ผมเชื่อตามแนวทางพุทธศาสนาว่า ไม่มีการเมือง การปกครอง หรือรูปแบบสังคมใด ที่จะทำให้เกิด "...สังคมที่ดี สังคมอุดมคติ ที่มีแต่คนดีในโลกนี้ (แบบในยุคพระศรีอาริย์) ” อย่างแน่นอน
.
ความจริงสังคมมนุษย์ทั่วไปในโลกตามแนวพุทธศาสนา ล้วนดำเนินชีวิตด้วยความโลภ โกรธ หลง หรือมีอวิชชา ราคะ ตัณหาเป็นแรงขับ แรงผลักดัน ไม่เว้นแม้บุคคลผู้นั้นจะอยู่ในชนชั้นใด
.
แม้แต่สังคมภิกษุ / นักบวชในศาสนาพุทธ ถ้าทำตามพระธรรมวินัยของพระพุทธองค์จริงๆ ก็ถือว่าเป็นสังคมที่ดีที่สุดในโลกอย่างที่ทุกคนใฝ่หา แต่ความเป็นจริงก็ยังมีภิกษุที่ทำผิดวินัย มีคนจิตใจหยาบช้า คนต่ำทรามเข้ามาอยู่ในแวดวงภิกษุ ต่อให้มีกฎเกณฑ์เข้มงวดแค่ไหน คนที่อ้างว่าตนเป็นภิกษุ ก็ทำผิดได้ ถ้าผู้เป็นครูอาจารย์ไม่ดีจริง หรือเอาใจใส่สั่งสอนอบรมจริง
.
ในทัศนะของผม จึงไม่มีระบอบการปกครองแบบไหนดีที่สุดในโลก โดยไม่มีข้อบกพร่อง และผมก็เชื่อว่า ระบอบประชาธิปไตยก็ไม่ดีวิเศษกว่าระบอบการปกครองอื่นแต่อย่างใด, ถ้าคนและผู้นำในระบอบนั้นหลงตน และมัวเมาในอำนาจ ผลประโยชน์
.
แต่...ระบอบประชาธิปไตยดีตรงที่ว่า เมื่อคนเก่าหมดวาระลงตามที่กำหนด ประชาชนก็จะเลือก “ตัวแทน” ใหม่ โดยไม่ต้องรบราฆ่าฟันล้างโคตรเหมือนระบอบอื่นๆ ตามที่ผมรับรู้มา ระบอบประชาธิปไตยเป็นระบอบที่มุ่งเน้นให้ประชาชนมีความเสมอภาค ความยุติธรรม และเสรีภาพเท่านั้น
.
ประชาธิปไตยเป็นระบอบแค่เลือก "ตัวแทน" ไปทำงาน ไม่ได้มุ่งเน้นหา "คนดี" มาเป็นผู้นำ ผู้ปกครอง แต่...ถ้าเผอิญได้ "คนดี และเก่ง" มาเป็นตัวแทนยิ่งดีใหญ่
.
ผมขอเสนอ "แง่คิด" ว่า เมื่อสังคมใดเลือกระบอบการอยู่ร่วมกันในสังคมแบบใดจริงๆ ก็ควรยึดมั่นถือมั่นตามหลักการของระบอบนั้นๆ เช่น สังคมไทยเลือกการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เราก็ควรยึดหลักการของประชาธิปไตยจริงๆ ที่มุ่งเน้นให้ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจ แล้วเลือก "ตัวแทน" ไปทำงานตามที่ประชาชนต้องการ
.
ไม่ใช่แบบทุกวันนี้ ที่ไปเอาหลักการ วิธีการของระบอบการปกครองอื่นๆมาปนเปกับระบอบประชาธิปไตย เช่น ต้องการให้นักการเมืองเป็น "คนดี" อ้างแต่ "ความเป็นคนดี" เพื่อทำลายคนที่อาสามาเป็น "ตัวแทนประชาชน" เป็นคนไม่ดี เพื่อคนที่อ้างตัวเอง "เป็นคนดี" เข้ามามีอำนาจแทน มันจะทำให้คนในสังคมนี้ สับสนในหลักการ แนวคิดไปหมดครับ
.
แต่....ถ้ามีคนเชื่อว่าการปกครองที่ดีที่สุดของสังคมไทย ควรให้คนคนหนึ่ง หรือคนกลุ่มหนึ่งที่สังคมเชื่อว่า “เป็นคนดี มีความรู้ มีคุณลักษณะพิเศษเหนือกว่าประชาชนธรรมดา” มาเป็นผู้นำ ผู้ปกครอง คน ๆ นั้นก็ควรรณรงค์ชักชวนให้คนส่วนมากในสังคมไทยเห็นด้วย และเมื่อมีคนเห็นด้วยมากเข้า จนสังคมส่วนใหญ่เลือกและตัดสินใจใช้การปกครองแบบที่นำเสนอ ก็ควรประกาศให้โลกรับรู้ว่า เราเลือกระบอบการปกครองใหม่ ทุกคนจะได้ยอมรับขอบเขต ข้อจำกัดของตัวเอง จะได้ไม่ต้องไปหวังลมๆแล้งๆอีกต่อไป
.
ส่วนผม ผมเชื่อว่าผมปรับตัวเข้ากับระบอบการปกครองทุกอย่างได้ เพราะผมเป็นพุทธศาสนิกชน "ไม่ยึดมั่นถือมั่น" และตัวผมเชื่อในการเวียนว่ายตายเกิดและกฏแห่งกรรมอย่างมั่นคง ทำให้ผมเชื่อว่าการที่เราเกิดในแต่ละชาติ เพราะเราต้องไปเรียนรู้ และชดใช้ความผิดพลาดที่ทำมาในอดีตชาติต่างๆ การเกิดในสังคมแบบใด แสดงว่าต้องเกิดมาเพื่อเรียนรู้โอกาส และอุปสรรคของสังคมแบบนั้น”
.
เช่น ผมเกิดมาในสังคมไทย แสดงว่าผมต้องมาเรียนรู้การยึดติด ความหลงมัวเมาในความสุข สบาย ความเป็นคนดี” ให้ผ่านพ้นให้ได้, ถ้าผมไปเกิดที่เกาหลีเหนือ แสดงว่าผมต้องไปเรียนรู้การกดขี่ข่มเหง ระบอบชนชั้น, และถ้าผมไปเกิดในประเทศยุโรปในยุคกลาง แสดงว่าผมต้องไปเรียนรู้ไม่ให้เผยแพร่เรื่องความลึกลับ การเวียนว่ายตายเกิด หรือเรื่องที่ยุคนั้นห้ามเอาไว้ ผมต้องเน้นเรื่องความรัก ความเมตตาอย่างเดียว ถ้าผมดื้อรั้นและไม่ทำตาม ผมคงถูกแขวนคอ เผาไฟ หรือไม่ก็คงถูกบังคับให้กินยาพิษแน่ๆ,
.
เรามาช่วยกันทำให้สังคมไม่สับสนเถอะครับ ท่านที่คิดว่า "ตัวเองดีกว่า" หรือ “คิดดีกว่า” ชาวบ้าน อย่าอ้างประชาธิปไตย แต่ทำลายหลักการแนวคิดของประชาธิปไตย ถ้าท่านยังคิดว่าสังคมไทยควรปกครองในระบอบประชาธิปไตยอยู่
.
เพราะไปๆมาๆ ที่อ้างว่าจะ "โค่นล้มระบอบทักษิณ"นั้น แท้จริงจะกลายเป็น “ไม่ต้องการให้ประชาชนมีอำนาจปกครองตัวเอง” แต่.....อยากให้ชนชั้นตัวเองเป็นผู้ปกครองฝ่ายเดียวเสียมากกว่าครับ
ไม่มีความเห็น