ในส่วนของ wcc นั้นต้องบอกว่ายากมากในการทำให้เป็นรูปแบบโรงเรียนพ่อแม่แบบกลุ่มอย่างเต็มรูปแบบ จึงใช้เป็นรูปแบบการสอนรายบุคคล โดยกำหนดเนื้อหาให้สอนในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เจ้าหน้าที่ออกแบบ และจ้างเขียน และเลือกประเด็นที่เป็นปัญหาที่พบจากการสุ่มเก็บข้อมูลทุกปี มาเป็นการสอนแบบกลุ่ม 1 ครั้ง/สป.
เรื่องที่พบคือ การเริ่มอาหารเสริมไม่ถูกต้องสุดท้ายเด็กมีปัญหาอ้วนผอมตามมา แล้วก็ติดนมขวดด้วย แล้วทันตะแพทย์ก็ฝากมาด้วยว่าตอนนี้เจอปัญหาในกลุ่มนมแม่ด้วย เพราะเด็กกลุ่มนี้ก็อมนมแม่ทั้งคืน ทำให้ฟันผุด้วยเหมือนกัน ก็เลยเป็นประเด็นที่เรานำมาพัฒนาการสอนให้สั้นกระชับโดนใจในกลุ่มเด็กที่ป้องกันไม่ให้ติดนมขวดหรืออมนมแม่คาเต้าในเวลา 22.00-05.00 น.เพราะเป็นเวลาที่ควรได้รับการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ได้ถอดบทเรียนออกมาเป็น mind map ส่วนเรื่องอาหารก็ได้นักโภชนาการมาช่วยให้ความรู้กับกลุ่มผู้ปกครองเด็กอายุ 4-6 เดือนขณะนั่งรอตรวจพัฒนาการทุกวันอังคาร จะได้เตรียมพื้นฐานเรื่องอาหารได้ดีขึ้น
กว่าจะเป็นวันนี้เราก็ทดลองมาหลายรูปแบบค่ะ แต่รูปแบบที่ทำแล้วอยากบอกต่อคือ.................
จัดกลุ่มที่ห้องกระตุ้นพัฒนาการ โดยมีห้องยา แม่นม นักโภชนาการ แล้วก็ตัวเองไปพูดคุยกับผู้ปกครองเด็กช่วงเวลา 08.10-08.30 น.ทุกวันอังคาร ส่วนวันที่เหลืออีก 4 วันเราก็ไปพูดคุยเอง ก็ดูเหมือนว่าจะไปด้วยดี เพราะประเมินผลก็มีความพึงพอใจมาก เพราะ 100% ของผู้ปกครอง 30 คนที่ประเมินบอกว่ากิจกรรมแบบนี้ดี และอีก 90%บอกว่าเวลาเหมาะสมดีแล้ว เพราะเรื่องที่เราพูดคุยนั่นสั้นๆง่ายๆ เน้น "กิน กอด เล่น เล่า" ดำเนินกิจกรรมมาได้เกือบปี แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงบริการอีก เพราะไม่มีห้องว่างให้ทำกิจกรรมอีกแล้ว ก็เร่ร่อนต่อไป เลยปรับเหลือให้เป็นงานประจำของ wcc ไป โดยก็ไม่ผิดไปจากเกณฑ์ตามมาตรฐานสายใยรัก เพราะเกณฑ์กำหนดว่าในช่วงอายุ 0-5 ปีของเด็ก ขอให้มีกิจกรรมกลุ่มเพียงแค่ครั้งเดียวก็โอเคแล้ว แล้วกิจกรรมเราก็มีแบบนี้ทุกปีในเทศกาลวันครอบครัว และวันแม่
เนื้อหาที่พูดคุยก็ใช้การถาม-ตอบ ในเรื่อง ปัญหานมแม่ ...นมคัด สำลักนม ลูกกัดนม การเตรียมให้นมเมื่อต้องออกไปทำงานนอกบ้าน การฝึกนิสัยการนอนเพื่อเตรียมให้นอนกลางคืนได้นาน การเล่นกับลูก การเล่านิทาน อุบัติเหตุที่ต้องระวัง ลดปัญหาการติดนมมื้อดึก การป้อนยา การเตรียมให้อาหารเสริมที่พบคือให้อาหารสำเร็จรูป และจำนวนมื้อการให้อาหารเด็ก 6 เดือนที่นำมื้อผลไม้ไปรวมกับมื้ออาหาร แม้กระทั่งเรื่องปริมาณอาหารที่ให้ รวมถึงลักษณะพฤติกรรมเด็กที่เจออาหารมื้อแรก
เนื้อหาดูเหมือนเยอะ แต่การพูดคุยแบบคุยกันจริงๆ มันเลยใช้เวลาสั้นๆ แต่ได้เนื้อหาครบ
เห็นด้วยว่ายากและท้าทายมากครับ
แต่เป็นส่วนขาดของพ่อแม่ในสังคมไทย
ง่ายที่สุด
น้อยที่สุด
เท่าไรพอ น่าตอบนะครับ
ความยากอยู่ที่เจ้าหน้าที่หมุนมาสอนไม่ทันค่ะ งานมันล้นมือจริงๆ แม้ว่าประโยคนี้ห้ามพูดก็เถอะ..เพราะตัวผู้ปกครองเด็กทุกครั้งที่มีโอกาสลงไปทำกิจกรรม เค้าก็คุยกับเราได้เรื่อยๆ ไม่เห็นจะรีบกลับเลย มีแต่เราต้องขอตัว เพราะเรามีเวลาจำกัด ที่ไหนทำได้จะดีต่อเด็กมากๆเลย เพราะวัยนี้สำคัญที่สุด