การที่ได้เกิดมาเป็น "ผู้หญิง"...สิ่งที่หนีไม่พ้น นั่นคือ...
"การรักสวย รักงาม"...ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลที่เห็นว่า
จะสำคัญหรือไม่...สำหรับฉัน ๆ คิดว่า สำคัญ...เพราะนิสัยลึก ๆ
ของผู้หญิง ไม่มีใครปฏิเสธหรอกว่า...ไม่ต้องการให้หน้าตา
รูปร่าง สวยงามและดูดี...ความงามก็ใช่ว่า จะงามเหมือนกับ
นางงามระดับโลกไม่ เป็นความงามเฉพาะบุคคล เป็นเอกลักษณ์
ของแต่ละคนมากกว่า...การแต่งกายก็เช่นกัน ใช่ว่าจะต้องแต่งกาย
ด้วยเสื้อผ้าที่หรูหรา ราคาแพง...ฉันคิดว่า...ราคาไม่ควรแพงจนเกินไป
เอาราคาที่พอเหมาะ แต่งแล้วออกมาแค่ "ดูดี"...ก็คงเพียงพอ
เพียงพอสำหรับกำลังกาย กำลังทรัพย์ของเราที่เรามี...ดูไม่น่าเกียจ
หรือเกินฐานะก็น่าจะเพียงพอแล้ว...ฉันขอเน้น คำว่า "ดูดี" มากกว่า
คำชมที่ว่า "สวย"...เพราะคำว่า ดูดี เหมาะกับทุกสถานการณ์
ดูแล้ว ชื่นตา ชื่นใจ คนดูมากกว่า...
มาช่วงวัยเริ่มเข้าใกล้เลข ๖ นำหน้า...สิ่งที่ฉันไม่เคยนึก เคยฝันว่าจะทำ
นั่นคือ การทำคิ้ว...ฉันเป็นคนชอบแต่งหน้า เรียกว่า หน้าต้องมาอันดับ ๑
เพราะหน้าตา เป็นตัวบ่งบอกถึง ความมั่นใจ ความใส่ใจของฉันเอง...
มีพี่ที่ทำงานเขาทำคิ้วถาวร...ฉันเห็นแล้ว แต่ก็เฉย ๆ ในตอนแรก ๆ...
แต่เมื่อฉันใช้พู่กันวาดคิ้ว เพื่อให้รับกับการแต่งหน้าที่ปกติก็แต่งหน้า
ตั้งแต่เริ่มเป็นสาว ๆ แล้ว...มาคราวนี้ เริ่มวัยเลข ๕ นำหน้า...สายตาเจ้ากรรม
เริ่มเข้ามาเยือน สายตามองไม่ค่อยชัด หรือถนัดนักในการนั่งเขียนคิ้ว...
เจ้ากรรม เขียนไป เขียนมา คิ้วก็ไม่ได้มาตรฐานตามที่ใจของเราคิด
เวลาประชุมหรือแต่งหน้า ก็ไม่ค่อยมั่นใจกับการเขียนคิ้วของตัวเองสักเท่าไร...
สุดท้าย...ก็ตัดสินใจ "สักคิ้วถาวร" ซึ่งปัจจุบันมีการทำคิ้วหลากหลายประเภท...
แต่ฉันเลือกที่จะ "สักคิ้วถาวร" เพราะขี้เกียจมาทำบ่อย ๆ...ขนาดน้องเพรียง
พ่อของเจ้าฟ้าคราม...บอกกับฉันว่า "แม่นี่ใจกล้าเน๊าะ!!! ไม่กลัวเจ็บรึ?"...
ฉันก็ตอบไปว่า...เจ็บแต่ก็ "อดทน" ไง มันไม่ใช่ว่า จะกดอยู่แบบนั้น...
ช่างเขากดแล้วก็ปล่อย กดแล้วก็ปล่อย...ก็ยังทนได้อยู่...
แม้แต่ปู่จเรของเจ้าฟ้าคราม ตอนแรก ๆ ก็ไม่เห็นด้วยกับการที่ฉันไปทำคิ้ว
สักเท่าไร...สุดท้ายก็จำนนด้วยเหตุผลของฉันเองว่า...ตอนนี้สายตาไม่ค่อยดีแล้ว
การเขียนด้วยพู่กันนั้น ก็ใช่ว่าจะคงเส้น คงวาเหมือนตอนเป็นสาว ๆ อายุก็เริ่ม
มากขึ้น ๆ แล้ว...สังขารก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไป แต่เราต้องใช้ร่างกายทำมาหากิน
กับการทำงาน...เราจึงต้องดูแล ไม่ให้มองดูแล้วน่าเกียจจนเกินไป...สุดท้าย
ปู่จเรของเจ้าฟ้าคราม ก็ยอมรับเหตุผลของฉัน...
การทำคิ้วถาวร อยู่ที่เราเลือกสีที่ทำคิ้ว...บางคนทำแล้วสีคิ้วออกมาสีเขียวมาก
มองดูแล้วน่าเกียจ...ฉันเน้นช่างที่มีประสบการณ์มากกว่า...เขาจะแนะนำให้กับฉัน
ว่า "ควรใช้สีน้ำตาลเข้ม" ทำ เพราะเขาดูที่นัยตาว่า มีสีน้ำตาล...และแล้ว
การทำคิ้วครั้งแรกก็ดูเป็นที่พอใจของฉัน...แต่เมื่อทำแล้ว ฝีมือของคนนั้น...
ไม่นิ่งทำให้เห็นถึงอีกข้างเข้ม อีกข้างหนึ่งเข้มไม่เท่า...ต้องใช้พู่กันวาดเสริมอีก
สุดท้าย...ปัจจุบันต้องให้ช่างซ้ำรอยอีกหนหนึ่ง...ซึ่งช่างบอกว่า "ต้องซ้ำ"
คราวนี้ ก็ดูดีแล้ว...มีพี่ที่ทำงานถามว่า...เจ็บไหม? ฉันตอบว่า..."พอทน" คริ ๆ ๆ
ก็อยากสวยนี่...ไม่ใช่เพราะเจ็บหรอก เพราะว่า มันอดทนได้ แค่แปลบ ๆ
เคยผ่าตัดครั้งใหญ่ ๆ มาถึง ๔ ครั้ง ทำไม? ทนได้ กับแค่สักคิ้วแค่นี้...
ทำไม? จะอดทนไม่ได้ คริ ๆ ๆ...และแล้วก็ได้คิ้วอย่างที่คิด...ต่อไปนี้
ก็ไม่ต้องห่วง กังวลต่อการแต่งหน้าอีกแล้ว..."ความสวย" จำต้องแลก
กับ "ความอดทน" คริ ๆ ๆ
ดีที่ทำคิ้วอย่างเดียว...สำหรับส่วนอื่น เป็นเพราะฉันรักษามาตั้งแต่เด็ก ๆ
ได้เป็นอย่างดี เช่น ฟัน ๆ ของฉันยัง OK. อยู่ ไม่ต้องใส่ฟันปลอม
เหมือนคนอื่น ๆ ที่อยู่ในวัยเดียวกัน...
สุขภาพกายต้องควบคู่ไปกับสุขภาพใจที่ดีด้วยนะคะ...
...
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านบันทึกนี้ค่ะ
บุษยมาศ แสงเงิน
๒๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘
ขอบคุณค่ะ พี่นงนาท ขอขอบคุณทุกกำลังใจด้วยค่ะ