ไล่ตงจิ้น เรื่องที่อ่านแล้วทำให้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิต



ไล่ตงจิ้น ลูกขอทาน ผู้ไม่ยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้เรารู้สึกว่ามีกำลังใจในการดำเนินชีวิตมากขึ้น
Lai Dong Jin เป็นหนังสือค่อนข้างหนักเกี่ยวกับชีวิตขอทาน เขาเผชิญกับสภาพกดดันเป็นเวลายาวนานและมีชีวิตอีก 14 ชีวิตแขวนอยู่กับความรับผิดชอบของเขาด้วย เคยคิดจะฆ่าตัวตาย หรือถึงขนาดไปซื้อยาฆ่าแมลงมาเตรียมไว้แล้วเพื่อจะปลิดชีวิตของทุกคนในครอบครัวเพื่อที่จะได้พ้นทุกข์ทรมาน แต่ก็คิดได้เสียก่อน ที่น่าทึ่งคือพอผ่านมาแล้วเขาไม่เคยโทษใครและไม่เคยเอาสิ่งไม่ดีต่างๆมาดึง ตัวเองลงต่ำเลย ไล่ตงจิ้นเป็นลูกของขอทานตาบอด เกิดในวัดร้าง มีชีวิตเร่รอนขอทานมาตั้งแต่เกิดและต้องขอทานอยู่ถึงเกือบยี่สิบปี มีแม่เป็นคนปัญญาอ่อน มีโรคประจำตัวคือลมบ้าหมูและมีจิตใจไม่ปรกติคือคุ้มดีคุ้มร้าย น้องชายคนโตก็พิการทางสมองเช่นเดียวกับแม่ สองคนนี้จึงต้องถูกล่ามโซ่ไว้เสมอๆไม่งั้นอาจหายหรือไปก่อเรื่อง ทั้งครอบครัวเวลาไปไหนมาไหนก็จะเป็นสิ่งประหลาดสำหรับผู้พบเห็น เขายังมีพี่สาวที่เสียสละมากๆซึ่งสมควรได้รับการยกย่องพอๆกับตัวเขาเองอีกคนหนึ่ง ตั้งแต่เด็กเขามีชีวิตอดมื้อกินมื้อ ต้องเดินขอทาน 10-20กม.ทุกวัน บางทีถึงกับต้องแย่งข้าวหมาที่ตกอยู่ตามพื้นกิน เคยชินกับการกินของบูดเน่าที่เขาโยนทิ้งแล้ว ไก่ตายมีกลิ่นเหม็นและมีหนอนขึ้นก็ต้องเอามากิน และดื่มน้ำจากคูน้ำประทังชีวิต เครื่องแต่งตัวเท่าที่มีก็คือชุดไว้ทุกข์งานศพที่เขาบริจาคให้มา ใช้ชีวิตเร่ร่อนและใช้สุสานเป็นที่พักพิงถึง 10 ปี ซึ่งสุสานบางทีก็เต็มไปด้วยเศษกระดูกหรืออสรพิษ หรือบางครั้งก็ต้องนอนกลางทุ่งโล่งๆ ไม่เคยอาบน้ำเลยหลายปีโดยรู้จักแค่การใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัวเท่านั้น เพราะเมื่อท้องหิวก็ไม่ได้ใส่ใจกับความเหม็นหรือความสะอาดอีกต่อไป นานเข้าก็กลายเป็นชินกับกลิ่นอับ ที่สำคัญคือไม่มีสิทธิป่วย เพราะไม่มีเงินหาหมอ เขาต้องช่วยทำคลอดน้องๆเองแล้วในค่ำคืนหนึ่งน้องสาวคนหนึ่งก็ป่วยตายคาอ้อม อกของเขา เขาก็ต้องช่วยฝังเธอกับมือ เขาต้องคอยช่วยดูแลพ่อตาบอด และคอยเช็ดปัสสาวะอุจาระของแม่กับน้องชายพิการทางสมอง เขาคิดถึงน้องๆและทุกคนก่อนเสมอ อาหารที่หามาได้ยากยิ่งก็จะให้คนอื่นกินก่อน ส่วนตัวเองกับพี่สาวยอมกินแต่น้ำจากลำธาร ยังมียิ่งกว่านี้อีก เหล่านี้คือประสบการณ์ที่เกิดกับเด็กชายคนหนึ่งที่มีอายุในช่วง 4-6 ขวบเท่านั้น พอเขาอายุสิบ ขวบผู้เป็นพ่อถึงได้ดิ้นรนส่งเขาเข้าโรงเรียน แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความสูญเสียที่ไม่อาจลืมเลือน ในโรงเรียนเขาเรียนอย่างเอาเป็นเอาตาย ขณะนั้นนอกจากจะถูกดูถูกเหยียดหยามต่างๆนาๆแล้ว กลางคืนก็ยังต้องออกขอทานอีก มีเวลานอนแค่สามสี่ชั่วโมงเพราะต้องเดินขอทานหลายสิบกิโลเมตรทุกวันไม่มีวัน หยุด ขอทานไปด้วยอ่านหนังสือทำการบ้านไปด้วย ถึงขนาดเดินหลับตกคลอง ตอนกลางวันก็นั่งกินข้าวคนเดียวตลอดเพราะอายที่ข้าวกลางวันมีแต่ข้าวเปล่า ขณะที่เพื่อนๆที่นั่งกินกันเป็นกลุ่มบ่นถึงรสชาดของอาหารที่ทางบ้านเตรียมให้ เรื่องนี้สอนให้เราได้รู้ว่าบางทีความเพียบพร้อมก็อาจจะทำให้คนกลายเป็นพวกชอบเรียกร้องสูงและเห็นแก่ตัวขณะ ที่ความไม่มีกลับทำให้คนเรารู้จักเผื่อแผ่ช่วยเหลือก็ได้ใครคิดจะฆ่าตัวตาย ใครชีวิตรันทด อกหัก แฟนทิ้ง หน้าที่การงานไม่สมปรารถนาหนังสือเล่มนี่อาจช่วยเตือนสติว่ายังโชคดีกว่าคนอื่นอีกเยอะ

คำสำคัญ (Tags): #kmanw2
หมายเลขบันทึก: 566717เขียนเมื่อ 25 เมษายน 2014 12:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 เมษายน 2014 12:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อ่านแล้วเหมือนกันจ้ะ....สุดยอดของคนสู้ชีวิต   สุดยอดของชีวิตที่ไม่ยอมแพ้

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท