มนุษย์ที่ข้ามชาติหมายถึง บุคคลที่มีการกระทำในลักษณะที่ข้ามชาติ คือมีถิ่นที่อยู่หรือเคยอยู่อาศัยในประเทศประเทศหนึ่งอยู่แล้ว แต่ได้มีการข้ามหรือเคลื่อนย้ายมายังอีกประเทศหนึ่งไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม บุคคลเหล่านี้ได้แก่ นักท่องเที่ยว แรงงานข้ามชาติ นักลงทุนข้ามชาติ นักศึกษา และผู้หนีภัยความตาย เป็นต้น
แม้ประเทศไทยจะได้เข้าร่วมอนุสัญญาปฎิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๐ แต่ก็ยังเกิดกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนของบุคคลในรัฐ ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงกรณีเรื่องของเด็กข้ามชาติ
จากคำถามที่ว่าด้วยเด็กข้ามชาติกับความเป็นอื่นในสังคมไทยนั้น คงต้องสนใจแนวคิดความเป็นชายขอบที่ว่าด้วยความเป็นอื่นที่เชื่อมโยงกับการเข้าถึงบริการสาธารณะ และหากให้นิยามของคนชายขอบว่าคือ “คนที่มีชีวิตอยู่ห่างไกลจากศูนย์กลางทั้งในทางภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการศึกษา” [1]
โดยปัญหาการถูกละเมิดด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดตามมาจากการเป็นเด็กข้ามชาติที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายที่พบเห็นได้แก่ 1. ปัญหาการได้การรับรองทางทะเบียนจากรัฐและการได้รับสัญชาติ 2. ปัญหาการได้รับบริการทางสาธารณสุข 3. ปัญหาการได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
จากกรณีศึกษาน้องดนัย ยื่อบ๊อ เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2542 ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบุตรของนายอาบู กับนางหมี่ยื่ม ยื่อบ๊อ ซึ่งทั้งสองเป็นชาวอาข่าที่อพยพมาจากฝั่งเมียนมาร์ โดยบิดานายอาบูได้รับบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยขึ้นต้นด้วยเลข 6 ซึ่งเป็นบัตรบุคคลบนพื้นที่สูง มารดาหมี่ยื่มมีบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก ขึ้นต้นด้วยเลข 5 และนางหมี่ยื่มได้รับสัญชาติไทยเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2552 ภายหลังน้องดนัยเกิด ทำให้สูติบัตรของน้องดนัยระบุว่าไม่ได้สัญชาติไทย
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับปัญหาเด็กที่ข้ามชาติโดยผิดกฎหมายประกอบไปด้วยกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายภายในประเทศได้แก่
1.อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ข้อที่ 7 เด็กมีสิทธิที่จะได้รับการจดทะเบียนทันทีหลังการเกิด และมีสิทธิที่จะได้รับสัญชาติ[2] พระราชบัญญัติสัญชาติพ.ศ.2508[3] มาตรา ๗ บุคคลดังต่อไปนี้ย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิด (๑) ผู้เกิดโดยบิดาหรือมารดาเป็นผู้มีสัญชาติไทย ไม่ว่าจะเกิดในหรือนอกราชอาณาจักรไทย (๒) ผู้เกิดในราชอาณาจักรไทย ยกเว้นบุคคลตามมาตรา ๗ ทวิ วรรคหนึ่ง คำว่าบิดาตาม (๑) ให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นบิดาของผู้เกิดตามวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง แม้ผู้นั้นจะมิได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาของผู้เกิด และมิได้จดทะเบียนรับรองผู้เกิดเป็นบุตรก็ตาม มาตรา ๗ ทวิ ผู้เกิดในราชอาณาจักรไทย โดยบิดาและมารดาเป็นคนต่างด้าว ย่อมไม่ได้รับสัญชาติไทย ถ้าในขณะที่เกิดบิดาตามกฎหมายหรือบิดาซึ่งมิได้มีการสมรสกับมารดาหรือมารดาของผู้นั้นเป็น (๑) ผู้ที่ได้รับการผ่อนผันให้พักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย (๒) ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าอยู่ในราชอาณาจักรไทยเพียงชั่วคราว หรือ (๓) ผู้ที่เข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง จากข้อเท็จจริง น้องดนัยย่อมมีสิทธิที่จะได้รับสัญชาติไทย เนื่องจากน้องดนัยเกิดที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ตามพระราชบัญญัติสัญชาติมาตรา 7(2) ไม่ได้เป็นกรณีตามมาตรา 7(1) เนื่องจากขณะที่น้องดนัยเกิด นางหมี่ยื่อยังมิได้รับสัญชาติไทยแต่อย่างใดแม้ภายหลังจะได้รับสัญชาติไทยก็ตาม แต่จากข้อเท็จจริงพบว่ารัฐได้ปฏิเสธการขึ้นทะเบียนสัญชาติให้แกน้องดนัย ส่งผลให้น้องดนัยกลายเป็นบุคคลที่ไม่มีสัญชาติ กลายเป็นเด็กข้ามชาติ ซึ่งเมื่อพิจารณาจากปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ข้อ 15(1) มีหลักว่า ทุกคนมีสิทธิในสัญชาติหนึ่งและอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ข้อที่ 7 เด็กมีสิทธิที่จะได้รับการจดทะเบียนทันทีหลังการเกิด และมีสิทธิที่จะได้รับสัญชาติ การปฏิเสธสิทธิที่เด็กข้ามชาติเหล่านี้มีอยู่ รัฐจึงจำเป็นต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาที่เป็นสาเหตุเหล่านี้ด้วย เพื่อให้แนวทางการปฏิบัติตามข้อเท็จจริงได้เป็นไปตามข้อกฎหมายภายในประเทศและระหว่างประเทศที่รัฐไทยเป็นภาคี ซึ่งนอกจากนี้แล้วยังเป็นการส่งเสริมความก้าวหน้าทางด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยอีกด้วย [1] กระทรวงศึกษาธิการ. (2555). ปฏิญญาการศึกษาเพื่อปวงชน (EFA) เกิดที่จอมเทียนคึกอีกครั้งที่จอมเทียน. ค้นเมื่อ 27 เมษายน 2557แหล่งที่มา : http://www2.ipsr.mahidol.ac.th/ConferenceVIII/Download/Article_Files/14-Education-MigrantChildren-Malee.pdf [2] Universal Declaration of Human Rights. (ออนไลน์). แหล่งที่มา :http://www.mfa.go.th/humanrights/images/stories/bo...27 เมษายน 2557. [3] นิลวรรณ์ / ปาจรีย์ (5 มิ.ย. 46) พระราชบัญญัติว่าด้วยสัญชาติ พ.ศ. 2508 ค้นเมื่อ 27 เมษายน 2557 แหล่งที่มา : http://www.thaigeneralkonsulat.de/th/consular/nationality1.pdf
ไม่มีความเห็น