ในการประชุม ANHPERF ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ ศ. ดร. วีระพงศ์ ปรัชชญาสิทธิกุล ได้นำเอกสารชื่อ Education Reform for Medical Technologies of the 21st Century มาให้ผม ๑ ชุด เป็นเอกสาร ppt รวม ๒๑ หน้า อ่านแล้วเห็นภาพแนวคิดของการเปลี่ยนแปลงที่ครบรอบด้าน และมีตัวอย่างวิธีการที่ดีมาก
ท่านที่สนใจน่าจะขอเอกสารนี้ได้จาก ศ. วีระพงศ์ได้ที่ virapong.pra(at)mahidol.ac.th
คนทั่วไปมักคิดว่า วิชาชีพเทคนิคการแพทย์ เน้นการทำงานอยู่ในห้องตรวจทางห้องปฏิบัติการ ใช้เครื่องมือที่ทันสมัย ซึ่งก็เป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง แต่ไม่ครบถ้วน
นักเทคนิคการแพทย์แห่งศตวรรษที่ ๒๑ ต้องเป็นส่วนหนึ่งของ "ทีมสุขภาพ" (Health Team) เช่นเดียวกับวิชาชีพสุขภาพอื่นๆ ที่ไม่มุ่งทำงานแบบโดดเดี่ยว ต่างวิชาชีพต่างทำ แต่มุ่งสร้างคุณค่าเพิ่มจากความร่วมมือทำงานข้ามวิชาชีพ
วิชาชีพเทคนิคการแพทย์สามารถทำงานสุขภาพเชิงรุก คือเน้นการสร้างเสริมสุขภาพ (Health Promotion) และป้องกันโรค (Disease Prevention) โดยสามารถสร้างสรรค์วิธีทำงานใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานแบบรุกเข้าสู่ชุมชน ไม่ใช่ตั้งรับอยู่ในโรงพยาบาล หรือห้องปฏิบัติการที่เป็นศูนย์ เท่านั้น
จะมีสมรรถนะดังกล่าวได้ การศึกษาของนักเทคนิคการแพทย์ต้องเป็น Competency-Based Learning โดยกำหนดสมรรถนะ (Competencies) มาจากความต้องการของระบบสุขภาพ และต้องมีกิจกรรมการเรียนรู้ ส่วนที่ไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยกิต ที่อาจเรียกว่า extra-curricular activities หรือในศัพท์ใหม่ว่า co-curricular activities ที่ช่วยสร้างสมรรถนะตามเป้าหมายที่ต้องการ รวมทั้งควรมีประสบการณ์การฝึกปฏิบัติงาน ในชุมชน ที่เรียกว่า เทคนิคการแพทย์ชุมชน ด้วย
การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่ได้ดำเนินการเฉพาะภายในประเทศไทย แต่มีการรวมพลังกันในภูมิภาคอาเซียน มีการมาร่วมประชุมกันโดยมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นเจ้าภาพ มีการประกาศ Mahidol Declaration 2013 ASEAN Medical Technology Education
วิจารณ์ พานิช
๒๖ พ.ย. ๕๗
ไม่มีความเห็น