เรื่องเล่าคืนข้ามปี และการเริ่มต้นวันนี้


ณ จุดนี้ นั้นยิ่งกว่าคำว่า ตั้งต้น

เพราะหลังเริ่มชนฝา มันชนมาตั้งนานแทบจะโดนบี้เบียดจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกะฝาละ

แต่ใจมันก็ไม่ยอมมองสักที แม้ในใจยังมี อยากหนี

ความรู้สึก เหมือนคืนข้ามปี ที่ครูมอบหมายให้ไปร่วมสวดมนต์ทำวัตรรวมกับแม่ๆ ที่วิหาร

ก็ไปนะ แต่ทำวัตรเสร็จประมาณสามทุ่มกว่า

หนูชวนแม่ ๆ เข้าไปสำนักแม่ชี เพราะนิสัยหนู ไม่ชอบพิธีการ

แม่รีและแม่แก้ว สบตากันแล้วบอกว่า

มันยังไม่ข้ามปี ถ้าหนูจะเข้าก็เข้าไปก่อนได้

แว๊บแรก แม่ๆมีเพื่อนอยู่ไม่เป็นไรหรอก เบื่อจะแย่อยู่แล้ว นี่คือเสียงข้างใน

 

แต่ก็ยังคิดทบทวนเหมือนยังไม่ใช่ ลุกมาเข้าห้องน้ำ

ก๊อกสองเข้ามาว่า เอ้าอยู่ก็ได้แต่ไม่เข้าไปสวดมนต์นะง่วง จะเดินจงกรมแถววิหารนี่แหละ

พอเดินไปแล้วก็กลับ ก็เหมือนมัน ยังไม่ใช่

ก๊อกสาม เอ้า เข้าไปนั่งก็ได้แต่ไม่สวดนะ

จะนั่งภาวนาแล้วฟังเทศน์แล้วกัน ว่าแล้วก็เอาหูฟังเสียบหูแล้วก็เดินเข้าวิหาร

ก๊อกสุดท้าย เอาวะ มาแล้ว อยู่แล้วก็ไปให้มันสุด ๆ ไปไม่สุดมันก็ไม่เลิกไม่แล้วสักที

จึงนั่งลงสวดมนต์แล้วตั้งจิตอธิษฐานว่า

 ข้าพเจ้าจะสวดมนต์ไปจนกว่า จะถึงวันใหม่ ปีใหม่ หรือจนกว่าพระท่านจะพาหยุดสวด

และจะไม่ขยับเปลี่ยนท่าจนกว่า พระท่านจะหยุดสวด เท่านั้นแหละ ความทุกข์ความทรมาร บีบคั้นเข้ามาสุดชีวิต

กะเอาเองว่าน่าจะเป็นครึ่งช่วงโมงแรก

เสียงที่สวดแหบแห้ง อาการลมที่จะดันออกให้เกิดอาการไอมาเป็นระยะ ๆ ทั้งปากและหู

ต้องสวดแบบลมออกมาจากท้อง พยายามสวดทั้งๆที่ ไอ

แม้ไม่ได้ลืมตา รู้สึกได้ถึง ใจของแม่รีที่คอยดูแลห่วงใย

มีอาการเค้นให้ไอ จนสุดท้ายไอออกมา สามสี่ครั้ง แต่ก็ยังสวดต่อ

รู้จังหวะการดึงลมหายใจและกลืนน้ำลาย มากขึ้นทำให้การสวดหลัง ๆ เริ่มลงตัว ไม่มีอาการไอ

เป็นอาการปีติน้ำตา น้ำมูกไหล แต่ก็ยังสวดต่อ

 

ท่านั่งดูเหมือนปัญหานี้ไม่มากนัก เพราะครูเมตตาให้ได้ฝึกฝน

นักไปสักพักใจสบาย ความปวดเมื่อยก็เงียบลง

 

แต่ใจกลับมาฟุ้งอีกตอนได้ยินเสียงพรุ เป็นสัญญาณเริ่มวันใหม่ ปีใหม่ ใจระลึกบูชาถวายความดีแด่พระรัตนตรัย ในหลวง หลวงปู่ครู พ่อ แม่ พี่ชาย พี่สาว และครอบครัว รวมถึงแม่มด เจ้ากรรมนายเวร และเทวดารักษา ใจเเผ่เมตตาเสร็จ

 

ความฟุ้งใจเกิดอาการรอคอย เมื่อไหร่ท่านจะหยุดสวด จากการจดจ่อกับบทสวดเริ่มฟุ้งไปสำรวจ ฟังเสียง การสวดก็เริ่มสะดุดเพราะขาดสมาธิ ปากสวดไม่ขาดสาย แต่ใจหลุดไป เป็นพักๆ แต่ก็ประคองไปเรื่อย จนครบเวลา น่าจะประมาณสองชั่วํ่โมงกว่าเกือบๆสามชั่วโมง

ออกมาอนุโมทนากับแม่ๆ ที่เปิดโอกาสพาทำบุญใหญ่เกือบจะไปซะแล้ว

 

ทำไมพึ่งมาเขียนตอนนี้ เพราะเริ่มระลึกว่า การตั้งสัจจะวันนี้

 

คือการเริ่มต้น ก้าวเดินไป ทำวัตรรวมและสวดมนต์ข้ามปีวันนั้น มีอีกหลายด่าน

ทึ่จะเข้ามาทดสอบใจให้เลิกทำ กับสัจจะ 3 เดือน ที่ซ้อนลงมาจากการเก็บข้อมูล 7 วัน 7 เดือน 7 ปี (วันที่หนึ่งของสัปดาห์ที่ 9)

 

ปล. เดิมพันครั้งนี้ สูงมาก มันเป็นการแลกกับทั้งหมดที่มีในชาตินี้

ก็ในเมื่อ ช้าเร็ว เราก็ต้องตาย ถ้ามันจะตายเพราะรักษาสัจจะนี้ไม่ได้ ก็จะยังดีกว่าตาย ทั้งๆที่ไม่ทำอะไรเลย

ถ้ามันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะทำให้พ่อ แม่และพี่สาวได้ ในชาตินี้ก็ยินดี

คำสำคัญ (Tags): #aar#km#ทบทวน#ภาวนา
หมายเลขบันทึก: 563398เขียนเมื่อ 7 มีนาคม 2014 13:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มีนาคม 2014 13:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท