เมื่อตัดสินใจพาลูกหนีออกจากโรงพยาบาล


ฉันอยากจะกลับบ้าน

     เช้านี้ได้รับเคสให้ติดตามเด็ก อายุ1 ขวบกลับมารับวัคซีนPCECเข็ม3  หลังจากที่แม่พาหนีออกจาก รพ.เมื่อ 2 วันก่อนพร้อมแผลฉีกขาดที่ขมับยังไม่สามารถเย็บติดได้ ยาปฏิชีวนะก็ได้รับยังไม่ครบ  แพทย์และพยาบาลขอร้องให้อยู่ต่อถึงวันจันทร์  แต่เธอก็ตัดสินใจพาลูกกลับโดยไม่บอกกล่าวตอนก่อนเที่ยงวันเสาร์ที่ 11 พ.ย. 49

   พยาบาลศัลยกรรมเจ้าของไข้เป็นห่วงเรื่องแผลบริเวณขมับซึ่งยังต้องทำแผลและรอเย็บปิด ทั้งยังได้รับยาปฏิชีวนะไม่ครบอาจติดเชื้อได้  ช่วงอยู่รพ.ก็รู้สึกว่าแม่ค่อนข้างฉุนเฉียวลงโทษลูกโดยเกินจำเป็น รวมการตีลูกด้วย  วันนี้ก็ต้องให้วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าเข็ม 3 เบอร์โทรที่ให้ไว้ไม่สามารถติดต่อได้  ที่อยู่ก็ไม่ชัดเจน ส่งเคสให้นักสังคมสงเคราะห์นักสังคมติดงานไม่สามารถออกติดตามได้ส่งต่อให้พยาบาลHHC

   พยาบาลHHC วิเคราะห์สถานะการณ์แล้ว เด็กมีสิทธิ์ UC จึงไม่น่าใช่ปํญหาเรื่องค่ารักษาพยาบาล  ประเมินประวัติการรักษาที่ผ่านมาเพื่อวางแผนการให้การดูแล  และหาทางติดตามโดยค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากฐานข้อมูล  เตรียมเบิกวัคซีนPCEC พร้อมอุปกรณ์ใส่กระติกน้ำแข็ง  ชุดทำแผล หากว่าไม่สามารถนำเด็กมารพ.ได้  และประเมินความเป็นไปได้ในการรับการรักษาขั้นต่อไป

    ออกไปเยี่ยมบ้านซึ่งไม่ตรงตามที่อยู่ตามทะเบียนบ้านเพราะแจ้งชื่อเด็กเข้าเพื่อให้มีสิทธิ์ทำบัตรUC  สอบถามเพื่อนบ้านพบว่าอยู่ห้องเช่าในซอยใกล้สถานที่ทำงานของพ่อแม่เด็ก  ไปพบห้องเช่าชั้นเดียวปลูกต่อกันหันน้าเข้าหากัน แถวหน้า3ห้องแถวใน 4 ห้อง  ขนาดห้องประมาณ  3.5 คูณ 4.5 เมตรมีห้องน้ำในตัว  ห้องปิดอยู่ห้องข้างๆเรียกให้   ทันทีที่ประตูเปิดออกพร้อมกลิ่นคล้ายแอลกอฮอล์ และเด็กชายวัยขวบเศษก็เดินออกมาทันที  เมื่อเห็นรอยแผลที่หน้าศีรษะใบหูก็คิดว่าน่าจะไช่เด็กชายที่ต้องการติดตาม พ่อแม่เด็กอยู่ทั้งคู่ มีลูกคนเล็กอายุ เดือนเศษๆนอนอยู่บนเตียง  พยาบาลแนะนำตัวยังไม่ทันไร  พ่อเด็กบอกบ่ายจะพาลูกไปรับวัคซีน  แม่เด็กบอกว่าไม่มีใครดูลูกยังกินนมแม่  คนโตให้กินนมกล่องแล้ว ถามว่าสลับกับพ่อให้พ่อดูคนโตแม่กลับมาดูคนเล็กแทนดีไหม  แม่เด็กบอกว่าเขาต้องทำงานเลิกตี 2  งานหนูเสร็จแล้ว เดี่ยวเขาก็ไปเข้างาน
        พยาบาลแสดงความเข้าใจในความจำเป็นของแม่เด็กบนความจำกัดของคนเป็นแม่ที่ห่วงลูกยังกินนมแม่ และเสริมแรงที่เขาวางแผนจะพาลูกไปรับวัคซีนป้องกันบ้าพิษสุนัขบ้า   พ่อแม่เด็กเป็นมิตรกับพยาบาลทันทีเอารายละเอียดต่างๆมาให้ดู  ส่วนการรับยาปฏิชีวนะสามารถปรับให้ไปรับแบบผู้ป่วยนอกได้  หยดยาเข้าหลอดเลือดและทำแผลเสร็จกลับบ้านได้ น่าจะสอดคล้องกับปัญหาความจำกัดของพ่อแม่เด็ก  และบอกอาการสำคัญที่ต้องรีบพาเด็กไปพบแพทย์เรื่องการแพ้ยา ไข้  แผลติดเชื้อ อาการของโรคพิษสุนัขบ้า
         ข้อกังวลของพยาบาลต่อการเลี้ยงดูเด็ก และกลิ่นบางอย่างที่ก่อให้พยาบาลเกิดความไม่สบายใจ พยายามคิดว่าอาจเป็นยาดองที่เชื่อว่าดีสำหรับคนหลังคลอดช่วยขับน้ำคาวปลา แต่ก็ไม่ดีสำหรับคนให้นมบุตรแน่ๆ หรืออาจของบิดา  การรู้จักและการเยี่ยมครั้งแรกสัมพันธภาพระหว่างพยาบาลและผู้รับบริการยังไม่อำนวยให้พยาบาลทำมากว่าสิ่งเร่งด่วนจำเป็นหากเสียสัมพันธภาพความไว้วางใจต่อมาอาจชะงักทุกคนมีความคิดการตัดสินใจเป็นของตนเอง พยาบาลมีหน้าที่ให้ข้อมูลให้ครอบคลุม หลายๆด้านเพื่อให้ผู้รับบริการใช้ประกอบการตัดสินใจ  และบางเรื่องอาจต้องอดใจรอโอกาสที่เหมาะสม และข้อมูลที่แน่ชัดเพียงพอกว่านี้

หมายเลขบันทึก: 59127เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2006 11:34 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:20 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท