สวัสดีค่ะจากการที่ฉันได้เห็นกรณีศึกษาหนึ่งที่เป็นแรงผลักดันให้ฉันอยากที่จะเรียนรู้ความสามารถในการกินอาหารในเด็กทารก โดยจุดเริ่มต้นนี้เริ่มจากเด็กคนหนึ่งที่ฉันได้ลงชุมชนไปเพื่อดูพัฒนาการของเต็มและประเมินถึงปัญหารวมกับทีมนักกายภาพบำบัด โดยบทบาทของนักกิจกรรมบำบัดได้เข้าไปดูในส่วนของการดูดกลืนของเด็ก 4 เดือน ซึ่งนั้นเป็นจุดเล็กๆที่ทำให้ฉันได้ศึกษาการกระตุ้นการดูดกลืนในเด็กทารกโดยดิฉันอยากทราบในหัวข้อดังต่อไปนี้
ผลกระทบที่ส่งผลต่อการกินและกลืนในเด็กเล็กมีอะไรบ้าง ?
บทบาทของนักกิจกรรมบำบัดทำอะไรได้บ้าง ?
การประเมินทางกิจกรรมบำบัดต้องประเมินอะไรบ้าง ?
จะมีวิธีการรักษา/ส่งเสริมการกินของเด็กอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ?
ดิฉันขอยกตัวอย่างกรณีศึกษาที่ได้เจอขณะได้ไปลงชุมชนและฝึกงานที่โรงพยาบาลในช่วงปี 3 มาวิเคราะห์ตาม PEOP
กรณีศึกษาที่ 1 เด็กหญิง ก อายุประมาณ 4 เดือน มีปัญหาในการกินและกลืนอาหารเนื่องจากน้องไม่ยอมปิดปากและมีการขับถ่ายที่ผิดปกติเนื่องจากมีก้อนเนื้อทับเส้นประสาทบริเวณไขสันหลัง(Spina bifida)ทำให้มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายที่ส่งผลต่อการกินด้วย
P= Person เพศหญิง อายุ 4 เดือน
E=Environment สภาพแวดล้อม ท่าทางขณะดูดกลืนเหมาะสมดี
O=Occupation การกลืนของน้องมีผลมากจากหลายองค์ประกอบได้แก่
P=Performance ความสามารถที่มีปัจจุบันของน้องไม่สามารถปิดปากส่งผลทำให้กลืนลำบาก
กรณีศึกษาที่ 2 ผู้รับบริการ เด็กชาย ข อายุ 3 เดือน มีปัญหาเรื่องการหายใจ ต้องระมัดระวังคอยดูระดับออกซิเจนในเลือดเสมอ น้องสามารถดูดได้แรงแต่กลืนได้ช้า มีปัญหาเรื่องลิ้นคับปาก และการปิดปากไม่ได้
P= Person เพศชาย อายุ 3 เดือน
E=Environment สามารถดูดนมได้จากขวดนม
O=Occupation การกินและการกลืนที่มีปัญหาเนื่องจากน้องมีการหายใจหอบถี่หลังการดูดกลืน มีการดูดที่แรงแต่ไม่กลืน จังหวะการกลืนการดูดตลอดเวลา ไม่หยุดพักเพื่อที่จะกลืน มีปัญหา Tongue thrust
P=Performance ความสามารถปัจจุบันน้องสามารถดูดได้แรง แต่ปากปิดไม่สนิท และมีการหอบเหนื่อยเป็นอุปสรรคในการกลืน
จะเห็นได้ว่าจากกรณีศึกษามีปัญหาการกลืนที่มีสาเหตุมาจากหลายๆองค์ประกอบซึ่งนักกิจกรรมบำบัดจะต้องทำการประเมินและดูปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่อาจจะส่งผลต่อการกินของเด็กด้วย หากเด็กสามารถกินอาหารและกลืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะส่งผลต่อ Quality of life และมีชีวิตที่ดีและมีคามสุขนำไปสู่ Well-being
ไม่มีความเห็น