บทเรียน ความไว้วางใจ


วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม

การนมัสการที่บ้านในคืนนี้ เป็นคิวของเราในการนำ

หลังจากจบการนมัสการไปแล้ว ก็ต่อด้วยการทำ Temperature reading ชื่นชมกันในบ้านเหมือนเดิมแต่หลังจากนั้นก่อนแยกย้ายกันไป หนุ่มได้เพิ่มอีกหัวข้อ คือ " บทเรียนชีวิต " ที่ได้รับในอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งอาจมากจากตัวเราเอง หรือการได้ฟังเรื่องราว จากการได้อ่านหนังสือก็ได้

โดยหนุ่มเริ่มก่อน เล่าเรื่องที่อ่านมาจากหนังสือให้เราฟัง เรื่อง ควันหลงของ The Voice ว่า ตอนรอบสุดท้าย ที่น้องอิมเมจกับน้องหนุ่มต้องแข่งกันนั้น โค้ชก็ได้มีการพูดคุยกันว่าจะเลือกเพลงอะไร สำหรับอิมเมจ นั้นขอเลือกเพลงฝรั่งที่เขาอยากร้อง แม้จะรู้ว่า ผลการตัดสินนั้นคนไทย จะชอบเพลงที่คุ้นเคย และไม่ค่อยอินกับเพลงฝรั่งมากนัก แต่เขาก็ยังอยากทำในสิ่งที่ตนรัก ตนต้องการ แต่ส่วนน้องหนุ่มนั้นเขาอยากชนะ ก็เลยเลือกในสิ่งที่ตรงกับใจคนดูโดยการเลือกเพลง สักวันต้องได้ดี ที่เนื้อหานั้นได้ดึงตัวตนความเป็นเขาออกมาเป็นอย่างดีจึงอาจทำให้คนดูคนฟังอินและเข้าถึงเพลงมากกว่าคนอื่นๆ

หนุ่มก็ได้บทเรียนว่า แต่ละคนมีเป้าหมายไม่เหมือนกัน และถ้าเป้าหมายของเราชัดเจน การกระทำทุกอย่างของเราก็จะมีทิศทาง และสามารถเดินทางไปตามเส้นทางนั้นได้อย่างชัดเจนเช่นกัน เราก็เสริมต่อว่า ดังนั้นเราต้องเริ่มตั้งเป้าหมายให้ชัด แล้วก็ไปตามนั้น

หลังจากนั้น อิมมี่ก็ขอพูดต่อทันที ในขณะที่เรายังคิดไม่ออกเลย

เขาก็เล่าว่า วันก่อนในชั่วโมงวิชา IS ที่อ.ให้จับฉลากว่าต้องทำรายงานเรื่องอะไร ตอนนั้นเขาก็ภาวนาว่าอย่าได้เรื่องที่ 4 เลยซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับ จิตอาสา เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร ในระหว่างที่มีการจับฉลากกัน เขามองเห็นเพื่อนแต่ละคน ทำท่ายกมือไหว้ท่วมหัว สวดอะไรบางอย่างก่อนจับฉลาก เขาก็ทำบ้าง แต่เป็นการอธิษฐานจากพระเจ้าว่า ถ้าจับได้ข้อไหนแสดงว่าเป็นข้อที่พระเจ้าคิดว่าเขาทำได้แน่ และเมื่อเขาจับ ก็ได้เรื่องที่ 4 พอดี เขาก็ยอมรับได้ และก็ทำไปตามขั้นตอนของอาจารย์ โดยเชื่อว่ามันต้องผ่านไปได้ และสิ่งที่เกิดขึ้น ก็พบว่า เมื่อไปนำเสนอแต่ละบทกับอาจารย์เขาก็ผ่านฉลุยทุกครั้ง ผ่านมาแล้ว 3 บท ซึ่งเป็นที่แปลกใจของเพื่อน ๆ เป็นอย่างมากเพราะบางคนผ่านยากมาก ต้องแก้ไขโน่นนี่นั่น และเรื่องนี้ก็ทำให้เขาได้เรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับจิตอาสามากขึ้น และสิ่งเหล่านี้คือบทเรียนของความไว้วางใจในพระเจ้า และเชื่อในความสามารถของตนเอง

สิ่งที่เกิดขึ้นในตัวเราก็คือ เราชื่นชมในความกล้าหาญในตัวของลูก ที่เขากล้าในการแสดงความคิดเห็น และสามารถเชื่อมโยงเหตุการณ์ในชีวิตให้ออกเป็นบทเรียนได้ เพราะตัวเราเอง ยังหาเรื่องที่จะ share ให้ฟังไม่ได้เลย เพราะไม่ได้เตรียมมาก่อน แต่อิมมี่ เขาพูดได้คล่องเปรี๊ยะเลย มันแสดงถึง เวทีการเรียนรู้ร่วมกันในบ้านของเราก็ประสบความสำเร็จ มันเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้เขาสามารถเล่าเรื่องทั้งทุกข์ สุข และความภาคภูมิใจที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้ เราก็เลยนำเรื่องนี้เป็นบทเรียนว่า การทำกิจกรรมร่วมกันแบบนี้เป็นสิ่งที่ดี และถือโอกาสชื่นชมอิมมี่ไปในตัวไปด้วย เขาก็ได้แต่ยิ้มน่าบานไปเลย

หมายเลขบันทึก: 583248เขียนเมื่อ 30 ธันวาคม 2014 13:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 ธันวาคม 2014 13:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท