ทำไม สหรัฐฯเลิกคว่ำบาตรคิวบา


แผนที่__ หมู่เกาะแคริบเบียนส์

  • 1 = สหรัฐอเมริกา สีเหลือง
  • 2 = เม็กซิโก สีส้ม
  • 3 = ปานามา เจ้าของคลองปานามา สีชมพู

...........

  • 4 = คิวบา สีส้มเหลือง (ส้มอ่อน)
  • 5 = จาไมก้า ดังเรื่องนักวิ่งระยะสั้น สีเหลือง
  • 6 = เฮติ ดังเรื่องแผ่นดินไหว อหิวาต์ระบาดเป็นปีๆ ไม่หาย
  • 7 = โดมินิกัน อยู่ครึ่งตะวันออก เกาะเดียวกับเฮติ

...........

โดมินิกัน รักษาป่าไม้ได้ดีกว่า ระบบบริการสุขภาพดีกว่า เฮติ

ทำให้ อหิวาต์ ไม่ระบาดเข้าโดมินิกัน

ทั้งๆ ที่อยู่บนเกาะเล็กๆ ใกล้ๆ กัน

.

ภาพ__ แผนที่ทวีปอเมริกา, จากบนลงล่าง

  • แคนาดา สีเขียว
  • สหรัฐอเมริกา สีส้ม
  • เม็กซิโก สีเหลือง
  • คิวบา สีน้ำตาล

.

คิวบา สีน้ำตาล _ อยู่ทางตะวันออก ของเม็กซิโก

ทางใต้ ของรัฐฟลอริด้า สหรัฐฯ (ส่วนที่ยื่นไปทางใต้)

คิวบา มีพื้นที่ 109,884 ตร.กม. = ประมาณ 1/5 ของไทย

ประชากร 11.2 ล้านคน มากเป็น 1.33 เท่า ของกรุงเทพฯ (8.4 ล้านคน)

วิดีโอ__ เที่ยว ฮาวานา-วาราเดโร คิวบาใน [ 59 วินาที ]

วิดีโอ__ MSNBC รายงานว่า จนถึงปี 2007/2550, มีคนอเมริกันจบหมอจากคิวบาแล้ว มากกว่า 100 คน

คนที่จบหมอในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ กู้มาเรียน (ค่าเรียนแพงมาก)

แต่ที่คิวบา... ค่าเล่าเรียนนักศึกษาต่างชาติ ไม่แพง

วิดีโอ__ บริการสุขภาพคิวบา [ 24 นาที ]

ถูกคว่ำบาตร แต่ทำได้ดี จนอายุขัยเฉลี่ยสูง เท่าประเทศที่พัฒนาแล้ว

ดร.เอสเตเวซ กล่าว่า

คิวบา เป็นฮับ หรือ ศูนย์การศึกษา บุคลากรสุขภาพ-พยาบาล-แพทย์ นานาชาติ

.

กำลังผลิต = หลายหมื่นคน/ปี

สำนักข่าวแห่งหนึ่ง รายงานว่า

มีนักศึกษาจาก สหรัฐฯ ไปเรียน

กลับไป (สหรัฐฯ) ก็สอบใบอนุญาตทำงานได้

.

ถ้า คิวบาร่วมมือกับไทย,

ไทย มีสิทธิ์ เป็นฮับด้านการศึกษาของอาเซียน ได้

โดยเฉพาะ ด้านวิทยาศาสตร์ + สุขภาพ + กีฬา

.

.............................................................................

.............................................................................

หลังบอยคอตต์ กันมา กว่า 50 ปี (ตั้งแต่ 1961/2504),

ประธานาธิบดี โอบาม่า ก็ประกาศเลิกคว่ำบาตรคิวบา (17 ธค.2557)

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ สหรัฐฯ หันมาญาติดีกับคิวบา ได้แก่

.

(1). ผู้นำเก่า "สว.(สูงวัย)" แล้ว

.

2 พี่น้องผู้ยิ่งใหญ่ คือ

ท่านฟิเดล คาสโตร = 88 ปี,

ท่านราอูล คาสโตร = 83 ปี

สูงวัยแล้ว

.

ความห้าว (ชวนทะเลาะ) หายไป

เหลือไว้ แต่ความหลัง... จางๆ

ดูจะไม่เป็นพิษ เป็นภัยต่อสหรัฐฯ อีกต่อไป

.

(2). ต้องการฐานเสียง (เลือกตั้ง)

.

พรรคไหนญาติดีกับคิวบาได้

จะได้คะแนนเสียงจากกลุ่มฮิสแปนิค (hispanic)

หรือ คนอเมริกันที่อพยพจาก เม็กซิโก-อเมริกากลาง

ที่รวมกันเป็นชนกลุ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มากขึ้น

.

เรื่องนี้ ดูจะสอดคล้องกับ กฎหมายใหม่เร็วๆ นี้

ที่ให้ความคุ้มครอง แรงงานต่างชาติ + ครอบครัว

รวม 5 ล้านคน

.

(3). ใช้เศรษฐกิจนำการเมือง แบบจีน

.

ท่านราอูล เห็นตัวอย่างประธานาธิบดีฮิวโก ชาเวซ

ซึ่ง เสียชีวิตจากมะเร็งในปี 2556

และ ปธน.นิโคลัส มาดูโร ทำ เวเนซูเอล่า ทรุด...

กับสังคมนิคม (เน้น รัฐสวัสดิการ + รัฐวิสาหกิจ) มาแล้ว

.

ทว่า... เห็นแบบอย่างจากจีน

คือ เศรษฐกิจนำการเมือง ได้ผลดี

อยากเปิดประเทศ = เศรษฐกิจ-การค้า-ลงทุน

และ ปิดการเมือง

.

ช่วงปี 1985-1991 สหภาพโซเวียตบอบช้ำ

จากการ ลงทุนสงครามยืดเยื้อ (NPL)

ในเวียดนาม _ ในอัฟกานิสถาน

พอดีน้ำมันราคาตก รายได้หด

.

จนสหภาพโซเวียตแตก ช่วงต้นปี 1990s

ทำให้ รัสเซีย ตัดเงินอุดหนุน 5-6 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ/ปี

.

เกือบ 10 ปีก่อน, คิวบาตกลงกับเวเนซูเอล่า

ส่งโค้ชกีฬา หมอ รปภ. ครูฝึกทหาร และผลผลิตเกษตรไป

ได้ น้ำมัน 100,000 บาร์เรล/วัน

ถ้าคิดที่ราคา 100 ดอลลาร์/บาร์เรล

= 3.65 พันล้านดอลลาร์ฯ/ปี

.

ช่วงนี้... น้ำมันราคาตก

รายได้คิวบาก็ตกเช่นกัน

ทำให้มีผู้คาดการณ์ ว่า

เรื่องเปิดเสรี "เศรษฐกิจนำ การเมืองไม่เกี่ยง"

.

คงจะไม่จำกัดอยู่เฉพาะ คิวบา

ทว่า... มีแนวโน้มจะเกิดกับ "อิหร่าน" ด้วย

อิหร่านถูกคว่ำบาตรมา 35 ปี

ร่างสนธิสัญญาจำกัดนิวเคลียร์

.

ตกลงขั้นต้นได้ เดือนพฤศจิกายน 2557

หลักการใหม่ของสหรัฐฯ คือ

ทำเป็น "ไม่รู้ไม่เห็น" หรือ "บ่ฮู้บ่หัน" เรื่องการเมือง

เปิด เศรษฐกิจ-การค้า-ลงทุน

.

เปิดตลาด หารายได้ด้วย

ทำให้ เศรษฐกิจคิวบา ดีขึ้น มี "คนชั้นกลาง" มากขึ้น

เมื่อ คนมีการศึกษา + คนชั้นกลางมากพอ

การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง คงจะตามมาเอง

.

(4). เพื่อดึง "คนเก่ง" เข้าประเทศ

.

คิวบา ส่งพยาบาล-หมอเก่งๆ ไปทั่วอเมริกากลาง

สร้างอิทธิพลไปทั่ว

สหรัฐฯ ก็สกัดดาวรุ่ง

โดยให้สิทธิ์ หมอคิวบาอพยพเข้าได้

.

พยาบาล-หมอคิวบาเก่ง พูดสเปนได้

ดูแลคนไข้ฮิสแปนิค

ที่อพยพจากเม็กซิโก-อเมริกากลางได้

ยิ่งเปิดประเทศ ก็ยิ่งเลือกคนเก่งเข้าได้มากขึ้น

เช่น นักกีฬาคิวบา ฯลฯ

........................................................................

........................................................................

คิวบา มีบุญคุณต่อประเทศไทยหลายอย่าง

ในเรื่อง โค้ชมวย คงจะเป็นที่ทราบกันดี

ทว่า... คอมมิวนิสต์แบบคิวบา ไม่มีใครเหมือน

คือ เน้นพัฒนาคน 3 ด้าน ต่อเนื่องมาหลายสิบปี ได้แก่

.

(1). ผลิต พยาบาล-หมอฟัน-หมอ-นักวิทยาศาสตร์-วิศวกร มาก

.

คิวบาส่งออก พยาบาล-หมอ ไปทั่วอเมริกากลาง

ไปเวเนซูเอล่า และเร็วๆ นี้ ไปช่วยปราบ อีโบล่า ในอาฟริกา

ถ้าได้เปิดประเทศ,

พยาบาล-หมอคิวบาที่อพยพไปสหรัฐฯ

.

รวมกับ ทีมหมอในประเทศ

มีสิทธิ์พัฒนาเป็น เมดิคัลฮับ ได้สบายๆ

.

คิวบา ก้าวหน้าด้านการวิจัย

ก่อนหน้านี้ มหาวิทยาลัยในบราซิล

ขอความช่วยเหลือ จากคิวบามาแล้ว

.

ในไทย, คิวบา ให้ความช่วยเหลือ

บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์

ถ่ายทอดเทคโนโลยี การผลิตยาชีววัตถุคล้ายคลึง (biosimilars)

โดยเฉพาะ สารภูมิคุ้มกันแบบเฉพาะ (monoclonal antibodies)

.

ที่ใช้ในการรักษามะเร็ง

ภูมิแพ้ทำลายตนเอง ฯลฯ

ทางคิวบาตั้งเป้าว่า

ยาใหม่ (ที่ทำในไทย) น่าจะไม่แพง

เพื่อให้ คนไม่รวย ได้ใช้

.

(2). การศึกษาพื้นฐาน

.

คนคิวบา มีการศึกษาเฉลี่ยสูงที่สุด

ใน อเมริกากลาง-ใต้-แคริบเบียนส์

แม้จะ พูดภาษาสเปน

ทว่า... คนที่นั่น นิยมเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้นเรื่อยๆ

ทำให้ มีคนพูดได้ 2 ภาษาขึ้นไปมากมาย

.

(3). ระบบบริการสุขภาพ

.

ระบบบริการสุขภาพคิวบา อยู่ในระดับดี ถึงดีมาก

แถม ยังรับรักษาโรคตา

ให้คนทั่วอเมริกากลาง-หมู่เกาะแคริบเบียนส์ ด้วย

.

สหรัฐฯ มีบุญคุณกับไทยมาก

ให้ความช่วยเหลือไทยมากมาย

เช่น มูลนิธิร้อกกี้ เฟลเลอร์ ช่วยพัฒนา คณะวิทยาศาสตร์-แพทย์

ทำให้ ไทยมีรายได้จาก เมดิคัลฮับ

.

และ ระบบบริการสุขภาพดีขึ้น

คิวบา ก็ช่วยไทยมาก ทั้งกีฬา และ การผลิตยา

อย่างไรก็ขอเชียร์... สหรัฐฯ กับ คิวบา

ขอให้ประสบความสำเร็จทั้งคู่

.

ถ้า คิวบากับไทย จับมือกันดีๆ

ไทย จะมีโอกาสเป็น ฮับด้านการศึกษาของอาเซียนได้

ถึงตรงนี้... ขอให้ทุกๆ ท่าน มีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ

สถิติแพทย์ต่อประชากร 1,000 คน (ธนาคารโลก 2010/2553)

http://data.worldbank.org/indicator/SH.MED.PHYS.ZS

แพทย์คิวบา = 6.7 ต่อประชากร 1,000 คน

แพทย์ไทย = 0.4 ต่อประชากร 1,000 คน

ประเทศอื่นๆ ปรากฏดังกราฟข้างล่าง

.

From > http://www.huffingtonpost.com/trita-parsi/if-its-true-on-cuba-its-t_b_6343656.html

From > http://www.theatlantic.com/international/archive/2014/12/the-new-cuba-an-offspring-of-biology-and-technology/383893/

From > http://www.wongkarnpat.com/viewpat.php?id=1151#.VJUeuBSsA

From > http://elib.fda.moph.go.th/library/default.asp?page2=subdetail&id=38173

From > http://en.wikipedia.org/wiki/Cuba

From > http://data.worldbank.org/indicator/SH.MED.PHYS.ZS

From > http://www.indexmundi.com/thailand/demographics_profile.html

.

หมายเลขบันทึก: 582853เขียนเมื่อ 20 ธันวาคม 2014 21:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 ธันวาคม 2014 21:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

There may be many more 'politico-economic reasons' for US to make friends with Cuba. Such as closing a 'communist (Russian) outpost from the US front door (and opening ways for a US military outpost); Cuba is a friend of many Central and South American Nations, by being friend of a friend (in social network theories) US would have many more (nations) friends; and US can learn a lot from Cuba on managing and surviving economic sanctions and low or controlled economic growth (capitalists can learn valuable lessons from others too).

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท