาอ่าน
ข้อสงสัยแรกของพี่คือ ข้อมูลเหล่านี้ได้มาอย่างไร มันแปร่งๆ
อ.ดร.อุษณีย์ จาก มศว เคยเล่าไว้ว่า "มาตรฐานการรู้คำศัพท์ของเยาวชนทั่วโลกอยู่ที่ ๗๐๐๐ คำ" น่าตกใจที่รู้ว่าเด็กไทยใช้คำศัพท์น้อยมากแค่ไม่เกิน ๒๐๐๐ คำ (พี่ยังหาอ้างอิงเรื่องนี้ไม่เจอ ได้ดูอาจารย์ทางรายการโทรทัศน์นานแล้ว มันสะดุดหูมาก)
การรู้คำศัพท์มากบอกถึงความสามารถในการเรียนรู้เช่นกันค่ะ
ในหนังสือ How Children Suceed พูดถึงเรื่องนี้ไว้ด้วยค่ะว่า เด็กๆ เรียนรู้คำศัพท์จากในครอบครัว จึงกลายเป็น "ข้อจำกัด" ที่แทบจะทำอะไรไม่ได้ เพราะพ่อแม่ที่รู้หนังสือน้อย ก็อ่านหนังสือกับลูกน้อย พ่อแม่ที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจก้ไม่มีเวลาอ่านหนังสือกับลูก คุยกับลูก
การท่องศัพท์ไม่มีประโยชน์เท่ากับการอ่านหนังสือกับลูก เด็กเรียนรู้คำศัพท์จากการอ่านมากกว่าการท่องศัพท์
คนไทย (คือพ่อแม่ไทย) ส่วนมากอ่านหนังสือน้อย หรือแทบไม่อ่าน จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะอ่านหนังสือกับลูก คุยกับลูกเรื่องต่างๆ รอบตัว เด็กๆ ถูกส่งไปอยู่โรงเรียนพิเศษกันทุกคน ส่งไปทำไม??
เด็กฉลาดชอบคุยกับผู้ใหญ่เพราะเขาต้องการเรียนร้ ที่ไม่ได้จากวัยเดียวกัน
การใส่แทบเล็ตใส่มือลูกเล็กๆ พี่เห็นแล้วเจ็บปวดใจ เป็นการกีดกันลูกจากการเรียนรู้อื่นๆ รอบตัว
อาจารย์เขียนเรื่องนี้อีกนะคะ พี่จะตามมาอ่าน แล้วจะรื้อฟื้นความจำจากเรียงความที่ลูกๆ ของพี่เขียนเอามาเขียนบันทึกด้วยคน
I made a list of words (frequently used within the Thai Royal Institute dictionary 2542) a year or so ago (I posted a few words in G2K ) . ตายโหง is not used often in the dictionary. But it may used a lot in real life. It would be good if they also show their source of information.
A key aspect of learning is not about "remembering" but "analysing facts".
What are facts? That's a real 21C skill to learn, so we can filter 'good' from 'bad'.
อันที่จริงเรื่องการสอนดูจะทำได้ดีนะคะ เพราะมีคู่มือครูทุกวิชาค่ะ บอกเทคนิคและกระบวนการที่ครูจะดำเนินการสอนสำหรับเนื้อหาแต่ละเรื่องค่ะ แต่ครูจะทำตามหรือไม่นั่นก็เป็นอีกเรื่องค่ะ