วันนี้กรณีศึกษา ครอบครัวน้องป . มาเรียนหนังสือพร้อมคุณพ่อ คุณแม่ ในโรงเรียนการจัดการความสุขอีกครั้ง น้องป. ดูสดใสขึ้นมากกว่าเดิม ครูสังเกตเห็นรอยยิ้มมากกว่าเดิมจากคนในครอบครัวอีกด้วย ก่อนเริ่มเรียนคุณพ่อ ซึ่งเป็นโคชส่วนตัวของน้องป. พาน้องเล่นกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อให้ตื่นตัวโดยครูไม่ต้องแนะนำ อีกแล้ว คุณพ่อปรับตัวได้เก่งมากๆ
ถ้าเราลองตั้งโจทย์ลอยๆในอากาศ แล้วถามคนที่อยู่ตรงหน้าเราว่าความหวังของเขาคืออะไร??? แต่ละคนคงมีคำตอบในสไตล์ของตัวเอง ใช่ไหมคะ ?
วันนี้อาจารย์ป๊อบให้นักเรียนลองทบทวนและเขียนความหวังของแต่ละคน สรุปได้ว่า.......
ความหวังคือ สิ่งที่อยากทำให้สำเร็จในอนาคตก่อนตาย ถ้าไม่สำเร็จก็ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเบื่อแล้วก็เลิก
ความหวังคือ สิ่งที่หวังว่าอยากจะทำให้สำเร็จเพื่ออนาคตในวันข้างหน้า อาจจะสมหวังก็ได้หรืออาจจะไม่สมหวังก็ได้ แต่อย่าไปคาดหวังมาก จะพยายามทำให้ดีที่สุด
หลังจากนั้น อาจารย์ป๊อบใช้หลายๆเทคนิค เช่น ให้หาความเหมือนและความแตกต่างของความหวังที่นักเรียนเขียนมา ใช้การ Brainstroming
และเทคนิคแยก สิ่งที่ อยาก-ทำ-สำเร็จ อันนี้น่าสนใจ
น้องป.
อยาก เรียนหนังสือ ทำอาหาร ไปเที่ยว
ทำ อ่านหนังสือ ซื้อของ เรียนทำอาหาร จัดกระเป๋า
สำเร็จ มีความรู้ กินอาหาร ถ่ายรูปซื้อของที่ระลึก
คุณพ่อ
อยาก ทำดี คิดดี พูดดี เขียนแต่สิ่งที่ดีๆ เป็นคนดี คนเด่น คนดัง มีคนชื่นชอบ
ทำ สิ่งที่คิด สิ่งที่พูด สิ่งที่เขียน
สำเร็จ ในสิ่งที่อยากทำดีมีประโยชน์ต่อทุกๆคนและตัวเอง
คุณแม่
อยาก มีสุขภาพดี
ทำ งานให้ดีที่สุด
สำเร็จ ทุกๆสิ่งถ้าเป็นไปได้
หลังจากนักเรียนเขียนแบบฝึกหัดในแต่ละครั้งจะเปิดโอกาสให้ได้มีการนำเสนอ และแสดงความคิดเห็นร่วมกัน
ปิด Session 1 ด้วยการทำ Brain Gym เพื่อให้ได้พักสมองบ้าง
ช่วงที่สอง ครูให้โจทย์ในหัวข้อ ความหวังของแต่ละคน คืออะไร? แล้วจะทำด้วยวิธีการอะไร?
ความหวังของน้องป. คือ “ครอบครัวที่อบอุ่น”
มีวิธีคือ
ความหวังของคุณพ่อ คือ “ไปเที่ยวทั่วประเทศไทย”
มีวิธีคือ
ความหวังของคุณแม่ คือ สุขภาพร่างกายแข็งแรง ทำงานประสพความสำเร็จ ครอบครัวมีความสุข
มีวิธีคือ ทุกคนสามัคคีกัน ช่วยเหลือกันและกัน
จากนั้นครูลองให้เลือกความหวังที่ทุกคนมีร่วมกัน ......ได้ข้อสรุปคือ การท่องเที่ยว และกำลังจะเกิดขึ้นจริงอีกด้วยในสุดสัปดาห์นี้ ....คือการไปทะเล
ในช่วงท้ายครูเปิดโอกาสให้ได้เปิดใจ.....เพราะ หลังจากน้องป. นำเสนอข้อ 5. ว่า รักกันบ้างบางโอกาส คุณพ่อคุณแม่ดูกังวลเล็กน้อย.............. น้องเล่าว่าได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเป็นคำสอนทางศาสนา น้องเข้าใจว่าถ้ารักกันมากๆแบบ โรมิโอแอนด์จูเลียต แล้วจะไม่ดี จะต้องพรากจากกัน ครูเปิดโอกาสให้คุณพ่อคุณแม่อธิบายความรักที่ตนเองมีต่อลูก เพื่อปรับความเข้าใจ ว่าความรักแบบครอบครัวและความรักระหว่างหนุ่มสาวนั้นแตกต่างกันอย่างไร ผลคือน้องบอกว่าตนเองกลัวน้อยลง แถมด้วยกอดจากคุณแม่และคุณพ่อคนละรอบ......จากนั้นครูปิดท้ายด้วยการคลายสมอง Brain Gym อีกรอบ
ก่อนกลับบ้านวันนี้น้องป. นำผลงานวาดรูปออกแบบมาให้ดู น้องสามารถทำงานได้ต่อเนื่องมากขึ้น วาดออกแบบห้องพระเพิ่มจากไอเดียของตนเอง ครูถามว่ารู้สึกอย่างไรกับการวาดรูป น้องบอก” เริ่มเบื่อบ้างละ” ครูจึงกระตุ้นน้องให้ลองหากิจกรรมใหม่ 1 อย่างหลังจากโปรเจควาดรูปเสร็จ
วันนี้อาจารย์ป๊อบให้การบ้าน โดยให้สมาชิกทุกคนนำหนังสือที่ตนเองชอบมาด้วยคนละ 1 เล่ม ในครั้งหน้า........... โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
ขอบคุณมากๆครับอ.แอน ดีใจและชื่นชมที่อาจารย์ช่วยบันทึกต่อยอดกิจกรรมบำบัดการจัดความสุขได้น่าสนใจครับผม
ขอบคุณอาจารย์ป๊อบมากๆ เช่นกันค่ะ ^ ^