มายาคติของนักเรียนที่ดี ตอนที่ 2


1. การที่เป็นด้านลบของนักเรียนแย่ (The utter negativity of the bad student)

นักเรียนที่แย่จะถูกครอบงำด้วยคำที่ไม่ดีเสมอ ลองดูคำว่าหัวแข็ง (rebel) ในการตอบคำถามของเด็กๆ แต่ถึงกระนั้น ก็เป็นสิ่งจริงด้วยเช่นกัน ถ้าคุณกำลังต่อต้านกับระบบในแง่ใดแง่หนึ่ง คุณต้องถูกทำโทษโดยคุณครู หรืออย่างน้อยที่สุดจะได้ฉายาว่าไอ้วายร้าย (villain) ในปีที่สอง ปัญหามีอยู่ว่า ในฐานะที่เป็นครู ถ้าคุณฉายากับเขาอย่างนั้นแล้ว และคุณก็ไม่ได้ให้บทบาทอย่างอื่นให้เขา แล้วพวกเขาจะทำอะไรๆ ที่ไม่ใช่เป็นวายร้ายได้บ้าง จงอย่าประมาทเด็กๆพวกนี้ สิ่งนี้นำไปสู่การทำลายล้างแน่นอน

นอกจากนี้ยังมีการติดตราทางสังคม (social stigmatism) ด้วยเหมือนกัน อย่างเช่นการใช้คำว่า โง่ หรือ ไม่ค่อยฉลาด (to be idiot and dumb) ถ้าเราไม่สามารถควบคุมนักเรียนด้วยตัวของพวกเราได้ และเราได้ปล่อยให้เด็กๆต่อสู้ซึ่งกันและกัน ปล่อยให้พวกเขาทำโจ๊กตลกๆด้วยกัน แต่พวกเราเป็นอารยะชน พวกเราสามารถควบคุมอารมณ์ได้ และพวกเราก็ไม่ยอมลดตัวลงไปพูดหยาบคาย แต่ทั้งหมดที่เรารู้ก็คือทำไมเด็กเลวจึงกลายเป็นเด็กเลว ก็เพราะพวกเขาไม่ฉลาดเท่าเรา

(กล่าวให้ง่ายก็คือเกิดการแบ่งชั้นวรรณะระหว่างพวกครูและคนฉลาด กับเด็กๆที่ไม่ฉลาด) นอกจากนี้พวกครูยังไม่มีอะไรที่จะต้องทำเกี่ยวกับพื้นฐาน (background) ของนักเรียนเลวๆเหล่านั้น ไม่ว่าพวกเขาจะถูกทำมิดีมิร้ายในสนามเด็กเล่น และแสดงพฤติกรรมเลวๆของเขาในชั้นเรียน พฤติกรรมที่แย่ๆ ไม่เคยถูกมองว่าเป็นสัญญะของความต้องการทางอารมณ์ (emotional need) ครูเพียงแค่มองว่าพวกเขาไม่ฉลาดก็แค่นั้น

นอกจากนี้ยังมีแง่มุมในการวัดการกระทำอีกด้วย (performance angle) นักเรียนที่แย่ เกรดก็จะแย่ด้วย แน่หละ เป็นสิ่งที่ถูกต้องว่า ความผิดอยู่ที่นักเรียน นักเรียนเป็นคนหนึ่งที่ไม่เข้าใจในตัวเนื้อหาเลย พวกเขายังเป็นคนที่ตอบคำถามไม่ถูก พวกเขาอาจรู้สึกแย่ในวันสอบ ก็เลยทำอะไรผิดพลาดมาตลอด ความผิดพลาดของนักเรียนที่เรียนไม่เข้าใจย่อมมิใช่เกิดขึ้นจากตัวนักเรียนเอง แต่เป็นความผิดพลาดของการสอนด้วย

จริงๆแล้ว ฉันควรจะบอกว่าฉันผิดพลาดในการสอนตลอดเวลา เพราะฉันได้ยินเสียงกระซิบว่า ครู เราจะทำอะไรครับ/คะ แต่ฉันไม่คิดว่าเป็นความผิดพลาดของครู เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว จะเป็นความผิดพลาดของสถานการณ์ ที่อยู่รอบล้อมตัวครูเองมากกว่า สมมติว่าถ้าคุณมีนักเรียน 30 คน และคุณก็มีธุระยุ่งอยู่กับการจัดการปัญหาเด็กอย่างน้อย 3 คนใน 30 คน สุดท้ายคุณก็อาจไม่สังเกตเด็กเงียบๆ และเด็กที่กำลังกวนอยู่ในมุมห้องก็ได้ ถ้าเราเริ่มตัดสินผู้เรียนว่าดีหรือเลว โดยดูจากเกรด แล้วเราจะหวังให้ผู้เรียนของเราให้คุณค่าแก่สิ่งอื่นๆนอกจากการปฏิบัติได้อย่างไร? เมื่อใดที่เราจะเห็นผู้เรียนของเรามองคนเป็นคนเสียทีเล่า?

หนังสืออ้างอิง

David Petrie. (2014). The Myth of the Good Student. http://teflgeek.net/2015/01/15/the-myth-of-the-good-student/

หมายเลขบันทึก: 589112เขียนเมื่อ 20 เมษายน 2015 08:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 เมษายน 2015 08:12 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท