สี่สิบสามปีผ่านไป จากวัยเรียนในร่มรั้วยูงทอง ที่เราเคยวิ่งเล่น หยอกล้อกัน แล้วเราต่างแยกย้ายกันไปทำงานรับใช้บ้านเมือง วันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน จนพวกเราต่างทยอยเกษียณอายุราชการ ตามวิถีทางแห่งการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งอันเป็นหลักความจริงที่เราไม่อาจหลีกพ้น
เพื่อนรัก... ณ เพลานี้ เพื่อนคงสามารถปรับตัวปรับใจถอดหัวโขนที่เคยสวมใส่มาร่วม 30-40 ปีได้อย่างไม่อาลัยอาวรณ์ หรือลุ่มหลงกับมัน แล้วหันเข้าสู่ความจริงในชีวิตใหม่ เก็บความทรงจำดีๆเอาไว้เป็นพลังให้ก้าวเดินไปข้างหน้า ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีคุณค่าและมีความสุขกันนะเพื่อน
แม้วันเวลาจะผันผ่านไปนานแค่ไหน แต่คำว่า “เพื่อน” ยังมีพลังและเป็นมนต์ขลังให้พวกเรา รัก ผูกพัน และรำลึกถึงกัน ไม่เปลี่ยนแปลง
ไม่มีความเห็น