ไม่ใช่แค่ทะเล
ที่ทำให้รู้สึกเหงา
ภูเขา - ก็ทำให้เหงา
ไม่แพ้กัน.
เสียงสายลมกระทบหน้าผา
ประหนึ่งมหากาพย์แห่งน้ำตา
ในยามเศร้าโศก.
ยิ่งสูง ยิ่งเหงา
ยิ่งสูง ยิ่งเข้าใจ
ความเป็นสามัญ.
หินผาบนเขาสูง
หลงรักม่านหมอกหนาว
ไม่แพ้แดดอุ่นอ่อน
จากรุ่งอรุณ.
หินผาบนเขาสูง
เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างเงียบ เงียบ
ผ่านการกัดกร่อน
จากกาลเวลา.
หินผาบนเขาสูง
ประหนึ่งระเบียงบ้าน
ขานรับอาคันตุกะ
อย่างเท่าเทียม.
หินผาบนเขาสูง
ประหนึ่งเวที
ให้หมอกหนาวและแดดอุ่น
โต้วาที.
ไม่มีพื้นที่ใด
ปราศจาก
น้ำใจให้พักพิง.
ไม่มีอะไรจีรัง
สำคัญ
ก่อนดับสลาย
มีตำนานใดชวนระลึกถึง.
ท้องฟ้า หมู่เมฆ
และม่านหมอก
เป็นสีน้ำนม.
บรรยายได้ไพเราะมาก ฟังดูเหงา ๆ แต่ก็มีแรงบันดาลใจอันหนักแน่นนะคะ ชื่นชมค่ะอาจารย์
พี่ชอบ คำ ๆ นี้...
ยิ่งสูง ยิ่งเหงา
ยิ่งสูง ยิ่งเข้าใจ
ความเป็นสามัญ.
และคำว่า "ยิ่งสูง ยิ่งหนาว" เสียจริง ๆ
จะมีใครบ้างสักกี่คน...ที่รู้ซึ้งกับคำข้างต้น
ขอบคุณสำหรับบันทึกที่่คุณพนัสเขียน...
ทำให้พี่รู้ซึ้งถึง คำว่ายิ่งสูง ยิ่งเหงา ๆ เพราะขาดเพื่อน...
ยิ่งสูง ยิ่งเข้าใจ ความเป็นสามัญและการคืนสู่สามัญ :)
สวัสดีครับ อ.กุหลาบ มัทนา
ความเหงา....
ผสมเศร้าๆ
เป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของผมครับ
บางครั้งครา ก็ถูกมองว่าเป็นความหนักแน่นไปในมิติหนึ่ง-ครับ
แปลกแต่จริง...
ความเหงา ทำให้มีแรงบันดาลใจอย่าบอกไม่ถูก
ครับ คุณยายธี
...เรือดิน
แล่นลงน้ำ
ละลายหายไปเป็นตะกอนในท้องน้ำ
ครับ พี่บุษยมาศ
ยังยืนยันว่ายิ่งสูงยิ่งเหงา
ไม่ใครแน่ใจว่า จะเหงา แล้วหนาว
หรือ หนาว แล้วเหงา
แต่ที่แน่ๆ ยิ่งสูงยิ่งทำให้เรามีมุมในการมองย้อนกลับลงมาครับ
มองกลับลงมายังระหว่างทาง.
ทะลุถึงจุดแรกเริ่ม-
เรามีที่มาที่ไป ครับ
ในยามที่เราไร้หมวก ไร้เก้าอี้....
วันนั้่นแหละครับจะเป็นวันที่พิสูจน์ว่า
ในโลกใบนี้ เราเหงามั๊ย
หรือยังรายรอบไปดก้วยความรัก และกัลยาณมิตร
ยิ่งสูง....ยิ่งหนาว และ ยิ่งสูง....ยิ่งหนาว....ด้วยจ้ะ
แวะมาช่วยเหงาครับ ;)...
ชมรมคนเหงาหรอกหรือนี่ ๕ ๕ ๕ ๕ ^_,^
เหงา แบบอบอุ่น..