การคำนวณอัตโนมัติ
และรวดเร็ว 1.กำหนดช่วงให้กับข้อมูลที่ต้องการคำนวณ
2.
ดูผลลัพธ์ของ Status Bar
3.
สามารถคำนวณค่าอื่นๆ
ได้โดยนำเมาส์ไปชี้ที่ตำแหน่งยอดรวมบน Status bar
แล้วกดปุ่มขวาของเมาส์
เลือกฟังก์ชันคำนวณที่ต้องการ -
Average
ค่าเฉลี่ย-
Count นับจำนวน
รวมเซลล์ข้อความ-
Count
Nums นับจำนวนเฉพาะเซลล์ตัวเลข-
Max ค่าสูงสุด-
Min ค่าน้อยสุด-
Sum ผลรวมการคำนวณค่า1.
การคำนวณด้วย
(Formula)2.
การคำนวณด้วยฟังก์ชันสำเร็จรูป
(Function)
การคำนวณด้วยสูตร
(Formula)
1
เลื่อน
Cell
Pointer ไปไว้ ณ เซลล์ที่ต้องการวางผลลัพธ์
2
สร้างสูตรการคำนวณแล้วกดปุ่ม
<Enter>
โดยสูตรจะมีรูปแบบดังนี้ =
ค่าที่1 เครื่องหมาย ค่าที่ 2
...ค่าที่ใช้ในการคำนวณ1
ค่าคงที่
เช่น 500
2
ตำแหน่งเซลล์
เช่น A5
จะหมายถึงนำค่าที่ถูกเก็บไว้ในเซลล์ ณ ตำแหน่งแถวที่ 5
คอลัมน์ A มาคำนวณ
เครื่องหมายการคำนวณ
()
จัดจำนวนการคำนวณ ^
ยกกำลัง%
หารด้วย 100*
การคูณ/
การหาร +
การบวก-
การลบตัวอย่างสูตรการคำนวณ
=500*2%
หมายถึง เอา 2 หารด้วย 100
แล้วนำผลลัพธ์ไปคูณกับ 500=5+5*8 หมายถึง
เอา 5 คูณ 8 แล้วนำผลลัพธ์ไปบวกกับ
5=(5+5)*8
หมายถึง เอา 5 บวกกับ 5
แล้วนำผลลัพธ์ไปคูณกับ 8=A2/100 หมายถึง
เอาค่าในเซลล์ A2 หารด้วย 100=A2+A3+A4+A5
หมายถึง เอาค่าในเซลล์ A2
บวกด้วยค่าในเซลล์ A3 บวกด้วยค่าในเซลล์ A4
บวกด้วยค่าในเซลล์ A5การคำนวณด้วยฟังก์ชัน
-
ฟังก์ชันคำนวณด้านการเงิน
เช่น DDB( )
หาค่าเสื่อมราคาที่ระยะเวลาใด ๆ โดยวิธี Double -
declining balance method
-
ฟังก์ชันคำนวณด้านวัน
เวลา เช่น NOW( )
ฟังก์ชันให้ค่าวันเวลาปัจจุบัน
-
ฟังก์ชันคำนวณด้านคณิตศาสตร์
เช่น TAN( )
ฟังก์ชันหาค่า Tangent ของมุม
-
ฟังก์ชันคำนวณด้านสถิติ
เช่น SUM( )
ฟังก์ชันหาผลรวมของชุดตัวเลข
-
ฟังก์ชันคำนวณด้านฐานข้อมูล
เช่น DSUM( )
ฟังก์ชันหาผลรวมของข้อมูลตามเงื่อนไขที่ระบุ
-
ฟังก์ชันในการค้นหาข้อมูล
เช่น HLOOPUP( )
ฟังก์ชันหาข้อมูลที่ตรงตามเงื่อนไข
-
ฟังก์ชันจัดการตัวอักษร
เช่น CHAR( )
ให้ค่าตัวอักษรจากตาราง ASCII
-
ฟังก์ชันการคำนวณแบบตรรก
เช่น AND( )
ให้ค่าทางตรรกะในกรณี AND
-
ฟังก์ชันด้านวิศวกรรม
เช่น HEX2OCT( )
แปลงตัวเลขฐาน 16
เป็นตัวเลขฐาน
การคำนวณหาอายุ
อายุงาน (ปี) การคำนวณหาอายุงาน
กระทำได้โดย
-
คลิกเมาส์ที่คอลัมน์
J
เลือกเมนูคำสั่ง "Insert, Columns"
เพื่อแทรกคอลัมน์ว่าง ป้อนชื่อคอลัมน์เป็น "อายุงาน
(ปี)"
-
คลิกเมาส์ในเซลล์
J2
-
พิมพ์สูตร
=YEAR(TODAY())-YEAR(I2
-
คัดลอกสูตรไปยังเซลล์อื่นๆ
-
ถ้าปรากฏค่าเป็นรูปแบบวันที่
ให้คำสั่ง "Format, Cells..."
แล้วเลือกบัตรรายการ Number จากนั้นเลือก
Category ชื่อ General โปรแกรมจะแสดงค่าตัวเลขปี
ที่ถูกต้อง
คำอธิบาย=YEAR(TODAY())-YEAR(I2)
เป็นสูตรผสมในการค่าอายุงาน หน่วยเป็น "ปี"
โดย -
today() เป็นฟังก์ชันหาค่าวันที่ปัจจุบัน
(วันที่ของเครื่อง)
- year(today()) เป็นฟังก์ชันผสม
โดยฟังก์ชัน Year() จะหาค่า "ปี ค.ศ."
ของฟังก์ชัน Today() เช่น
ถ้าวันที่ของเครื่องเป็น 21 มกราคม 2545
ฟังก์ชัน Today() จะมีค่าเป็น 1/1/70
เมื่อนำมาผ่านฟังก์ชัน Year(today())
จะได้ค่าเป็น 2002 นั่นเอง
- year(I2) เป็นการหาค่าปี ค.ศ.
ของข้อมูลในเซลล์ I2 จากตัวอย่างข้อมูลใน I2
คือ 7 พฤษภาคม 2537
เมื่อผ่านฟังก์ชัน Year() จะได้ค่าปี ค.ศ.
เป็น 1991 ดังนั้น
=YEAR(TODAY())-YEAR(I2)
ก็จะเป็นการนำค่า 2002 ลบด้วยค่า 1991
ซึ่งเท่ากับ 11 (ปี) นั่นเอง
สรุปสูตรคำนวณเกี่ยวกับอายุ=YEAR(TODAY())-YEAR(ตำแหน่งเซลล์ของวันที่ที่ต้องการคำนวณ)ฟังก์ชันการคำนวณตัวเลข
การสุ่มค่าตัวเลขด้วย Excel
สามารถกระทำได้ง่าย และสะดวกด้วยฟังก์ชัน Random
ซึ่งมีรูปแบบการใช้ฟังก์ชันคือ
=RAND()
โดยฟังก์ชันนี้จะแสดงผลลัพธ์เป็นค่าทศนิยม ระหว่าง 0 - 1
ดังนั้นถ้าต้องการแสดงผลด้วยค่าที่มากกว่า 1
สามารถนำ 10 หรือ 100 หรือ
1000 มาคูณ ดังนี้
=RAND()10
อย่างไรก็ตามค่าที่ได้ ก็จะมีผลลัพธ์เป็นค่าเลขทศนิยมด้วย
ดังนั้นถ้าต้องการค่าเลขจำนวนเต็ม
สามารถใช้ฟังก์ชันปัดเศษทศนิยมมาใช้ร่วมกัน
ดังนี้
=INT(RAND()1000)
สำหรับการสุ่มตัวเลขระหว่างค่าใด
ให้ใช้สูตร
=RAND()(b-a)+a
เช่น สุ่มระหว่างค่า 3 - 5
ให้ใช้สูตร
=RAND()(5-3)+3