บันทึกมีคำถาม จากญาติโยมทางบ้าน ถามว่า...
กราบนมัสการหลวงพ่อครับ หากมีพระปาราชิก ขอแยกไปตั้งนิกายใหม่ หลวงพ่อเห็นเช่นไร ? จะเกิดภัยใหญ่ หรือไม่ ? ครับ
ที่มาแห่งคำถาม มาจากเนื้อข่าว... http://www.komchadluek.net/detail/20150309/202677.html
โดยเรื่องนี้ ส่วนตัวไม่มีภูมิเกี่ยวกับกฏหมายกับเขาเลย... แต่หากจะให้ต้องตอบ ก็จะตอบไปตามความรู้สึกแห่งมโนธรรมสำนึกว่า... ก็เมื่อบุคคลกระทำความผิดจนถึงระดับปาราชิกซ้ำ ๆ ซาก ๆ ต่างกรรม ต่างวาระ อย่างชัดแท้แน่นอนแล้ว ควรจะเสนอให้ระบุบทลงโทษอย่างร้ายแรง ตราลงในกฏหมายแม่บท เช่น กฏหมายรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับพระศาสนา เพื่อเอาผิดด้วย...
ด้วยการทำความผิดระดับหนักนั้นก่อความเสียหาย ก็จักต้องเอาผิด ด้วยบุคคลเฉกเช่นนี้... ไร้สำนึกโดยแท้...เพื่อจะได้ไม่ไปซ่าในแนวอื่น ๆ ต่อไปอีก... โดย การจะมาอ้าง เรื่อง เสรีภาพตามหัวข้อข่าว นสพ. ซึ่งจะจริง จะเท็จประการใด ? ก็ยังไม่ทราบได้ หรือ หากยิ่งสามารถใช้อิทธิพล กดดันเพื่อจะให้มีการออกกฏหมาย โดยอ้างเกี่ยวกับเสรีภาพทางความเชื่อ ความคิดต่อ ๆ ไปนั้นกับการทำผิดสำเร็จเป็นที่ประจักษ์แล้ว...ดูว่า จะเป็นเสรีภาพที่หยาบช้าไปซะหน่อย ( และ ก็เห็นว่า เสรีภาพ แบบนั้น น่าจะเป็นเสรีภาพแบบขี้หมา ๆ ซะมากกว่า )
หากคนทำผิด ถึงที่สุดแล้วไม่ติดคุก
คนทำผิด ถึงที่สุดพิพากษาแล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศได้
คนทำความผิดถึงที่สุดแล้ว ไม่มีการถอดยศ ปลดออก ไล่ออก เอาผิด
คนทำผิด ถึงที่สุดแล้ว ไปตั้งนิกายใหม่ ฯลฯ
แบบนี้...
แล้วจะมีกฏหมายไปทำไม ?
แล้วจะมีตำรวจไว้ทำไม ?
แล้วจะมีศาลสถิตยุติธรรม เอาไว้ทำไม ?
จึงฝากลมฝากฟ้าถึงใครก็ตามที่เป็นผู้บริหาร ฯ ผู้เป็นรัฐบุรุษที่รักแผ่นดิน ปกป้องพสกนิกรภายใต้พระบารมีธรรม แห่งองค์ในหลวงทั้งหลาย พึงมองกาลไกลไปนับร้อย นับพันปีข้างหน้า... พึงตระหนัก ใช้ความอดทน พากเพียรอย่างหนักให้จงดี... แล้วช่วยกันหาแนวทางวางรากฐานให้กับลูกหลานไทยทั้งแผ่นดินสำหรับอนาคตให้เกิดความมั่นคงเถิด...
ณ บทเรียนบุคคล บทเรียนแผ่นดิน จึงฝากดนตรีชุด อภัย
บทเพลง สันติธรรม ขับร้องโดย วัชราภรณ์ สุขสวัสดิ์ มอบไว้ให้คนไทย ไตร่ตรอง... http://youtu.be/xB-1X6M9-NU
สันติธรรม มั่นทำแต่ดี
สันติธรรม จึงมีสุขสันต์
หนักเหนื่อยปานไหน ก็ไม่เคยหวั่น
กล้าเจอะประจัญ ขอฟันฝ่าไป
สันติธรรมย่อมมีพลาดพลั้ง
สันติธรรม ตั้งใจแก้ไข
ปรับปรุงกันนั้น เป็นความหวังใหม่
เมื่อมีอะไรขออภัยต่อกัน
ตรองดูเถิดชาวไทย
ถ้าใครเหนือใครเป็นต้องห้ำหั่น
มันเป็นเรื่องรังสรรค์ หรือไรไฉนกัน
พากันคิดดู
สันติธรรมขอชวนเพื่อนพ้อง
สันติธรรมต้องวอนผู้รู้
โปรดจงมองเห็นดีที่มีอยู่
ติเตียนเรียนรู้แล้วพอ อย่าหลู่กัน
ติเตียนเรียนรู้ แล้วพอ อย่าก่อเวร..
ที่มา.. http://www.bunniyom.com/idx_psu3.html
หมายเหตุ... เนื้อข่าว ที่มาแห่งคำถาม... http://www.komchadluek.net/detail/20150309/202677.html
๙ มี.ค. ๒๕๕๘ ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ วาระพิจารณาทบทวนบทบัญญัติและพิจารณาเจตนารมณ์ของเนื้อหา ในช่วงบ่าย นอกจากจะพิจารณาปรับแก้ไขถ้อยคำ และเขียนเจตนารมณ์ที่ชัดเจนแล้ว ยังได้มีการปรับแก้ถ้อยคำในบทบัญญัติที่ว่าด้วยสื่อมวลชนและการกำกับคลื่นความถี่ ในสาระสำคัญ คือ มาตรา ๔๙ ว่าด้วยเสรีภาพของพนักงานหรือลูกจ้างเอกชนซึ่งประกอบกิจการสื่อมวลชน ในวรรคท้ายที่มีบัญญัติให้มีกฎหมายจัดตั้งองค์การวิชาชีพสื่อมวลชน เพื่อทำหน้าที่ปกป้องเสรีภาพและความเป็นอิสระของสื่อมวลชน ที่ประชุมได้พิจารณาตัดถ้อยคำที่ว่า "แต่ไม่ตัดสิทธิผู้นั้นที่จะฟ้องร้องคดีต่อศาล" ออก ด้วยเหตุผลที่ว่าหากไม่มีถ้อยคำดังกล่าวเขียนกำกับไว้ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้เสรีภาพมีสิทธิที่จะฟ้องร้องคดีต่อศาลได้อยู่แล้ว ขณะที่มาตรา ๕๐ ว่าด้วยการจัดสรรคลื่นความถี่ที่ใช้ในการส่งวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม ได้ปรับแก้ถ้อยคำตามข้อเสนอของคณะกมธ.ปฏิรูปการสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่ให้เพิ่มเติมคำว่า
"สารสนเทศ" ไว้ในวรรคสอง ซึ่งเป็นบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการทำหน้าที่ขององค์กรของรัฐที่เป็นอิสระเพื่อกำกับการประกอบกิจการกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ กิจการโทรคมนาคม เพื่อให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพราะคำว่าสารสนเทศ จะหมายถึงการสื่อสารสองทางบนอินเตอร์เน็ต เพื่อให้มีการกำกับดูแลให้มีความครอบคลุมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าสำหรับการเขียนเจตนารมณ์ในมาตรา ๔๑ ว่าด้วยเสรีภาพของบุคคลในการถือศาสนา นิกายของศาสนา หรือลัทธินิยม มีผู้ที่ยกเหตุการณ์ปัจจุบันสอบถามว่า กรณีของพระธรรมกายถือเป็นการขัดศาสนาบัญญัติที่กระทบต่อศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือไม่ ? และได้รับคำชี้แจงว่า กรณีธรรมกายถือเป็นการตีความหลักการของศาสนาพุทธผิดไปจากหลักการเดิม ดังนั้นจึงถือว่าธรรมกายไม่ใช่พุทธศาสนา ส่วนธัมมชโยที่ตีความพุทธศาสนาไม่ตรงกับหลักการของพุทธศาสนาก็เป็นการตีความหมายที่ผิด ดังนั้นประเด็นดังกล่าวธัมมชโยถือเป็นอีกนิกายที่เข้าข่ายเสรีภาพ เว้นแต่ในอนาคตจะมีการตั้งนิกายใหม่ เป็นธัมมชโยศาสนา ถ้าแบบนั้นก็ต้องว่ากันอีกที
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในวาระพิจารณาทบทวนบทบัญญัติของมาตราในร่างรัฐธรรมนูญในวันแรกนั้น ได้พิจารณาแล้วเสร็จไป ๕๑ มาตรา และปิดประชุมเมื่อ ๑๖.๓๐ น.
พศ.เผยเตรียมเสนอร่างพ.ร.บ.แก้ปัญหาพระ
นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า จากการที่สมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา(สนพ.) และเครือข่ายองค์กรชาวพุทธ ออกมาเรียกร้องให้มีการผลักดันร่างพ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ให้มีผลในทางปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหาการละเมิดพระธรรมวินัยของพระสงฆ์และพ.ร.บ.คณะสงฆ์นั้น ขณะนี้ร่างพ.ร.บ.อุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว ซึ่งขั้นตอนจากนี้นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะเตรียมนำเสนอร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะสงฆ์ โดยมหาเถรสมาคม(มส.)มาแล้ว
"หากพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวออกมา จะทำให้การปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา มีความเข้มข้นยิ่งขึ้น ที่สำคัญจะดูแลคณะสงฆ์ให้เกิดความเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น ไม่ประพฤตินอกกรอบความเป็นสมณะ อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่า คณะสงฆ์โดยเฉพาะมหาเถรสมาคม ไม่เคยปฏิเสธเรื่องการปฏิรูปพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะการทำสถาบันพระพุทธศาสนาให้เกิดความเข้มแข็ง และเกิดศรัทธาต่อประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาคณะสงฆ์ ก็พยายามผลักดัน พ.ร.บ.อุปภัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนา เพื่อแก้ปัญหาพระสงฆ์ประพฤติไม่เหมาะสม ซึ่งต้องอาศัยการผลักดันจากฝ่ายอาณาจักรที่จะต้องเข้ามาร่วมคิดและช่วยสนับสนุน แต่ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า เรื่องของศาสนา เป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากจะทำอะไร ก็ต้องมีความรอบคอบ มิเช่นนั้นจะเกิดผลกระทบในวงกว้างได้"ผอ.พศ. กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนกรณีที่สนพ.เรียกร้องให้พศ.ดำเนินการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพระพุทธอิสระ ที่ละเมิดพระธรรมวินัยนั้น นายพนม กล่าวว่า พศ.ได้มอบหมายให้ฝ่ายนิติการดำเนินการอยู่ ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลแจ้งไปทาง เจ้าคณะปกครอง โดยเฉพาะเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ต้องดำเนินการพิจารณา เนื่องจากเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ พศ.จะเข้าไปก้าวล่วงไม่ได้ พศ.ทำได้เพียงเสนอเรื่องให้ เจ้าคณะปกครองรับทราบเท่านั้น ส่วนกระบวนการสอบสวนก็ต้องอยู่ที่เจ้าคณะปกครองในพื้นที่ดำเนินการ
ไม่มีความเห็น