หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

ธนาคารเวลา


สะดุดกับคำว่า "ธนาคารเวลา" ถ้าหากใช้เวลาตามอายุของบรรพบุรุษ เวลาที่มีฝากไว้อยู่ที่ราวๆ 80 ปี

ลองทบทวนธนาคารเวลาดูสักหน่อยว่าที่ผ่านมาถอนเวลาออกมาใช้ทำอะไรไปบ้างแล้ว อยู่มาจน 60 ปีแล้ว ใช้ประโยชน์ไปกับอะไรบ้าง

สิบปีแรก...หมดไปกับความไร้เดียงสา และการบ่มเพาะความมีเดียงสาจากผู้คนรอบตัว เริ่มบ่มเพาะ ทำความรู้จักภาษาพูด เขียน และดนตรี มีพื้นที่เรียนรู้ทั้งนอกรั้วและในรั้วโรงเรียน

สิบปีที่สอง....หมดไปกับการศึกษาเล่าเรียน ทำความรู้จักการเปลี่ยนแปลงของวัย ฝึกอยู่ร่วมในสังคมต่างเพศ ต่างวัย ต่างวุฒิในเมืองหลวง ทำความรู้จักกับคำว่า "กรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร เมืองหลวงของไทย" และเริ่มรู้จักอิทธิฤทธิ์ของการเมือง รู้จักและเข้าใจลึกซึ้งขึ้นกับคำว่า "สูญเสีย"

สิบปีที่สาม....หมดไปกับการใช้ชีวิต เที่ยวเล่น ทำความรู้จักความหลากหลายของโรงพยาบาล ความหลากหลายของคนที่มีอาชีพในรั้วโรงพยาบาล ทำงานหาเงินใช้หนี้ที่กู้มาเรียน ริอ่านสร้างครอบครัวใหม่ เริ่มบทบาทคุณแม่ลูกสอง รู้จักกับสินค้าเงินผ่อน และห่วงโซ่หมุนเวียนเงินตรา

สิบปีที่ สี่.....หมดไปกับการสร้างฐานะครอบครัวให้เป็นปึกแผ่น เริ่มก้าวเดินและเรียนรู้วิชาจัดการชีวิต ฝึกภาวะผู้นำ สัมผัสชีวิตการงานในบทบาทผู้นำทีม

สิบปีที่ห้า.....หมดไปกับการบำรุงรักษาสิ่งดีๆในองค์กร สิ่งดีๆในชีวิต สะสมความดี ปฏิรูปการใช้ชีวิต ชีวิตมีโชคนำให้ได้สัมผัสและรู้จักปัญญาสามฐาน

สิบปีที่หก.....หมดไปกับการหัวหกก้นขวิดเรียนรู้การเติมความมั่นคงให้ชีวิตที่มีปัญญาสามฐานคอยดูแล มีธรรมนำทาง ดูแลสุขภาพใจ-กาย สร้างสมดุลโลกภายใน-โลกภายนอก ดำรงอยู่กับความปิติสุขแห่งศานติในใจตน มีกาย-ใจให้แข็งแรงพร้อมสู้โลกต่อไป

ยังเหลือสิบปีอยู่อีก 2 รอบ.....จะหมดไปกับอะไรดี....ปล่อยวางทุกสิ่ง รอคอยการกลับบ้านด้วยใจมั่นดีมั๊ย

หากเวลา คือ หน่วยเงินในกำมือของเราที่เอาไปแลกสิ่งอื่น 20 ปีจะมีความเป็นไปได้มั๊ยว่ายังมีให้เอาไปแลกกับอะไร...ไม่อาจรู้ว่า...จะมีให้ใช้ได้ครบมั้ย ไม่ใช่เรื่องสำคัญ

หันหลังกลับไปดูการใช้เวลา"สิบปีครั้ง" ว่าคุ้มค่าหรือเปล่า ก็สามารถพูดได้เต็มปากว่า ได้ใช้มันไปแล้วอย่างคุ้มค่า ไม่เสียดายเลย ด้วยใช้มันไปกับความเรียบง่าย ให้ความสนุกตลอดมา

มีเจ็บปวดบ้างแต่นั่นคือการเรียนรู้ มีบำรุงบ้างแต่นั่นคือการเรียนรู้เพื่อควบคุมความกระหาย

มีว้าวุ่นบ้างแต่นั่นคือจุดเริ่มของการได้ความรู้ ได้เรียนรู้ ได้รู้จัก ได้เข้าใจ ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง และทำได้มากขึ้นกับคำว่า "ปล่อยวาง"

มียอมคนบ้าง ซึ่งมิใช่เป็นความพ่ายแพ้ แต่นั่นคือการรู้จักมองมุมบวก ใช้เหตุใช้ผลตัดสินใจเพื่อประโยชน์โดยรวมแห่งผู้คน รู้จักคำว่า "อภัย" รู้จักให้อภัยตนเอง

มีอำนาจบ้าง ซึ่งเป็นจุดเริ่มให้รู้จักความน่ากลัวของอัตตา แต่นั่นคือการเปิดโอกาสให้รู้จักถ่อมตน ละวางอำนาจ รู้ทันอัตตา

มีเหนื่อยบ้าง แต่นั่นคือจุดเริ่มให้สนใจการปรับชีวิตให้ดำเนินไปบนทางสายกลางของตน ปรับรูปแบบการพักผ่อนให้สอดคล้องตามจริตตน

มีเงินเพื่อชดใช้พระคุณพ่อแม่ รับหน้าที่ใช้หนี้แทนคุณ สะสมเงินเพื่อให้พอเพียงใช้สอย ฐานะมั่นคง ไม่ใช่เพื่อรวย เรียนรู้ความพอเพียงจากครูทุกผู้ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

มีธุระแบบยุ่งๆบ้าง เบาบางบ้าง แต่นั่นคือการทำความรู้จักการปรับเปลี่ยน และแปรไปสู่การตัดสินใจว่าแค่ไหนพอ แค่ไหนต้องพักผ่อน

ดำรงชีวิตไป หมั่นเตือนตนไปทุกวันว่าชีวิตนี้สั้นนัก จงรู้จักใส่ใจตัวเองบ้าง...ให้รางวัลตัวเองบ้าง....กิน...เที่ยว...เล่นไป....มีเรื่องกลุ้ม ไม่ยึดไว้ ไม่เก็บไว้ ปล่อยมันไปจากหัว จากใจให้เป็น.... สุขสบายให้ได้ทุกเมื่อ...เผื่อเวลาไว้สังสรรค์กับเพื่อน....กอดเวลาที่ได้อยู่ร่วมกับคนดีๆไว้....โอบกอดกันด้วยความรักให้ชื่นใจ...ทั้งกับพ่อ แม่ ลูก สามี พี่ น้อง และเพื่อนที่ดี....ทุกเวลาที่ได้อยู่ด้วยกัน....โกรธกันง่ายๆได้....ก็ดีกันง่ายๆได้....อย่ากอดความโกรธไว้กับตัวทุกโมงยาม....ปล่อยความโกรธทิ้งไป....แล้วหยิบความสงบใจมากอดกับตัวเข้าไว้ทุกเพลา

อย่างนี้ไงที่ทำให้สรุปว่าคุ้มสุดคุ้มกับ 60 ปีที่ผ่านไป

ฟุ้งความคิดจากบทสะกิดของพี่ชายคนหนึ่ง

๕ สิงหาคม ๒๕๕๗

หมายเลขบันทึก: 573972เขียนเมื่อ 6 สิงหาคม 2014 21:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 สิงหาคม 2014 22:31 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ธนาคารเวลาชีวิต น่าจะมีบริการอย่างเดียว คือ ถอน...เวลาสำคัญจริงๆ ครับ...ขอบคุณบันทึกที่สะกิดใจด้วยเช่นกันครับ

สวัสดีค่ะ คุณหมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ

ขอบคุณบันทึกเตือนใจค่ะ

แต่ละคนให้เวลากันมาระยะหนึ่ง

ไม่มีใครล่วงรู้ว่า จะมีเวลาเหลือให้เราใช้ได้อีกสักกี่วันค่ะ

" เวลาของแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ....และเวลาของแต่ละคนก็มีค่าไม่เท่ากัน ...ทุกวินาทีหากใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและคนอื่น ก็นับว่าคุ้มค่าค่ะ 

คุณหมอสบายดีนะคะ ด้วยความระลึกถึงเสมอค่ะ

<p> มีดอกไม้มาฝาก..มีรักมามอบให้..เป็น..รางวัล..ชีวิต..เจ้าค่ะ..</p>

น้อง ทิมดาบ ค่ะ 

อายุเป็นทรัพย์ที่ทุกคนมีไม่เท่ากัน เมื่อใช้ชีวิตในแต่ละวัน เรามักจะลืมว่าอายุคือเวลาเนอะค่ะ

น้องอร Bright Lily

คิดถึงน้องอรเสมอมาค่ะ ไม่ได้เจอกันเลยนะคะ

ยายธี

ขอบคุณดอกไม้สีสวยค่ะ

 

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท