ดินแถวนี้เป็นดินปนหิน ซึ่งมีลักษณะเป็นพื้นราบบ้าง ลาดเทน้อยๆบ้าง เป็นลูกคลื่นลอนลาดบ้าง มองออกไปไกลๆ มีดงสาบเสือขึ้นเต็มไปหมด แสดงว่าธธรมชาติต้องการพืชพันธุ์นี้ไว้ดูแลพื้นที่ด้วย ก่อนที่จะจัดระเบียบต้นไม้อย่างสาบเสือ ก็ควรแกะรอยว่าธรรมชาติกำลังสื่อบอกอะไร
พื้นที่ตรงนี้ร้อนมาก แดดแรง สภาพดินปนหินเป็นดินซึ่งอุ้มน้ำเก็บไว้ไม่ได้มาก หญ้าคามีพืชตระกูลถั่วขึ้นแซม หญ้าคาทนแดด ทนร้อน ยิ่งร้อนมากๆยิ่งเติบโตกว้างออกไป ไม่ทนแฉะ พืชตระกูลถั่วเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย ไม่ชอบดินที่น้ำท่วมขัง
อืม ต้นไม้จะโตได้ต้องการน้ำ ธรรมชาติกำลังบอกว่าดินตรงดงหญ้าคามีน้ำในดินน้อย เมื่อไรที่เห็นลักษณะพืช ๒ กลุ่มนี้อยู่ด้วยกันตรงไหน หากต้องการให้ธรรมชาติทำงานแปดสิบเปอร์เซ็นต์ ลงมือเองยี่สิบเปอร์เซ็นต์ให้เลิกยุ่งกับการเปลี่ยนแปลงพืชคลุมดินตรงนั้นไว้ก่อน
แต่ถ้าชอบที่จะลงมือเองแปดสิบเปอร์เซ็นต์ก็ให้คอยตามตัดเจ้าพืชพวกนี้ให้เหี้ยนติดดิน หรือหาพืชชนิดใหม่ที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงมาทดแทน ตัดสินใจแล้วว่าจะจัดระเบียบต้นไม้แถวดงหญ้าคา ตั้งใจจะให้พืชที่เติบโตพึ่งตัวเองตามธรรมชาติ พืชที่จะหามาทดแทนก็หามาจากในดินผืนนี้แหละ
สังเกตดูพื้นที่ต่อ อ้อ เจอความแตกต่างตรงนี้แล้วไง แถบหนึ่งที่พบดงสาบเสือขึ้นเป็นดง จะมีดงหญ้าคาแตกกออยู่ใกล้ๆแบบที่ใครที่มัน อีกแถบก็พบดงสาบเสือแทรกตัวอยู่ริมๆดงหญ้าคาเช่นกัน
ถึงแม้เจ้าสาบเสือจะแผ่ร่มเงากิ่งก้านกว้างออกไป จุดที่หญ้าคาขึ้นก็ยังแน่นหนาถ้าแสงแดดส่องถึงใบหญ้าคาได้ ตรงไหนแดดส่องไม่ถึง กอหญ้าคาที่ขึ้นจะบางลงๆหรือไม่พบเลย
ในทางกสิกรรมธรรมชาติ ก็มีการบอกกันต่อว่า สาบเสือมีสารเคมีพิเศษที่ทำให้ดินมีคุณภาพทางชีวภาพมากขึ้น สาบเสือจะทำลายหญ้าคา ปรับปรุงคุณภาพของดิน เมื่อไรที่มันดอกดก นั่นก็หมายความว่า สภาพอากาศเมื่่อนั้นแล้งหนัก ใบมันใช้หมักทำน้ำหมักที่กรองเอาน้ำมาใช้ฉีดไล่เพลี้ยและหนอนบางชนิดดี เป็นของเล่นให้เด็กๆเพลินกับเสียงดัง ถ้าเอาใบมาเผา แล้วนำเถ้าไปทุบเล่นให้เกิดเสียงแก๊ป
สาบเสือในพื้นที่นั้นมีทั้งขนาดต้นเตี้ยระดับเอว ไปจนถึงต้นสูงระดับยอดไม้พุ่ม พืชที่พบงอกงามอยู่ใกล้มันก็จะเป็นพวกนี้ ขี้ไก่ย่าน ไม่พบพืชอื่นๆ
ใต้กอของต้นสูง พุ่มใหญ่พบมีใบร่วงหล่น กิ่งรอนหักเองได้ ถมลงไปคลุมหน้าดินใต้ต้นไว้ ตรงไหนที่แผ่กว้างให้ร่ม ตรงนั้นดินดูดี จับแล้วเย็นมือ แต่ไม่ชื้น ดินแห้ง
มีชาวบ้านเคยทดลองว่า เมื่อไม่มีต้นอะไรใช้เป็นปุ๋ย ก็ใช้ตัดสาบเสือมาปูลงบนดินที่จะปลูกพืช ปูได้ ๓ รอบ ดินที่ไม่ดีเดิมนั้นปลูกพืชฉลุย เท่าที่เห็นแถบนี้ก็เป็นเช่นว่า ในจุดที่มีความร่มรื่นใต้กอสาบเสือ ซึ่งได้ไปสะสางกิ่งที่แห้งลงไปถมไว้บนพื้นดิน เมื่อฝนตกผ่านไปไม่กี่รอบพอให้ดินชื้น ตรงจุดที่มีแสงแดดส่องถึงรำไร หากไม่พบขี้ไก่ย่าน ก็จะพบพืชอีกพันธุ์หนึ่งขึ้นงาม พืชที่ว่าชื่อ อ่อมแซบ
โดยส่วนตัวก็เลยคิดว่า จะจัดระเบียบเจ้าสาบเสือนี้ด้วยการตัดแต่งกิ่งก้านของมันไม่ให้แผ่กว้างเกินไปจนแดดส่องไม่ถึงพื้น หรือขึ้นรกเกินไป กิ่งก้านที่ตัดทิ้งก็นำไปใช้คลุมดินไว้คุมเขตหญ้าไม่ให้งอกได้ง่ายๆ
คุ้นๆ แต่นึกหน้าตาต้นสาบเสือไม่ออกแล้วค่ะ
ต้นสาบเสือมีคุณประโยชน์ต่อดินมากนะคะ
May I add that many plants and animals are involved in "converting" inorganic matters" into useful "organic matters for plants and animals". To see the world in different lights "plants do not have any good materials, they germinate from seeds, take matters from their surroundings, convert the matters into useful matters for themselves but in doing so they make good things for others too.
It is just a step away from looking at insects and other animals in the same way. They are not "mere pests"! ;-)
Have fun!
คุณ sr ค่ะ
กำลังรู้สึกสนุกกับบรรดาครูวัชพืชที่ให้มุมมองใหม่อยู่เลยค่ะ เห็นแล้วชอบใจในหลายๆอย่าง
คำว่าวัชพืชยังติดสมองอยู่แหละค่ะ
ทุกครั้งที่เห็นจึงยังต้องตั้งคำถามตัวเอง ทำคำตอบให้ชัดก่อนไปแตะต้องให้มันล้มตาย
มีแมลงและสัตว์อยู่หลายชนิดแหละค่ะที่ผ่านเข้ามาให้เห็น
ซึ่งก็คงสนุกไม่แพ้กันถ้าได้ตามรอยมันไป