ทำไมจึงต้องปลอดสารพิษ?


ในยุคนี้สมัยนี้ ผู้คนต่างให้ความสนใจ ตื่นตนในเรื่องการกินการอยู่โดยเฉพาะเรื่องของสุขภาพและการดำรงชีวิตมีอยู่ได้อย่างยาวนาน จึงได้พยายามสรรหาแหล่งอาหารที่ปลอดภัยไร้สารพิษนำมาสู่ร่างกายให้ได้มากที่สุดเท่าที่กำลังความสามารถจะทำได้ ตามกำลังทุน ตามกำลังซื้อที่มีอยู่เกี่ยวกับอาหารที่ปลอดภัยไร้สารพิษนี้ใช่ว่าจะเป็นที่นิยมชมชอบเฉพาะในประเทศไทย ต่างประเทศทั่วโลกก็ให้ความสนใจและมีรสนิยมเช่นเดียวกัน หรืออาจจะนำเทรนด์นี้มาก่อนบ้านเราเสียด้วยซ้ำ ผู้ที่มีความสามารถในการหาพืชพรรณธัญญาหารที่ปลอดภัยไร้สารพิษมาบริโภคได้ ย่อมจะต้องมีสุขภาพที่แข็งแรงอย่างแน่นอน สังเกตได้จากเกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ไม้ผลตามหัวไร่ปลายดอย ส่วนใหญ่ก็จะมีแปลงที่ปลูกไว้ทานเองต่างห่าง จากแปลงที่ปลูกนำไปขายในเมือง เกษตรกรหรือประชาชนคนต่างจังหวัดส่วนใหญ่จึงค่อนข้างที่จะมีอายุยืนนาน เนื่องได้จากได้รับแร่ธาตุสารอาหารและอากาศที่บริสุทธิ์

เนื่องด้วยความต้องการเกี่ยวกับอาหารที่ปลอดภัยไร้สารพิษนี้เอง จึงทำให้มีกลุ่มเกษตรกรหัวก้าวหน้ากลุ่มหนึ่งพยายามที่จะผลิตการเกษตรแบบปลอดสารพิษ แบบไม่ใช้ยาฆ่าแมลง เนื่องด้วยการใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมีกำจัดศัตรูพืชนั้น จะทำให้ผลิตอาหารในด้านต่างๆจากแปลงนาอีกไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลาในแปลงนา หรือกแปลงพืชไร่ไม้ผลของพี่น้องเกษตรกรจะล้มหายตายจากไปทีละน้อย ทำให้เหลือแต่เพียงต้นข้าวหรือพืชหลักเพียงอย่างเดียว แทนที่จะได้จับปลา จับหอย จับปู จับกุ้งเป็นอาหาร หรือนำไปขายเป็นผลพลอยได้จากแปลงนาก็ทำไม่ได้ อีกทั้งในปัจจุบันเกษตรกรเริ่มรู้ว่าสารเคมีที่เป็นพิษเหล่านั้นมักจะทำให้โรคแมลงเพลี้ย หนอน รา และไร ตายยาก ดื้อยา ต้องเพิ่มปริมาณมากขึ้น มากขึ้น บวกกับราคาเคมีเหล่านี้ราคาไม่เคยลดลง จึงทำให้ต้องสิ้นเปลืองต้นทุน ในระยะยาวก็ทำให้ปลูกพืชผักไม่ได้ผล เนื่องจากดินเสื่อม น้ำเสีย ระบบนิเวศน์ถูกย่ำยี ถูกทำลาย

เหตุผลอีกอย่างหนึ่งเมื่อมีการรณรงค์ส่งเสริมให้พี่น้องเกษตรกรทำบัญชีไร่นา ทำให้เห็นตัวเลขที่ชัดเจนขึ้นระหว่างการทำการเกษตรแบบเก่า กับการทำเกษตรแบบปลอดภัยไร้สารพิษนั้นต้นทุนจะแตกต่างกันมาก โดยที่การทำแบบปลอดภัยไร้สารพิษจะต่ำกว่า เนื่องด้วยสามารถที่จะหาวัสดุที่หาได้ง่ายในท้องถิ่นมาปรับใช้ ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดสะเดา, สาบเสือ, หนอนตายอยาก, ยาฉุน, ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก, เศษไม้ใบหญ้า ฯลฯ ที่จะนำมาเสริมสร้างให้โครงสร้างดินและภูมิคุ้มกันของพืชมีความแข็งแกร่งได้ในระดับหนึ่ง หลังจากนั้นสามารถที่จะนำจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อการดูแลรักษา บวกกับตัวห้ำตัวเบียน แมลงดีมีประโยชน์อีกนานาชนิดมาช่วยกันควบคุมกันเองในแบบธรรมชาติ ทำให้การเกษตรแบบปลอดภัยไร้สารพิษทำได้ไม่ยากเมื่อมองการณ์ไกลไปในอนาคตก็นับว่าจะมีผู้ที่ต้องการกิน ต้องการซื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รับรองได้ว่าซื้อง่าย ขายคล่องอย่างแน่นอน

มนตรีบุญจรัส

ชมรมเกษตรปลอดสารพิษwww.thaigreenagro.com

หมายเลขบันทึก: 566743เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2014 16:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 เมษายน 2014 16:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท