ทำงานแล้วไม่ได้ผลตอบแทน ควรจะคิดบวกอย่างไร

ผมเคยทำงานอย่างหนึ่งให้บริษัทแห่งหนึ่ง เขาก็สัญญาว่าจะจ่ายค่าตอบแทนให้เท่านั้นเท่านี้ แต่…พอทำเสร็จแล้วเขาก็นำผลงานของเราไปจำหน่าย ผ่านไปเป็นเดือนเป็นปี ก็ไม่มีวี่แววว่าเขาจะจ่ายผลตอบแทนให้เราเลย

ผมก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่ทำงานแล้วต้องการผลตอบแทน โดยเฉพาะผลตอบที่เราควรจะได้ แต่จากประสบการณ์การคิดบวกและคิดลบในเรื่องนี้ ช่วยให้ผมตัดสินใจได้ว่าสุดท้ายการเลือกทางที่คิดบวกน่าจะเป็นผลดีกับชีวิตเรามากกว่า

ในช่วงแรกที่ผมรอว่าเมื่อไหร่เขาจะจ่ายค่าตอบแทนให้ ในช่วงเวลานั้นผมมักจะคิดลบมากกว่า เหตุผลสำคัญที่เราคิดลบก็คือเราไปคาดหวังว่าเราจะได้ผลตอบแทนตามสัญญาที่เขาทำไว้กับเรา เมื่อไม่ได้ตามที่เราหวังไว้ เราก็เริ่มผิดหวัง เราจะคิดว่าเมื่อไหร่เขาจะจ่ายเงินให้เราเสียที เขาได้ผลประโยชน์จากเราฟรีๆ เขาเอาเปรียบเรา เราจะรู้สึกเป็นทุกข์ ยิ่งคิดลบมากเท่าไหร่ ทุกข์ยิ่งเข้ามาหา(ใจ)เรามากขึ้นๆ ตามรอบความถี่ที่เราคิดถึงมัน ผลกระทบคือทำให้เรารู้สึกกังวล ไม่มีสมาธิในการทำงาน

แต่…เมื่อเวลาผ่านไป อาจจะเป็นเพราะความหวังมันเหลือน้อยลง ในขณะเดียวกันผมก็เริ่มนำความคิดเชิงบวกเข้ามาใช้ เพราะความคิดบวกของเราน่าจะเอาชนะความคิดลบได้แล้ว เนื่องจากความคิดลบเริ่มอ่อนตัวลงไปบ้างแล้ว(ด้วยเวลาที่ผ่านไปหลายเดือน) ความคิดบวกต่างๆก็เกิดขึ้น เช่น คิดว่าดีเหมือนกันเขาทำประชาสัมพันธ์ชื่อเสียงเรา โดยเราไม่ต้องลงทุนหรือเสียค่าใช้จ่ายอะไร โดยที่ชื่อเราไปอยู่ทั่วประเทศ งานบางงานชื่อเราลงไปอยู่ในสื่อฟรีๆ ถ้าเป็นคนอื่นจะขอเอาชื่อของตัวเองไปลงในสื่อต่างๆคงจะต้องเสียตังค์ค่าลงโฆษณาชื่อตัวเองไปด้วย เมื่อเราคิดบวก ผลตอบแทนของการคิดบวกก็เริ่มเกิดขึ้น เมื่อลูกค้าหลายรายติดต่อเชิญบรรยาย ยิ่งทำให้ผมมั่นใจมากยิ่งขึ้นว่าการคิดบวกจะช่วยให้ชีวิตเราก้าวหน้ามากกว่าการคิดลบ