ข้อคิดจากภาพยนตร์เรื่อง "Amazing Grace"


                                          อ้างอิงรูปภาพจาก : http://www.christianfilmdatabase.com

      “Amazing Grace”ภาพยนตร์แห่งประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อฉลองการครบรอบ 200 ปี แห่งการยกเลิกการค้าทาสในประเทศอังกฤษเป็นเรื่องของ William willberforce บุคคลที่ต้องการจะยกเลิกพระราชบัญญัติการค้าทาส ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่สภาผู้แทนราษฎรอย่างมาเพราะว่าในเวลานั้นการค้าทาสเป็นตลาดการค้าที่มีมูลค่าสูงจนแทบประเมินค่าไม่ได้ มีทาสชาวแอฟริกาผิวดำถูกนำมายในตลาดค้าทาสจำนวนมาก ซึ่งเกิดผลประโยชน์อย่างมหาศาลในขณะ แต่หากมองในอีกมุมมองผลประโยชน์เหล่านั้นเกิดขึ้นจากการที่ทาสทั้งหมดต้องทรมานและได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก ซึ่งเขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกับเราเหตุฉไหนจึงปฏิบัติกับพวเข้าเยี่ยงสัตว์ เพียงแค่เพราะว่าพวกเขามีผิวพรรณ เชื้อชาติ หน้าตา ที่แตกต่างเท่านั้น

     วิลเลี่ยมเริ่มต้นการต่อสู้เพื่อทาสตั้งแต่ได้พบกับ จอห์น นิวตัน ซึ่งเคยมีอาชีพค้าทาสมาก่อน เข้าทั้งสองคนร่วมกันต่อสู้ จนในที่สุดแล้วพระราชบัญญัติการเลิกทาส ก็ถูกประกาศใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 26 กรกฎาคม 1833 แต่กว่าจะสำเร็จมาได้นี่นั้นวิลเลี่ยมได้เคยยื่นฎีกา ในวันที่ 11 พฤษภาคม 1815 แต่ไม่สำเร็จ และเขาก็อุตสาหะพยายามต่อสู้เพื่อหาความเป็นธรรมให้กับทาสมาตลอด 18 ปีจนกระทั่งมีการประกาศพระราชบัญญัติ

     นอกจากนี้ในภาพยนต์ยังปรากฎเรื่องสัญชาติเรือ ที่วิลเลี่ยมไปขอเสนอร่างกฎหมายการใช้ธงกลางสำหรับเรือขนส่งสินค้า (เรือทุกลำที่อยู่ในทะเลนั้นจะต้องมีสัญชาติเสมอ และต้องมีสัญชาติเพียงรัฐเดียวเท่านั้นเพราะสัญชาติจะเป็นเครื่องกำหนดว่าเรือนั้นเป็นของประเทศใด ดังนั้นจึงมีวิธีการสังเกตุสัญชาติเรืองจากธงที่อยู่บนเรือลำนั้น ) ซึ่งเป็นแผนที่วิลเลี่ยมต้องการจำกัดการค้าทาส กล่าวคือ ในสมัยนั้นเรือที่ค้าทาสส่วนใหญ่จะชักธงอเมริกาซึ่งเป็นธงกลางในขณะนั้น เพื่อป้องกันมิให้ตำรวจตรวจสอบ ซึ่งหากกฎหมายนี้ผ่าน เรือที่ชักธงของอเมริกาก็จะถูกตรวจสอบ จึงไม่สามารถมีเรือค้าทาสลำใดหลุดออกไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นหากถูกตรวจสอบแล้วบรรดาเจ้าของเรือย่อมไม่กล้านำเรือมาแล่นอย่างแน่นอน นั่นส่งผลให้การค้าทาสลดลงไปอย่างมาก

     ข้อคิดจากภาพยนต์เรื่องนี้ การที่มีมนุษย์กลุ่มหนึ่งที่เขาเพียงแค่เกิดมาไม่ได้มีกินมีใช้ หรือไม่ได้มีการรับรองจากกฎหมาย หรือแม้แต่เขาเกิดมาจากบุคคลที่ต่ำต้อยเพียงใด ทั้งหมดนั้นไม่ใช่เหตุผลที่จะทำให้ใครก็ได้ในโลกสามารถที่จะย่ำยี หรือดูถูกความเป็นมนุษย์ของเขาได้ เราอาจจะสบายเพิ่มยิ่งขึ้น ได้ทรัพยสมบัติเพิ่มมากขึ้นจากการข่มเหง หรือดูถูกความเป็นมนุษย์ของคนอื่น แต่สิ่งดีดีที่เราได้มานั้นมันแลกกับเลือดเนื้อ และความเป็นมนุษย์ของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เรามองข้ามความเป็นคนของเขาไปโดยสิ้นเชิง

     นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้ในเรื่องความพยายามและความเป็นผู้ให้ของ วิลเลี่ยมและผู้ร่วมอุดมการณ์ของเขาทั้งหลาย การที่พวกเข้ายินยอมสละความสุขของตนเอง ยอมถูกว่ากล่าว ยอมถูกตำหนิจากชนชั้นสูง เขาทำเพื่อมนุษย์อีกกลุ่มที่ยังไม่ได้รับความยุติธรรมที่ดีพอจากสังคม ซึ่งวิลเลี่ยมและผู้ร่วมอุดมการณ์ของเขานั้นไม่ได้รับสิ่งใดตอบแทน นอกจากความภาคภูมิใจในการได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ของเขา  


ณัฐณิชา วัฒนสุข

หมายเลขบันทึก: 568280เขียนเมื่อ 17 พฤษภาคม 2014 13:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 พฤษภาคม 2014 16:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท