มนุษย์ที่ข้ามชาติหมายถึง บุคคลที่มีการกระทำในลักษณะที่ข้ามชาติ คือ มีถิ่นที่อยู่หรือเคยอยู่อาศัยในประเทศประเทศหนึ่งอยู่แล้ว แต่ได้มีการข้ามหรือเคลื่อนย้ายมายังอีกประเทศหนึ่ง ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม บุคคลเหล่านี้ได้แก่ นักท่องเที่ยว แรงงานข้ามชาติ นักลงทุนข้ามชาติ นักศึกษา และผู้หนีภัยความตาย เป็นต้น
มนุษย์ที่ข้ามชาติ ในกรณีศึกษานี้ ตัวผู้เขียนจะขอกล่าวถึงประเด็นปัญหาของ "เด็กที่ข้ามชาติ" ซึ่งเด็กข้ามชาติเหล่านี้มีหลากหลายประเภท เพราะเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกัน และเด็กเหล่านี้ก็พบกับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนในหลายๆเรื่อง
ประเภทของเด็กข้ามชาติในประเทศไทย
1. เด็กข้ามชาติที่ติดตามพ่อแม่ซึ่งเป็นคนข้ามชาติที่หลบหนีเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย หรือตัวเด็กเองหลบหนีเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย หรือถูกลักพาตัวเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย
2. เด็กข้ามชาติที่เกิดในประเทศไทยจากพ่อแม่ที่เป็นคนข้ามชาติ ซึ่งเด็กเหล่านี้สมควรจะได้รับการขึ้นทะเบียนจากรัฐ แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น โดยอาจเกิดจากความไม่รู้ของพ่อแม่ หรือการปฏิเสธการขึ้นทะเบียนจากหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำให้ไม่อาจเข้าถึงสิทธิได้ และถูกถือเป็นเด็กข้ามชาติ
3. เด็กที่ข้ามชาติมาอย่างถูกกฎหมาย[1]
ปัญหาของมนุษย์ที่ข้ามชาติที่สำคัญนั้นสามารถพิจารณาได้ดังนี้
ประการแรก : ปัญหาความไร้สัญชาติ หรือ Nationalityless กล่าวคือเป็นสภาพที่บุคคลไม่มีสัญชาติของประเทศใดในโลกเลยแม้แต่ประเทศเดียว ซึ่งหากจะว่ากันตามหลักกฎหมายเเล้วคนไร้สัญชาติมีสถานะเป็นคนต่างด้าวในทุกประเทศของโลก
ประการที่ 2 : ปัญหาความไร้รัฐ หรือ Stateless กล่าวคือเป็นสภาพที่ปัญหาความไร้สัญชาติมีความรุนแรงมากขึ้น โดยบุคคลที่ประสบปัญหาไม่ได้รับการยอมรับให้มี "สิทธิในการอาศัย" อยู่ในรัฐใดก็ตามในโลก ซึ่งในทางผลทางกฎหมายบุคคลเหล่านี้จึงมีสถานะเป็น "คนต่างด้าวผิดกฎหมาย" ไม่สามารถอยู่ที่ใดได้เลยในโลกเพราะถือว่าผิดกฎหมายทุกที่จึงตกเป็น "บุคคลไร้รัฐ"[2]
กรณีศึกษา "กรณีของน้องดนัย ยื้อบ๊อ"
น้องดนัย ยื่อบ๊อ เกิดวันที่ 16 พฤษภาคม 2542 ที่โรงพยาบาลฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มารดาชื่อนางหมี่ยื่ม ยื่อบ๊อ เป็นชาวอาข่าดั้งเดิม ได้รับสัญชาติไทยในวันที่ 13 พฤษภาคม 2552 มีบิดาชื่อนายอาบู เป็นชาวอาข่าที่อพยพมาจากประเทศเมียนมาร์ เป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองผิดกฎหมาย เนื่องจากไม่มีหนังสือเดินทาง ไม่มีการตรวจลงตราแต่อย่างใด
หากพิจารณาการได้มาซึ่งสัญชาติไทยของบุคคลเเล้วมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ.2508
มาตรา7บุคคลดังต่อไปนี้ย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิด
(1) ผู้เกิดโดยบิดาหรือมารดาเป็นผู้มีสัญชาติไทย ไม่ว่าจะเกิดในหรือนอกราชอาณาจักรไทย
(2) ผู้เกิดในราชอาณาจักรไทย ยกเว้นบุคคลตามมาตรา ๗ ทวิ วรรคหนึ่ง
คำว่าบิดาตาม (1) ให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นบิดาของผู้เกิดตามวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง แม้ผู้นั้นจะมิได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาของผู้เกิด และมิได้จดทะเบียนรับรองผู้เกิดเป็นบุตรก็ตาม
มาตรา7 ทวิผู้เกิดในราชอาณาจักรไทย โดยบิดาและมารดาเป็นคนต่างด้าว ย่อมไม่ได้รับสัญชาติไทย ถ้าในขณะที่เกิดบิดาตามกฎหมายหรือบิดาซึ่งมิได้มีการสมรสกับมารดาหรือมารดาของผู้นั้นเป็น
(1) ผู้ที่ได้รับการผ่อนผันให้พักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย
(2) ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าอยู่ในราชอาณาจักรไทยเพียงชั่วคราว หรือ
(3) ผู้ที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง[3]
ดังนั้นจากกรณีนี้น้องดนัยย่อมมีสิทธิที่จะได้รับสัญชาติไทย เนื่องจากน้องดนัยเกิดที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ตามพระราชบัญญัติสัญชาติมาตรา 7(2) ไม่ได้เป็นกรณีตามมาตรา 7(1) เนื่องจากขณะที่น้องดนัยเกิด นางหมี่ยื่อยังมิได้รับสัญชาติไทยแต่อย่างใดแม้ภายหลังจะได้รับสัญชาติไทยก็ตาม
แต่จากข้อเท็จจริงพบว่ารัฐได้ปฏิเสธการขึ้นทะเบียนสัญชาติให้แกน้องดนัย ส่งผลให้น้องดนัยกลายเป็นบุคคลที่ไม่มีสัญชาติ กลายเป็นเด็กข้ามชาติ ซึ่งเมื่อพิจารณาจาก ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ15(1) มีหลักว่า ทุกคนมีสิทธิในสัญชาติหนึ่งและอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กข้อที่ 7 เด็กมีสิทธิที่จะได้รับการจดทะเบียนทันทีหลังการเกิด และมีสิทธิที่จะได้รับสัญชาติ จึงเห็นได้ว่า รัฐได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนของน้องดนัยอย่างสิ้นเชิง ทั้งตามกฎหมายภายใน คือ พ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.2505 และ กฎหมายระหว่างประเทศ คือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ15(1) ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงสิทธิ และประโยชน์ อันน้องดนัยพึงได้รับ ซึ่งเป็นปัญหาที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
[1] http://www.l3nr.org/posts/535656
[2] http://www.archanwell.org/autopage/show_page.php?t=1&s_id=278&d_id=277
[3] http://www.thailandlawyercenter.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538975889&Ntype=19
ไม่มีความเห็น