7 กิตติยาณีย์/ศูนย์ข่าวหาดใหญ่
สู้เพื่อรวย
“ฟาร์มโกฟุท” จุดเริ่มต้นสร้างธุรกิจ
“กิตติศักดิ์ แซ่มัก” จากลูกจ้างห้องเย็นสู่เถ้าแก่เฟรนส์เมี่ยงปลาเผา
เตาเผาปลานิลกลายเป็นจุดสนใจที่เราต้องแวะเข้าไปที่ร้านแห่งนี้ เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน แปลกดี แต่ที่สำคัญคือมันดูสะอาดและที่สำคัญกลิ่นปลาหอมอ่อน ด้วยความร้อนจากกลิ่นถ่าน
คนที่กำลังวิ่งเข้าวิ่งออกในการดูปลาที่กำลังย่าง คือคุณกิตติศักดิ์ แซ่มัก และคุณปิยะทิพย์กำลังอยู่กับดูแลความเรียบร้อย แน่นอนว่าการมาออกบูสในงานเกษตรแห่งชาติสำหรับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ถือว่าเป็นอีกงานที่ยอดขายดีมากๆ
แนะนำตัวกับคุณกิตติศักดิ์ เราอยากได้รายละเอียดเกี่ยวกับเตาเผาปลานิล แต่ประวัติผู้ชายคนนี้น่าสนใจ
คุณกิตติศักดิ์ เล่าให้ฟังว่าตัวเขาเองเป็นคนหาดใหญ่โดยกำเนิดคุณพ่อทำโรงกลึงเล็กๆ ที่บ้านพรุทำมานานมากตั้งแต่จำความได้ มากกว่า30 ปีมาแล้ว เรียนจบมัยธมศึกษาที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย 2 หลังจากนั้นก็ไปเรียนต่อปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยาศาสตร์สาขาสัตว์บาล มหาวิทยาลัยรามคำแหงหลังจากเรียนจบก็ไปทงานที่ห้องเย็นประมาณ 6 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ในการหาวัตถุดิบป้อนโรงงาน
แต่วันนี้ตัดสินใจออกจากพนักงานบริษัทแล้ว เพราะอยากมีธุรกิจของตัวเอง ส่วนจะประสบความสำเร็จหรือไม่ คนเราไม่ลองไม่รู้
คุณกิตติศักดิ์ บอกว่า นอกจากที่ร้านจะมีจุดเด่นที่เตา แล้วที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือน้ำจิ้ม กล้าการันตีเลยว่าอร่อย หากคุณชอบซีฟู๊ดต้องลอง และหากเป็นเมี่ยงปลาก็มั่นใจว่าสู้กับร้านอื่นๆได้
คุณกิตติศักดิ์เล่าต่อว่า ตัวผมเองนั้นเลี้ยงปลาทำเป็นฟาร์มไม่ใหญ่มากชื่อโกฟุทฟาร์มใช้ชื่อพ่อ ที่บ้านปากรอ อำเภอสิงหนคร พี่สาวแต่งงานกับคนปากรอ แต่การเลี้ยงปลาก็มีปัญหาพอสมควรเพราะน้ำที่ปากรอมันเปลี่ยนบ่อย
เตาเผาคุณพ่อเป็นคนคิด คิดไว้เมื่อสัก 10 ปีได้แล้ว แต่ไม่ได้ทำ พอมาทำฟาร์มปลา ก็ลงมือทำ ก็ผลิตขึ้นจากแนวคิดของพ่อที่เป็นเจ้าของโรงกลึง พ่อเป็นคนออกแบบให้ลูก ผมจบมาทางด้านสัตว์บาลฯก็เรียนมาทางด้านนี้ก็เลยทำฟาร์มและต้องการระบายวัตถุดิบก็เลยเปิดร้านเมี่ยงปลาเผา คือเป็นธุรกิจที่บูรณาการแบบครบวงจรขึ้นจากคนในครอบครัว พี่สาวมีสูตรน้ำจิ้มเด็ด ส่วนปลาเราเลี้ยง ทุกคนก็ช่วยกัน
ร้านเมี่ยงปลาเผาเปิดมาประมาณ 6 เดือน ร้านตั้งอยู่ 5 แยกเกาะยอตรงข้ามหมู่บ้านธนดี หลังจากเปิดร้านมาก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะเตาเรานั้นมีมาตรฐาน สะอาด เรื่องอุณหภูมิเรามีเกวัดความร้อน ตัวปลาที่ย่างไม่โดนไฟโดยตรงและเรามีถ้วยรับน้ำจากตัวปลา น้ำไม่หล่นลงในถ่านทำให้ไม่เกิดควัน
คุณกิตติศักดิ์ บอกกับเราว่า ยังไม่เห็นเตาแบบนี้ คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย เราตั้งชื่อว่าตัวไร้ควัน แต่ศักยภาพเตาตัวนี้คือทำงานแบบกึ่งอบ มีฝาปล่องครอบเพื่อไม่ให้ความร้อนออกไปทำให้ไม่สูญเสียพลังงาน
การเปิดร้านเมี่ยงปลาเผา เราขายปลา แต่ที่ร้านก็มีแผนที่จะขายเป็นเฟรนไซส์ด้วย โดยขณะนี้มีคนสนใจเข้ามาติดต่อเยอะ แต่หากซื้อเฉพาะเตาราคาขายอยู่ที่ 45,000 -50,000 บาท
เฟรนไซต์เราจะสอนลูกค้าตั้งแต่การใช้เตา การย่างปลา ลูกค้าจะได้ปลา และน้ำจิ้มสูตรที่ร้านไป โดยเป้าหมายเราต้องการกระจายเฟรนไซส์ในจังหวัดสงขลาก่อน ส่วนต่างจังหวัดก็กำลังดูรูปแบบอยู่
ที่ร้านเมี่ยงปลาเผาพี่สาว คุณปิยะทิพย์ ไชยนุวงศ์ เจ้าของร้านเป็นพี่สาว เราทำงานคู่กันไป ผมซัพพอร์ตปลาอย่างเดียว ฟาร์มเลี้ยงเพื่อซัพพอร์ตร้านปลาเผา และลูกค้าที่กำลังจะเข้ามา ศักยภาพยังสามารถขยายได้อีก
คุณกิตติศักดิ์ บอกว่าเตาเผาปลานั้น ขณะนี้การออกแบบนิ่งแล้วสามารถใช้ได้เต็มประสิทธิภาพ ตอนนี้สร้างออกมาแล้ว 4 ตัว ตัวแรกเป็นต้นแบบ จะออกมาไม่ค่อยสวย ก็พัฒนามาจนเข้าที่
ตัวล่าสุดใช้ก็นำมาย่างในงานเกษตร มอ. วันนี้เป็นวันที่ 5 ก็ตอบโจทย์แก้ปัญหาช่องว่างไปเกือบทั้งหมด
ปัญหาในการทำงานคุณกิตติศักดิ์ บอกว่า เหมือนกับการเป็นเถ้าแก่ใหม่ ปัญหาไม่ได้มีอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ที่การเลี้ยงปลา เพราะน้ำที่ปากรอมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย เลี้ยงค่อนข้างยากแต่ปลาเราอร่อยเพราะเป็นปลาน้ำกร่อย พันธ์ปลานิลเราก็เลือกที่ดีที่สุด เพราะเราทำงานด้านการคัดเลือกวัตถุดิบมา 6 ปีในโรงงานที่จังหวัดสมุทรปราการ ก็ทำให้รู้ว่าพันธ์ปลานิลที่ไหนอร่อย เราเลือกมะลิฟาร์ม
สำหรับการตอบรับ 6 เดือนแรก เมี่ยงปลาเผาขายวันหนึ่ง วันละ 30-40 ตัว ปลาขนาด 5 00 กรัม ราคา 100 บาท 600 กรัม ราคา 120 บาท ปลาขนาด 1 กิโลกรัมก็ราคา 200 บาท และลูกค้าเคยขอปลาตัวขนาด 1.5 กิโลกรัมมา ก็ตกตัวละ 300 บาท เขาซื้อคุณภาพของเราอร่อย
สำหรับคุณกิตติศักดิ์ถือว่าเขากล้าที่จะตัดสินใจ และกล้าที่จะลุย อนาคตจะเป็นอย่างไร อยู่ที่การทำวันนี้ให้ดีที่สุด แต่แน่นอนเขาพร้อมแล้วที่จะเผญิชกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะหากไม่ลองก็ไม่รู้ เจ้าของธุรกิจไม่ไกลเกินไปสำหรับคนที่มุ่งมั่น อย่างตั้งใจ
ไม่มีความเห็น