เทศกาลสอบบรรจุครู..ช่วยทำให้โปร่งใส เป็นธรรม นำครูเข้าสู่ห้องเรียน
อากาศร้อนอบอ้าวมากขึ้นทุกวัน ในท่ามกลางการรับสมัครสอบบรรจุข้าราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย มีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครไปด้วย แต่หลายคนโชคร้าย ตั้งแต่ยังไม่สมัคร เนื่องจากสถาบันการศึกษาฯ คุรุสภา ยังไม่รับรองมาตรฐานวิชาชีพครู แม้จะเปิดหลักสูตร ๕ ปีก็ตาม ..มีคำถามจากพ่อแม่ผู้ปกครอง และตัวนักศึกษาว่า คณาจารย์เหล่านั้น มัวทำอะไรกันอยู่...ปล่อยให้ล่วงเลย..จนนาทีสุดท้าย
หลายคนเป็นห่วง เป็นกังวลว่าจะมีการโกงกันอีกไหม..ผมคิดว่าน่าจะไม่มีแล้ว..บทเรียนจากปีที่ผ่านๆมา ย่อมบ่งบอกถึงโทษภัยอันไม่พึงประสงค์..เข็ดขยาดกันไปตามๆกัน คดียังไม่สิ้นสุด เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ กำลังตามเช็คบิล ใครคิดจะทำผิด..กินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่รู้ด้วยนะครับ
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคณะกรรมการระดับเขตพื้นที่ที่มีการเปิดสอบ น่าจะได้ระแวดระวัง หามาตรการรัดกุมคุมเข้ม ป้องกันไว้ดีกว่ามาแก้ปัญหา เพื่อมิให้มิจฉาชีพ ใช้ช่องทางทำมาหากิน พบพิรุธหมิ่นเหม่..จัดกันทันใด เพื่อมิให้วิชาชีพครูมัวหมอง
สิ่งหนึ่ง ที่ผมเชื่อว่า พ่อแม่ผู้ปกครองและผู้ที่มาสมัครสอบ อยากเห็นและต้องการพอๆกับความโปร่งใสในกระบวนการสอบ ก็คือ ประสิทธิภาพของข้อสอบ ในทุกภาครวมทั้งวิชาเอกที่เปิดสอบ ซึ่งในแต่ละเขตพื้นที่ฯ เปิดสอบไม่เหมือนกัน แต่สอบวันเดียวกัน
ออกข้อสอบให้ง่ายกันหน่อยได้ไหม..จะออกยากกันไปถึงไหน..ผมมีเหตุผลพอสมควร และยึดประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ คงไม่ขยันที่จะมาบันทึกเล่นๆ แนวคิดพื้นฐานที่ควรตระหนัก ออกยากมีแต่คนด่า ออกง่ายมา..มีแต่ได้บุญและได้คนทำงาน..
ช่วงหลังพบเห็นบ่อยมาก..ลงทุนสอบ ๓ - ๔ แสน ได้ครูไม่ถึง ๑๐ คน ขึ้นบัญชีไว้ไม่ถึงปีก็หมด โรงเรียนที่รอครูอยู่ก็อด รอจนหมดความอดทน ผลที่สุด..กระทบต่อประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษา..การปฏิรูปการเรียนรู้จึงไม่ประสบผลสำเร็จ
เขตพื้นที่ฯกับคณะกรรมการที่ดำเนินการสอบ และผู้ออกข้อสอบ คุยกันให้ดีเสียก่อน การออกข้อสอบที่ง่ายที่สุด คือ ออกจากตำรา จากหลักสูตรที่กำหนดไว้ นั่นแหละ อย่าไปถามวิเคราะห์เจาะลึก คิดแค่ว่า ถ้าใครมุมานะ ขยันขันแข็ง เอาจริงเอาจัง มุ่งมั่นตั้งใจ ท่องตำรามาอย่างหนัก ย่อมจะสอบได้ จะได้คะแนนล้นหลามจนเกือบเต็มเป็นร้อยเป็นพันคนก็คงไม่เป็นไรมั้งครับ เขตพื้นที่มีวิธีการหลักเกณฑ์คัดเลือกจนได้ โดยดูความกระตือรือร้น และการสัมภาษณ์ รวมทั้งข้อมูลเชิงประจักษ์..อีกมากมาย
ผู้บริหารและคณะครูผู้ซึ่งเขตฯคัดเลือกไปออกข้อสอบ ก็ต้องมีความสำเหนียก รับรู้ปัญหา บนพื้นฐานของความรักความเข้าใจ อย่าได้แสดงภูมิรู้จนเกินงาม เพราะความปวดร้าวของโรงเรียน ที่มีตำแหน่งว่าง ในวิชาหลักที่สำคัญ..มีคนจบมาเป็นหมื่น และทุ่มทุนเปิดสอบ (ไม่บ่อยด้วย) แต่ไม่ได้ครูตามความต้องการเพราะคะแนนไม่ถึงเกณฑ์..มันเจ็บปวดจริงๆนะครับ
การออกข้อสอบง่ายเกิน แบบขำกลิ้ง ตั้งแต่กรุงเทพ ถึงเชียงใหม่ ก็คงไม่ไหวเหมือนกัน.. ไม่ต้องถามว่า ผอ.เขต ชื่ออะไร ใครเป็นนายกรัฐมนตรี...ถามแบบนี้ไร้คุณค่าและขาดวิสัยทัศน์ ทำให้ภาพลักษณ์เขตพื้นที่มีแต่เสียหาย และการใช้ประโยคคำถามก็เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง บางครั้งผู้ออกข้อสอบ อาจไม่จำเป็นต้องจบ ป.โท วัดและประเมินผล แต่..การคิด ใคร่ครวญ ตรวจทานสำนวนภาษา การจัดวางถ้อยคำในประโยค ทั้งคำถามคำตอบ เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ทำให้สวยงามดูดี มีความสละสลวย..ก็จะทำให้ผู้เข้าสอบได้บทเรียนที่ดีกลับไปไม่มากก็น้อย
ดังนั้น..เขตพื้นที่จงให้ความสำคัญ ในกระบวนการคัดกรองข้อสอบให้จงหนัก ง่ายแต่งดงาม..ถามในสิ่งที่เขาควรจะรู้ ถ้าดูหนังสือมา เราเปิดสอบเพื่อเอาคนไปเป็นครู เข้าสู่ห้องเรียนที่ขาดครูมานาน
การศึกษา คือ ความเจริญงอกงาม..และการศึกษา คือ การพัฒนา..และเรียนรู้ได้ไม่รู้จบ..ได้ครูแล้ว ก็ใช่ว่าจะจบสิ้น..ยังต้องจัดอบรมพัฒนาครูบรรจุใหม่ ให้เข้าใจกฎกติกามารยาท ระเบียบปฏิบัติราชการ และคุณธรรมจรรยาบรรณ..๓ - ๕ วัน จัดกันไปและเติมเต็ม...ประสิทธิภาพและประสิทธิผล..ของการคัดเลือกครูอยู่ที่มุมมอง ว่าเขตฯจะเข้าใจ เข้าถึง..และจะพัฒนาเขา..หรือไม่
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๐ มีนาคม ๒๕๕๗
บรรยากาศการเตรียมงาน"บัณฑิตน้อยและนิทรรศการทางวิชาการ"
ความเห็น (4)
ฤดูกาลที่ติวเตอร์ได้ทำมาหากินอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ;(...
ขอบคุณบันทึกที่ทรงคุณค่ายิ่งนี้คับ ของอาจารย์กำลังจะสอบ ส่วนของ กทม.เอง ผมก็กำลังจะเปิดรับสมัครครับ สุดท้าย ความยาก ง่าย สนุก หรือประสบการณ์ก็คงจะเป็นความเหมือนที่ต่างกันนะครับ
... จัดได้สวยนะคะ .... ผู้ปกครอง คงดีใจมากๆๆ เลยนะคะ
ไม่ได้มาเยี่ยมท่านนานแล้ว
สบายดีไหมค่ะ
กิจกรรมยังคงอัดแน่นไปด้วยความตั้งใจดีเสมอนะคะ