ครูคอยชี้ หลวงพี่คอยประคอง วันที่1ของสัปดาห์ที่ 10


วันที่ 1 ของอาทิตย์ที่ 10 วันนี้มีหลายเรื่องให้รั้งน้ำตาแทบไม่ไหว

จากเมื่อวานแทบแย่ตายแช่กับกิเลสตนเอง

เช้านี้ลุกขึ้นมาใหม่ เนื่องด้วยเป็นวันศุกร์ จะอะไรอย่างไรก็มาวัดก่อน

อาทิตย์นี้ซักผ้าก็แทบไม่เรียบร้อยกับตนเอง ไม่ถึงกับไม่มีเวลา แต่มันงอแง

หอบเสื้อผ้าขึ้นรถทั้งที่ไม่แห้ง ชักจะแย่แล้วเรื่องนี้ ติดนิสัย ถ้าไม่จัดการเรื่องนี้จะหนักข้อขึ้น บ้านรกยังไม่พอ นี่ก็อีกประเด็นต้องจัดการ ขึ้นรถ รถก็พลอยรกไปด้วย ไปทำงานลิสต์กับตนเองสองสามอย่าง ทำได้จริงสองอย่าง

 

หลวงพี่เมตตาโทรมาเล่าเรื่องพ่อ หนูอดนั่งร้องไห้ไม่ได้

จากสารที่ครูเมตตาส่งมา หนูมีแต่นั่งร่ำไห้

แต่ท่านมีปัญญา จากจิตที่พ่อแม่ เห็นภัย หลวงพี่ชี้ทางชิงจังหวะให้พ่อ แม่ น้า เข้าสู่ทางภาวนา

 

ใช่นี่เป็นทางอันเลิศ เป็นทรัพย์ที่พาข้ามภพ ข้ามชาติได้ เหลือเพียงพี่สาว พี่เขย ที่หลวงพี่ยังห่วงอยู่

แต่ก็ค่อยๆเป็นค่อยไป ท่านบอกกับหนูว่า เมื่อเชัาพ่อตั้งใจขึ้นมาคุยเลย

เอายังไงดี สิ่งที่ทำที่ผ่านมามันช่วยไม่ได้เหรอ

หลวงพี่บอกว่า ช่วยมันก็ช่วยได้แต่เราก็ไม่รู้ว่าชาติที่แล้วทำกรรมหนักอะไรไว้ ทางเดียวที่จะเบาบางหรือรอดคือเวลาที่เหลือทำให้เต็มที่ดีสุดสุดคือมีปัญญา

ทางที่จะทำให้เกิดปัญญาคือมาภาวนา มาฟังเทศน์ หลวงปู่มาภาวนาทุกวันพระ พ่อรับปาก

 

หนูร้องไห้เลย ใช่ นี่ไงหลวงพี่เมตตาช่วย และช่วยได้ด้วย

หนูงี่เง่า โง่และชั่วด้วย แทนที่จะหาทางช่วย มัวแต่คร่ำครวญไม่ยอมรับความจริง แถมเพ่งโทษครูด้วย บาปกรรมแท้ ๆ

หลวงพี่ย้ำกับหนูว่า ถามจริงๆ ไม่รู้จักครูของตนเองจริงๆเหรอ

ไม่เข้าใจเหรอว่าท่านทำแบบนี้กับติ๋วทำไม

ตอนที่ใจงอแงมันก็แถ หลวงพี่ก็หัวเราะแล้วถามใหม่

เอาจริง ๆ อย่าฟังเสียงมันหลายกิเลส

ตอบท่านใหม่ก็พอรู้อยู่ว่า ครูทำทุกวิถีทางที่จะช่วยคน แล้วก็ช่วยแบบไม่แคร์ใครจะมองครู อย่างไร

นั่นไง น้องหน่ะรู้จักครูน้องดีกว่าใคร แล้วมัวงอแงทำไม

ท่านบอกมาลุยเลย อย่าไปคิด ความคิดน้องตอนนี้มันเป็นกิเลส ไปแบบโง่ๆ อย่าฉลาด

ท่านบอกอะไรทำโลด

หนูสารภาพว่า ใจมันอยากหนี

ท่านชี้ใหม่ อยู่กับครูมาสี่ปี คิดเป็น 48 เดือน ปีนี้ผ่านไป 3 เดือน รวมคร่าวๆ 51 เดือน อยู่กับท่านมาได้ 51 เดือน

อยู่เพื่อแม่อีก 9 เดือนทำได้บ่

ท่านถามใหม่ "แพงแม่บ่"

หนูร้องไห้เลย "แพงตั้ว"

"เฮ็ดเพื่อแม่ได่บ่"

"เฮ็ดได่อยู่ แต่มันยาก"

"อิหยั๋งมันยาก"

"เฮ็ดให้มันต่อมันยาก"

"ฝืนมันแน นั่นแหละ เคยตามใจแต่กิเลสหลาย"

ใจคลายลง ด้วยความเมตตาของหลวงพี่ ที่ช่วยประคองให้เชื่อครู

 

ระหว่างขับรถไปวัดครูชี้ซ้ำ ขณะที่หลวงพี่ช่วยทุกคน หนูกำลังสร้างภาระ ซึ่งจริงอย่างที่ครูชี้

ตอนอาบน้ำหนูนึกขึ้นมาถึง นิสัยเสีย ๆของตนเอง นิสัยของ พี่สาวและแม่ แท้ที่จริงทุกนิสัย

มันรวมอยู่ในหนู่นี่แหละ ถ้าหนูแก้ไข หาลูกกุญแจที่อยู่กับหนูได้ ก็ช่วยทุกคนได้ แค่คิดได้แต่ไม่ใช่ปัญญา เหมือนรหัสของคำตอบอยู่กับหนู

 

ครูชี้อีกว่า เหตุของปัญหาใหญ่ ๆเกิดจากหนู ถ้าเชื่อครูต้องแต่เตือนตอนกลับจาก นครพนม ก็พ้นแล้ว แต่นี่หนูไม่เชื่อและยังท้าทายอีก จึงได้รับผล

ถ้าหากครูไม่ลากหนูมาตลอด ลากมาทำงานด้วย มาภาวนาด้วย ที่บ้านได้รับผลนานแล้ว

หนูนึกย้อนใช่ จริงๆด้วย ครูไม่ได้ช่วยแค่หนู แต่กำลังช่วยทั้งครอบครัวหนู มีวิกฤตเข้ามากมาย แต่ก็พอเบาบาง

ครานี้หนัก กุญแจหลักอยู่ที่หนู ทั้งที่ข้างในหนูมันชั่วมาก

ศีลก็ไม่อยากรักษา สมาธิก็ไม่อยากทำ ปัญญาแก้ปัญหาก็ไม่อยากใช้

ป้าด ชั่วแท้หวา ที่ผ่านๆมาก็แค่กดข่ม ไม่ให้มันโผล่ แต่ไม่ได้ดับ นี้สัยขี้วีน โมโหร้าย ยังพร้อมจะระเบิด

ช่างประชด ช่างเหน็บแนมให้ใครเจ็บๆ ยังอัดแน่นคับอก

ใจที่ไม่เคยหยุดร้องเพลง ฟิกเกอร์เต้นรำที่ไม่เคยลืม แม้กระทั่งท่าเต้นแบบไร้กระดูก ข้างในยังรู้ว่า ต้องเคลื่อนไหวกายยังไง

 

ที่ผ่านมา ครูบาอาจารย์เมตตาให้ได้ฝึก ทั้งๆที่ใจชั่วมันไม่ได้จางหาย มันมาก

ท่านจึงย้ำให้กดมันไว้ข่มมันไว้ รักษา สติ ศีล สมาธิ ปัญญา ทาน ศีล ภาวนาเท่านั้นจะช่วยได้ แค่เขียนออกมาข้างในมันก็อ่อนแรงนี่

กิเลสมันเร็วมาก สู้ไม่ไหว ก็ต้องสู้ สู้ไหวก็ต้องสู้

หนูโชคดีกว่าใครที่มีครูคอยชี้หลวงพี่คอยประคอง คอยให้ปัญญาไม่หลงผิดไปตามกิเลสตนเองให้เป็นกรรมหนักกว่านี้ มันยากเพราะติดนิสัย ชอบคิดคร่ำครวญ สำออยอารมณ์นางเอก เรียกร้องความสนใจ

ความชั่วมันเยอะ เขียนออกมาแค่นี้ยังไม่เสี้ยว รู้ทั้งรู้ว่า มีทางชัวยแม่ และครอบครัว แต่มันก็มัวแต่คร่ำครวญ

บอกตนเอง แกจะปล่ยให้เสียเวลา เสียเปล่าอีกเท่าไหร่ติ๋ว จึงจะพอ เซาดื้อซะ ว่าง่ายๆ. จะได้ไม่เสียเวลา

เมื่อเช้างอแง ลงเดินกระปิดกระปอยทั้งๆที่ใส่ชุดพร้อมวิ่งสวดมนต์พอให้อ้างว่าได้ทำ เที่ยงงอแงแค่พักกับตนเอง

มาบ่ายๆเย็นตั้งใจใหม่ ครูเมตตาชี้ซ้ำ พร้อมกับยกตัวอย่างคนดื้อด้านแล้วได้รับผลแบบต่างๆ ให้ทวนสอบตนเอง ใจคลายลง

พอพูดถึงกุญแจแก้ปัญหาชีวิต มาถึงวัดหนูก็ทำกุญแจกุฏิหาย ผิดศีลข้อ2 บักคัก สมบัติวัดด้วย โอ้ย จั๊กอีหงั๋ง บ่มีสติ

คนแก้ปัญหาให้ ก็ครู(เดือดร้อนท่านอีกแล้ว) ขอกุญแจสำรองมาให้ กรรมข้อยหนอ บาดได๋ซิเซาเฮ็ดจักเถือ

 

 

คำสำคัญ (Tags): #aar#km#ภาวนา#570314
หมายเลขบันทึก: 563895เขียนเมื่อ 14 มีนาคม 2014 23:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มีนาคม 2014 23:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ไม่เข้าใจนัก แต่อยากให้กำลังใจให้ผ่านไปได้ค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท