เรียนรู้ ให้ไร้จุดติด
วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2557
เป็นสิ่งที่เคยใช้แต่ลืมไปนาน วิถีชีวิต ที่บอกว่า เฮือกสุดท้าย แต่ครูเมตตา ต่อเวลาให้โอกาส
เกิดอะไรขึ้นบ้าง เช้ามา จิตเน่า ๆ ยังซ้ำซาก หลบหน้า หลบตาครู
ขนาดจิตชั่วหนูเล่นงานครูขนาดนี้ท่านก็ยังเมตตาให้โอกาส มาให้สติ ทั้ง ๆที่งานครูต้องดึงจิตคนเป็นร้อย ๆไปพร้อมกัน แต่ครูก็ไม่เคยละเลยลูกศิษย์
ครูชี้ว่า “ใจมันกลัว มันยังห้ามไม่ได้หรอก ห้ามไม่ได้ก็ให้ฝืน เช่น เห็นครู มันกลัวแล้วหลบ ก็ฝืนมัน เข้าไปหาก่อน ทักทายก่อน”
ครูชี้พร้อมกับบอกทางแก้ ใจนี้สะดุดกึก
ฮ้า ฉันกำลังอยากให้มันไม่กลัว แล้วครูก็ย้ำ มันกลัวยังห้ามไม่ได้ รู้สึกเห็นด้วยมาก ๆ ใจเริ่มเปิด
ไปทำภารกิจซื้อของ ได้เรียนรู้ว่า ที่คิดว่า จะหาง่าย ๆ อย่างเครื่องต้มจืดทำให้เสียเวลาเป็นชั่วโมง ๆ
แต่ขอที่ซื้อวันนี้กว่าจะได้ก็เหมือน โดนทดสอบ อย่างน้อย 2 เสต็บ เพื่อนร่วมทุกข์ครั้งนี้ 4 สาว กำลังน่ารัก เรามีความทรงจำร่วมกัน โดยมีแม่ครูเป็นแกนกลางศูนย์รวมจิตใจ วัดจึงเป็นเหมือนที่พึ่ง
ก่อนกลับ ไปส่งเด็ก ๆ ครูให้ได้มีโอกาส รับใช้สรุปข้อมูล
งานที่ครูมอบหมาย ไม่ใช่ครูทำไม่ได้หรือเกินกำลัง ท่านว่า แต่ท่านเปิดทางเปิดโอกาสให้มีโอกาสได้ทำ
ส่งเด็ก ๆ เสร็จตักสินใจ แวะปั้มทำให้เรียบร้อย พอเคลี่ยร์เสร็จได้เห็นว่า
“ใจมันลุยดะ ทำโดยใช้มุมมองของตนเอง” เป็นการเสร็จแบบ ใจไร้คำถาม
ได้เรียนรู้ว่า ถ้าได้งาน อย่ามัวแวะข้างทางเสียเวลา
ใจรู้สึกว่าระหว่างทางที่ได้คุยกับหลวงพี่ เหมือนข้างในสำรวจกาย ใจตนเองชัดขึ้น
ทวนย้อนในความเงียบภายนอกสู่ความเย็นภายใน
ได้เห็นจิต ที่พยาบาทแม่ พยาบาทครูพยาบาลน้า
ตอนที่เห็นจากเดิมที่ข้างใน เบาๆสบาย ก็เปลี่ยน
เห็นกายใจชัดขึ้น ระลึกบางอย่างกับตนเอง
มาถึงบ้าน แม่ขะมักเขม้นทำ โรตีกรอบ และแม่ก็สั่งให้หนูทำขนมเค้กเพิ่ม เพราะที่มีไม่พอ กำลังขายดี
กว่าอะไรจะเรียบร้อย แล้วเข้ามาสู่ข้อวัตรตนเองก็ดึกแล้ว
วันนี้มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับตนเอง กับคำว่า “จบเป็นเรื่อง ๆ”
ทำได้ ไปต่อ ทำไม่ได้ ก็ทัมใจ แล้วก็มั่นคงในหน้าที่
เสียงภายนอก
ย่อมสะกิดทวนให้เราได้หันกลับไปสู่เสียงจากภายในของเราเอง..
...ชื่นชม ครับ