มีโอกาสได้เข้าไปร่วมทำงานศึกษาช่องว่างของกฎหมายด้านสิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์ โดยการสนับสนุนของ AFPPD และ UNFPA เพื่อเป็นข้อมูลในการยกร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์ พ.ศ.... ซึ่งมีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพ ทั้งนี้เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้การรับรองสนธิสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับที่เกี่ยวข้องในด้านนี้ เช่น อนุสัญญาว่าด้วยด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (Convention on the Elimination of All Forms of Discrimination against Women – CEDAW) อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child) เป็นต้น ซึ่งมีภารกิจผูกพันต่อการผลักดันกฎหมายและกลไกการทำงานที่เป็นรูปธรรม ประกอบกับปัญหาด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ในบ้านเรากำลังกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชากรโดยรวม กล่าวคือ ภาวะเจริญพันธุ์บ้านเรามีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลให้สัดส่วนประชากรวัยเด็กและแรงงานลดลง แต่ผู้สูงอายุจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันก็พบว่าในกลุ่มวัยรุ่นกลับมีอัตราการเกิดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ทำให้เกิดภาพของปัญหา "เกิดน้อยด้อยคุณภาพ" ซึ่งจะส่งผลในระยะยาวทำให้แรงงานและผู้สูงอายุที่เกิดจากประชากรในกลุ่มดังกล่าวไม่มีคุณภาพชีวิตไปด้วย นอกจากนั้นยังพบโรคที่เกิดในระบบการเจริญพันธุ์ เช่น HIV มะเร็งในระบบสืบพันธุ์ หรือแม้แต่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ในกลุ่มวัยรุ่น มีแนวโน้มสูงขึ้น
ด้วยเหตุนี้การผลักดัน พ.ร.บ.คุ้มครองสิทธิอนามัยการเจริญพันธุ์ จึงมีความจำเป็น โดยเนื้อหา กระบวนการ จะเป็นอย่างไรบ้าง จะทยอยนำมาเล่าสู่กันฟังต่อไปเป็นระยะครับ
กิตติพงศ์
๗ ตุลาคม ๒๕๕๗
,มีประโยชน์มากเลยครับ
ได้ความรู้เพิ่มขึ้น
อาจารย์หายไปนานเลยครับ
ช่วงนี้เรียน ป.เอก ครับ อ.ขจิต ส่วนใหญ่เลยอยู่กับหน้า Facebook ไม่ค่อยได้เข้ามาเขียน Blog ครับ ขอบคุณครับที่นึกถึง จะเริ่มกลับมาเขียนบันทึกไว้หละครับ ^_^