การศึกษาอาจจบลงในมหาวิทยาลัยแต่การเรียนรู้จะต้องดำเนินต่อไปตลอดชีวิต


นี่คือสิ่งที่มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์กำลังดำเนินการอยู่ เราจัดตั้งมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ขึ้นมาเพื่อให้เป็นมูลนิธิฯของคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม สามารถเป็นเจ้าของมูลนิธิฯ มูลนิธิฯเป็นเวทีของคนไทย เป็นเวทีของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน มาร่วมกันให้และรับ มาร่วมทำกิจกรรมเพื่อต่อยอดสร้างองค์ความรู้ และภูมิปัญญา เพื่อความมั่นคง อย่างยั่งยืนให้กับตัวเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ

วันนี้ขอนำ คาถาชีวิต โดยท่าน ว.วชิรเมธี หัวข้อ "การศึกษาอาจจบลงในมหาวิทยาลัย แต่การเรียนรู้จะต้องดำเนินต่อไปตลอดชีวิต" มาเป็นประเด็น

เวลาที่นักศึกษาเรียนจบ เรามักเรียกว่า "สำเร็จการศึกษา" หมายความว่า สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรที่ทางสถาบันการศึกษาวางเอาไว้เท่านั้น คนที่สำเร็จการศึกษาอย่างที่กล่าวมานี้ไม่ใช่ผู้ที่รอบรู้ไปเสียทุกเรื่อง เขารู้เพียงบางเรื่องเท่านั้นเอง ยังมีเรื่องที่น่ารู้อีกมากมายที่พวกเขาควรรู้หรือที่ยังไม่รู้ ดังนั้น คนที่สำเร็จการศึกษาจึงไม่ควรลำพองใจว่า ตนเป็นผู้รู้แล้ว หรือตนเป็นกูรูชั้นยอดของวงการแล้ว โลกของเรานั้นกว้างใหญ่ไพศาลนัก ภูมิรู้ภูมิปัญญาของโลกก็มีมากมายหลายสาขานับอเนกอนันต์ ทั้งยังมีภูมิปัญญาใหม่ๆ ผุดพรายเพิ่มขึ้นมาทุกทิวาราตรี ใครขืนลำพองว่าตนรู้แจ้งเจนจบ ก็นับว่ากำลังล้าหลังลงทุกทีที่คิดเช่นนั้น วิธีการที่ดีที่สุดที่จะอยู่ในโลกนี้อย่างมีความสุขและความก้าวหน้าก็คือ การเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า เรายังรู้ไม่พอ เรายังไม่เก่งจริง เรายังไม่ใช่นักปราชญ์ราชบัณฑิตสูงสุด เราเป็นแต่เพียงนักเรียนตัวน้อยๆของมหาวิทยาลัยชีวิตเท่านั้น คนที่มีทัศนคติอย่างนี้ เขาจะเบิกบานกับการเรียนรู้ไปตลอดชีวิต และยิ่งเรียนรู้ ก็จะยิ่งมีปัญญาสว่างไสวกลายเป็นปัญญาชนที่แท้จริงขึ้นมาในวันหนึ่งข้างหน้า

ที่ยกหัวข้อนี้มาเผยแพร่ในวันนี้ เนื่องจากต้องการนำบทความนี้มาสนับสนุนสิ่งที่ผมพูดอยู่เสมอว่าอย่าคิดว่าเด็กไทยหรือคนไทยสมัยนี้ไม่มีคุณภาพ จบปริญญาออกมามากมาย แต่ไม่มีคุณภาพ และมัวไปโทษผู้บริหารการศึกษา เสียเวลาพูดและถกกันมากมายหลายเวทีจะแก้ไขระบบการศึกษา ความรู้ในห้องเรียนมีเพียง 20 % ของความรู้ทั้งหมดที่คนเราเรียนรู้ แต่เราไปมัวหมกมุ่นกับความพยายามจัดการกับการศึกษาในระบบที่ให้ความรู้คนได้มากที่สุด 20 % และใช้วิธีประเมินคุณค่าหรือคุณภาพของคนจากความรู้แค่ 20% ส่วนความรู้อีก 80% ของคนไม่ได้ถูกนำมาใช้ในการประเมินคุณภาพและคุณค่าของคน

ผมยังมีความเชื่อว่าคนทุกคนมีศักยภาพ และมีความสามารถ เพียงแต่เขาขาดโอกาสในการที่จะทำให้เขาค้นพบศักยภาพของตัวเขาเอง หรือบางคนสามารถค้นพบตัวเอง รู้ศักยภาพของตัวเอง แต่ขาดโอกาสที่จะใช้ศักยภาพของเขา ความล้มเหลวจึงอยู่ที่ระบบการประเมิน เครื่องมือและวิธีวัดคุณภาพคน และคุณค่าของคน ไม่ใช่ว่าคนไทยด้อยกว่าคนชาติอื่น

นี่คือสิ่งที่มูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์กำลังดำเนินการอยู่ เราจัดตั้งมูลนิธิศูนย์บูรณาการพัฒนามนุษย์ ขึ้นมาเพื่อให้เป็นมูลนิธิฯของคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม สามารถเป็นเจ้าของมูลนิธิฯ มูลนิธิฯเป็นเวทีของคนไทย เป็นเวทีของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน มาร่วมกันให้และรับ มาร่วมทำกิจกรรมเพื่อต่อยอดสร้างองค์ความรู้ และภูมิปัญญา เพื่อความมั่นคง อย่างยั่งยืนให้กับตัวเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ
ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท
3 กุมภาพันธ์ 2558

หมายเลขบันทึก: 585109เขียนเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2015 10:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2015 10:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณ เรื่องเล่าดีดีนี้ นะคะ ..... ใช่แล้วค่ะ การเรียนรู้ ต้องเรียนต่อไป เรียนรู้ตลอด ชีวิต นะคะ


อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท