ของขวัญจากธรรมชาติ

มันดาลา ทำให้ผม ค้นพบว่า ยังมีอีกวิธีหนึ่งคือการทำงานผ่านการใช้ความรู้สึก ความรู้สึกที่ไม่ผ่านสมอง หรือนี่คือที่เขาเรียกว่า "ปัญญาญาณ" หากใช่ผมเริ่มที่จะสัมผัสมันได้แล้ว

ผมได้ร่วมทำกิจกรรมหนึ่งที่มีชื่อว่า "Mandala" อ่านว่า "มันดาลา" ผมมารู้ตอนหลังว่า Mandala นั้นแท้ที่จริงเป็นเครื่องหมายทางจิตวิญญาณใน ศาสนาพุทธ และฮินดู ที่ใช้สื่อความหมายถึงความเชื่อมโยงและสัมพันธ์กันของทุกสิ่งในจักรวาล และผมหมายความเอาเองว่า มันหมายถึงพลังจากจักรวาลที่เกื้อกูลเราและสิ่งต่าง ๆ ให้ดำรงอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย การทำกิจกรรมผมได้ใช้ความรู้สึกคัดเลือกรูปภาพและนำมาเชื่อมโยงต่อกัน และนี่คือความหมายของ "มันดาลา" ที่ผมได้สร้างขึ้นจากกิจกรรมครั้งนี้..

สิ่งที่ผมได้พูดและได้กล่าวคือข้อความบางอย่างที่แสดงถึงความรู้สึกและสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากกิจกรรมนี้

ภาพที่ผมสร้างขึ้นนั้น มีความหมายถึง ของขวัญ 4 ประการ ที่ธรรมชาติได้มอบให้ เมื่อผม พิจารณา รูปภาพและข้อความ ที่ได้เลือกไว้ เมื่อนั้นภาพบางอย่างก็ปรากฏขึ้นในความคิดของผม รูปคนตรงกลางคือผม และรูปข้าง ๆ 4 รูปคือสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้แก่ผม ได้แก่ ความสงบ ความเบิกบาน ธรรมะ และ ความมั่นคง ผมคิดว่านี่คือ สารบางอย่างที่ธรรมชาติได้บอกกับผม ว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เกื้อกูลและสนับสนุนผมให้ผมเดินต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคง 

ในเรื่องของความรู้สึกขณะทำกิจกรรม ผมสะท้อนใน 2 สภาวะ คือ หนึ่งช่วงที่เริ่มทำกิจกรรม ผมรู้สึกถึงความสับสน และลังเลว่าผมจะเริ่มอย่างไรและผลมันจะออกมาอย่างไร และพอผ่านไปได้ซักระยะผมไม่ได้คิดเรื่องนั้นอีก ตัวผมอยู่กับงานที่กำลังทำจริง ๆ ตั้งแต่การเลือกภาพผมไม่ได้ใช้ความคิดผมแค่ใช่ความรู้สึกว่าภาพนี้ ข้อความนี้น่าสนใจ ผมก็ฉีกออกมา กอง ๆไว้ ขณะที่ติดภาพผมใช้จินตนาการตกแต่งไปเรื่อย ๆ จนเกิดภาพออกมาดังที่ปรากฏ

ผมยังบอกอีกว่า สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากกิจกรรมนี้คือ ผมได้เข้าถึงสภาวะที่สงบซึ่งหลอมรวมผมกับกิจกรรมเข้าด้วยกัน ผมได้เรียนรู้ว่าผมสามารถปฏิบัติภาวนาผ่านงานลักษณะนี้ได้ มันทำให้ผมเกิดความชุ่มฉ่ำภายในจิตใจ กิจกรรมนี้ทำให้ผมได้ทบทวนตัวเองอีกครั้งซึ่งทำให้ผมรู้สึกดีกับมัน

ผมยังรู้สึกอีกว่า การทำกิจกรรมนี้ด้วยความรู้สึก ไม่ใช้ความคิด ภาพแต่ละภาพที่ผมหยิบออกมามันทำให้ผมรู้สึกว่า ผมไม่ได้เลือก แต่มีอะไรบางอย่างที่เชื่อมโยงกับผม เป็นผู้เลือกให้ กิจกรรมมันดาลามันทำให้ผมเข้าใจอะไรบางอย่างว่า การสร้างสรรค์ผลงานนั้นนอกจากการใช้ความคิดผ่านสมองที่ผมได้ใช้จนเคยชินนั้น ยังมีอีกวิธีหนึ่งคือการใช้ความรู้สึก ความรู้สึกที่ไม่ผ่านสมอง หรือนี่คือที่เขาเรียกว่า "ปัญญาญาณ" หากใช่ผมเริ่มที่จะสัมผัสมันได้แล้ว