การพักค้างคืนที่มีนา


ได้อะไรบ้างจากการพักค้างคืนที่มีนา

ได้อะไรบ้างจากการใช้ชีวิตในเต้นท์ที่มีนา

กระโจมหรือเต้นท์ที่มีนา

5 วัน5 คืนที่มีนา คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าเป็นครั้งหนึ่งในความทรงจำที่มีครบทุกรสชาดเลยทีเดียว ก่อนอื่นของเล่าให้สภาพเต้นท์ที่มีนาก่อนนะคะ

เต้นท์ของคนไทยคะ

ชุด ผศ.ดร.ชัยรัตน์ ศืริพัธนะ ผ้าขาว 2 ชิ้น ที่มีนาคะ

การพักที่มีนาเป็นหนึ่งในวายิบในการทำฮัจญ์คะ ทุกคนต้องไปพักค้างแรมที่มีนาคะ ที่มีนามีเต้นท์ให้ผู้ที่ประกอบพิธีฮัจญ์ทั้งหมดทั้งสี่ล้านคนอยู่คะ โดยแบ่งเป็นโซนคะเค้าเรียกว่ามัสตับ คนไทยจะอยู่มัสตับ 87-89 คะ เป็นกระโจมหรือเต้นเป็นหลังๆ กลางทะเลทราย แต่ละหลังจุประมาณ 100 คนเห็นจะได้ โดยนอนติดกันเลยนะคะ โดยเอาหัวและเท้าชนกันคะ ที่นอนของแต่ละคนกว้างไม่ถึง 1 เมตรไม่มีฟูก มีแต่เสื่อ 1 ผืนคะ นอนบนพื้นทรายไม่มีหมอนคะ ใช้กระเป๋าหนุนแทนหมอน คล้ายๆ กับการเข้าค่ายลูกเสือพักแรมอะไรประมาณนั้นนะคะ มีผ้าห่มบางๆ ของดิฉันการบินไทยเค้าให้คนละผืน ตั้งแต่บนเครื่องคะ ตอนแรกไม่ได้สนใจหรอกคะ แต่ใช้ได้จริงๆ ที่มีนาคะ อย่างน้อยก็ใช้ทำเป็นหมอนได้เป็นอย่างดีเลยคะ ลืมบอกไปคะ ในเต้นท์เป็นแอร์ไอน้ำคะ แต่ก็ยังร้อนมากในเวลากลางวันคะ สิ่งที่ช่วยได้มากคือผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ชุบน้ำให้ชุ่มเช็ดหน้าคะ และต้องจิบน้ำบ่อยๆ กลางวันจิบน้ำเย็น กลางคืนจิบน้ำอุุ่นคะ

บริการน้ำดิ่ม

ผู้ชายจะใส่ชุดขาวทั้งหมดคะ และทั้งภูเขา มีแต่กระโจมที่พักคะ

ผศ.ดร.อาแว, ผศ.ดร.ชัยรัตน์ และบังเซอร์คะ (เจ้าของธุรกิจก่อสร้าง อ.จะนะ) ทุกคนเหมือนกันคะ ใช้แค่ผ้าขาว 2 ผืนคะ

สิ่งที่ทุกคนกังวลสุดๆ ก็คือห้องน้ำคะ ด้วยความที่ดิฉันเป็นคนง่ายๆ สบายๆ เลยไม่รู้สึกลำบากอะไรมากนักคะ ห้องน้ำอยู่ห่างไปจากเต้นท์ของเราประมาณ 2 หลังคะ เวลาจะเข้าห้องน้ำต้องเดินออกไปคะ ห้องน้ำมีประมาณ 25 ห้องต่อคนประมาณ 200 -300 คน จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ค่อยถูกนะคะ ต่อ 2 -3 เต้นท์มีห้องน้ำ 2 หลังซึ่งมีประมาณ 20-25 ห้อง อย่างที่ดิฉันว่านั้นแหละคะ ทุกคนต้องเข้าคิวเข้าห้องน้ำคะ ตอนฟังเค้าเล่าน่าจะลำบากมากเลยนะคะ แต่ความเป็นจริงไม่ได้ลำบากเลยอย่างที่คิด อย่างว่าคะ เมืองนี้แปลกมากอยู่อย่างหนึ่งคะ ถ้าคุณคิดว่าสบายก็สบาย ถ้าคุณคิดว่าลำบากก็จะลำบาก ขัดใจ และอึดอัดไปหมดจริงๆ คะ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ คะ เพราะฉะนั้นเราต้องขอดุอาร์เยอะๆ และขอให้พอใจในสิ่งที่มี และที่เป็นคะ

ถึงแม้ว่าเป็นอย่างนั้น บอกตามตรงดิฉันไม่รู้สึกลำบากกับการใช้ห้องน้ำเลยคะ เราต้องดูจังหวะคะ ที่สำคัญต้องเร็ว และคล่องคะ เช่น หลังละหมาดเสร็จหรือไม่ก็ตอนดึกๆ อะไรทำนองนั้นคะ ต้องใช้สติ ใจเย็นๆ อดทนคะ อย่าลืมว่าทุกคนเหมือนกันหมดไม่มีใครสบายกว่าใครเลยคะ

อาหารการกินอันนี้สบายคะ เพราะเค้าจัดให้เป็นมื้อๆ คะ ส่วนใหญ่เป็นข้าวมันกับไก่แบบอาหรับกินไม่ค่อยได้เลยคะ ดีหน่อยมีผลไม้ทุกมื้อ ถึงแม้จะเป็นส้ม กับแอปเปิ้ล กล้วย ก็ยังดีคะ ส่วนใหญ่ที่มีนาเค้าเลยบอกให้เราเอาของไปกินเองคะเช่น มาม่่า ข้าวยำ น้ำพริก ปลากระป๋อง อาหารแห้งหรืออะไรทำนองนั้นคะ ของดิฉันโชคดีคะ กะน๊ะ ก๊ะเยาะห์ น้องย๊ะเค้าเอาน้ำบูดูกับข้าวยำไปเยอะมากคะ กินกันสนุกสนานมาก มีข้าวเปล่าแล้วเราก็เอาเครื่องข้าวยำทำแจกได้กินกันทั่วเต้นท์คะ แถมบ่ายๆ ปอกส้มกินกับพริกเกลืออีกคะ ทุกคนรู้จักการแบ่งปันคะ หน้าที่ของดิฉันกับน้องย๊ะอีกอย่างคือ ทำหน้าที่ไปเอาน้ำร้อนมาให้ผู้สูงอายุกับผู้ที่ไม่มีสามีมาบริการคะ

บรรยากาศในเต้นท์คะ

มาถึงความเป็นอยู่นะคะ อย่าลืมว่า ทุกคนอยู่ในสภาพที่พูดง่่ายๆ ว่ากำลังถือศีลคะ ไม่มีอะไรเลย ผู้ชายนุ่งผ้าขาว 2 ผืน ที่ไม่เย็บติดกันเท่านั้นคะ ผู้หญิงดีหน่อยคะ ให้แต่งกายตามปกติ แต่สิ่งที่เราต้องทำคือ สำรวม ทั้งกาย วาจา และใจคะ ห้ามใช้เครื่องหอมทุกชนิด ห้ามไม่ให้ผมหรือขนร่วงจากร่างกายโดยเจตนา ดังนั้น ห้ามหวีผมเลยคะ ห้ามใช้สบู่อาบน้ำ ห้ามใช้ยาสีฟันแปรงฟัน ห้ามใช้สบู่ล้างหน้า ห้ามทาแป้ง ห้ามทาครีม ทาผิว ห้ามทุกอย่างคะ ห้ามฆ่าสัตว์ ห้ามเด็ดต้นไม้ ดอกไม้ ห้ามมีความสัมพันธ์ชู้สาว ต้องใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพือนมนุษย์ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ และอยู่กับองค์อัลเลาะห์ให้มากที่สุดคะ อ่านกุรอ่าน ซีกีร และละหมาดสุนัตให้เยอะๆ คะ แล้วเราจะอยู่ในเอียะรอมอย่างมีความสุขคะ

ดร. ชัยรัตน์ กับชุดผ้าขาว 2 ผืนคะ

สิ่งที่ได้มากๆ จากการอยู่ร่วมกันที่มีนาก็คือได้มีความสนิทสนมกันมากขึ้น ได้ความเป็นเพื่อนเห็นอกเห็นใจกัน กินด้วยกัน อยู่ด้วยกันแบ่งปันกัน นอนด้วยกัน ลำบากด้วยกันที่มีนา เรามีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างฮุจญาจมากขึ้นจริงๆ ที่สำคัญที่สุดเราได้ฝึกความอดทนความมีน้ำใจกับผู้อื่น ทุกคนเท่าเที่ยมกัน ไม่ว่าจะรวยหรือยากจน ไม่มีบรรดาศักดิ์ไม่มีเกียรติยศ มีความนิ่งและสงบมากขึ้นจริงๆ คะ

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่อัลเลาะห์(ซบ) ต้องการให้เราเรียนรู้ที่มีนาคือ คนเราทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกันหมด เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะรวย จะจน จะมีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงแค่ไหนก็ตาม จะจบ ดร. หรือจะไม่มีความรู้เลยก็เหมือนกันคะ ไม่มีความแตกต่างถ้าเป็นผู้ชายทุกคนมีแค่ผ้าขาว 2 ผืนเท่านั้นเอง ที่สำคัญเป็นการจำลองให้เห็นชีวิตหลังความตายเป็นที่พักในระหว่างการรอการตัดสินบาป-บุญจากพระผู้เป็นเจ้าองค์อัลเลาะห์(ซบ) ในวันกียามัตคะ

หมายเลขบันทึก: 574758เขียนเมื่อ 18 สิงหาคม 2014 11:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม 2015 13:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

รู้สึกสนุกไปด้วยค่ะ

ขอบคุณมากคะ อาจารย์ ที่ไปทำฮัจญ์ทั้งหมด 7 วันนี้แหละคะ ที่เหนื่อยมากๆ แต่ได้อะไรเยอะมากจริงๆ คะ

ขอบคุณที่เล่าความเป็นอยู่ในมีนาที่น่าสนใจค่ะ  ความนิ่ง สงบ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทำจิตใจให้ผ่องใส ล้วนนำมาซึ่งความสุขจากภายในดีจังนะคะ

ขอบคุณมากคะ คุณใบบุญ และคุณเจ้าปุกปุยน้อย การทำฮํจญ์ คือการถือศีล หรือเป็นการบวชของคนมุสลิมคะ ดิฉันพยายามถ่ายทอดให้คนต่างศาสนิกเข้าใจคะ แต่บางครั้งอาจจะยากไปนิดนึง สำหรับการเข้าใจคำศัพท์คะ แต่จะพยายามเขียนด้วยภาษาที่ง่ายคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท