แนวความคิด
รูปผู้ว่าราชการจังหวัด
“การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
จะต้องเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง
และเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน”
(นายเฉลิมชัย เฟื่องคอน)
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์
กิจกรรมที่เป็นต้นแบบ (Best Practice)
“กำหนดจัดกิจกรรมเดือนแห่งการรณรงค์ค้นหาผู้เสพ ผู้ติด ในช่วงเปิดภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๖”
ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติได้มีคำสั่งที่ ๙/๒๕๕๖ ลงวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๖ เรื่อง แนวทางการขับเคลื่อนปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน ปี ๒๕๕๖ (เมษายน-กันยายน ๒๕๕๖) ได้กำหนดแผนการแก้ไขปัญหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด กำหนดให้เดือน เมษายน – เดือน พฤษภาคม ๒๕๕๖ เป็นเดือนของการรณรงค์ ชักชวน และบำบัดรักษา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของจังหวัดที่ได้มอบหมายและมีข้อสั่งการในคราวประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดอุตรดิตถ์ ครั้งที่ ๖/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ มีนาคม ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา ให้สถานศึกษาเป้าหมาย จำนวน ๙๕ แห่ง จัดกิจกรรมเดือนแห่งการรณรงค์ค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดในสถานศึกษา ในช่วงเปิดภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๖ และจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในปี ๒๕๕๖ สามารถหยุดยั้งและลดปัญหายาเสพติดให้ได้ผล ในเชิงรุก(ป้องกันชุมชน) และบังเกิดผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน จึงกำหนดให้มีการจัดกิจกรรม”เดือนแห่งการรณรงค์ค้นหาผู้เสพ/ ผู้ติดยาเสพติดในสถานศึกษาในช่วงเปิดภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๕๖ ” ขึ้น ในห้วงระหว่างวันที่ ๑๖ พฤษภาคม – ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ เน้นกระบวนการตรวจสารเสพติดในปัสสาวะนักเรียนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเป็นหลัก โดยสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ประกอบด้วย
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต ๑ และ๒/ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๓๙/ผู้บริหารสถานศึกษาเป้าหมาย จำนวน ๙๕ แห่งทราบ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง แล้วรายงานผลให้ ศพส.จ.อต. ทราบ อย่างช้า ภายในวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๖
สรุปผลการดำเนินกิจกรรมเดือนแห่งการรณรงค์ค้นหา ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ในสถานศึกษา ระหว่างวันที่ ๑๖ พฤษภาคม - ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ จำนวน ๑๐๓ แห่ง สุ่มตรวจปัสสาวะนักเรียน/นักศึกษา จำนวน ๒๘,๓๕๑ คน พบผู้เสพ จำนวน ๑๙๒ คน แบ่งออกเป็น ระดับอุดมศึกษา จำนวน ๓๐ คน ระดับอาชีวศึกษา จำนวน ๑๐๓ คน ระดับมัธยม จำนวน ๕๙ คน
แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับนักเรียน/นักศึกษาที่พบว่าปัสสาวะมีผลเป็นบวก ดังนี้
๑.ยึดถือนโยบายของรัฐบาลที่ว่า ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด เป็นผู้ป่วย จำเป็นต้องบำบัดรักษา และการบำบัดรักษาจะต้องรีบดำเนินการโดยทันที หากล่าช้า ผู้ป่วยมีอาการหนักขึ้นจะเป็นปัญหาต่อตนเองและสังคม ได้
๒.ในเบื้องต้นกำหนดแนวทางปฏิบัติในการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพร่ายกาย ผู้ป่วย โดยใช้ระบบเมทริกในโรงพยาบาล ทุกคน
๓. ในส่วนของผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมซ้ำหรือจำเป็นต้องใช้วิธีนำตัวเข้าค่ายบำบัด ๑๕ วัน และได้ดำเนินการแล้ว โดยนำเข้าบำบัดรักษาที่โรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองฝ่ายปกครองจังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน ๒๒ คน
๔.ได้จัดทำแผน ขับเคลื่อนสถานศึกษาสีขาวต้นแบบ(กลยุทธโต๊ะสี่ขา) โดยบูรณาการทำงานร่วมกัน ๔ ฝ่าย ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดอุตรดิตถ์(ภาคราชการ) วิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์(สถานศึกษา)เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดอุตรดิตถ์ (ตัวแทนภาคเอกชน/ผู้ปกครอง) และ กลุ่มเป้าหมาย(นักเรียน/นักศึกษา เป้าหมาย) ในเบื้องต้น จำนวน ๗๐ คน ปัจจุบันมียอดรวมทั้งสิ้น ๘๖ คน โดยมี วัตถุประสงค์ ๒ ประการ คือ ๑.เพื่อกำหนดแนวทางปฏิบัติในเชิงแบบบูรณาการเท่าที่สามารถทำได้ให้มีความชัดเจนและ ให้พหุภาคี ๔ ฝ่าย ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติจริงในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาในระดับอาชีวะ ซึ่งนักศึกษาในระดับอาชีวะเป็นกลุ่มเยาวชนเป้าหมายหลักที่สำคัญที่มีความเสี่ยงเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดสูงสุด และ จำเป็นต้องมีแผนปฏิบัติการแบบบูรณาการในเชิงคุณภาพ ชัดเจน สามารถปฏิบัติงานได้อย่างแท้จริง และ ๒.เพื่อให้เกิดกระบวนงานแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดในสถานศึกษาเชิงคุณภาพ และมีการบูรณาการแผนปฏิบัติการของทุกหน่วยงาน/ทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้อง อย่างเป็นรูปธรรม สถานที่ดำเนินการ ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์โดยกำหนดวิธีดำเนินการ ดังนี้
๔.๑.จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่าง ภาคีร่วมสี่ภาคส่วนกับกลุ่มนักศึกษาเป้าหมาย
๔.๒. ประสานโรงพยาบาลอุตรดิตถ์เข้าดำเนินการบำบัดรักษาในระบบจิตสังคมบำบัด ตามที่ทางโรงพยาบาลจะสามารถให้ความอนุเคราะห์ได้ ณ ที่วิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ ตามกระบวนงานของทางโรงพยาบาลอุตรดิตถ์
๔.๓.ให้มีการตรวจปัสสาวะทุก ๗ วัน จำนวน ๘ ครั้ง โดยมอบหมายให้ ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบควบคุม ดูแล กิจกรรมการติดตามตรวจปัสสาวะ โดยกำหนดเงื่อนไข ดังนี้
๔.๓.๑ หากนักศึกษาไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดและเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้น ให้สถานศึกษาพิจารณาดำเนินการตามระเบียบของสถาบันอย่างเคร่งครัด
๔.๓.๒ หากปฏิบัติตามเงื่อนไขแล้วปรากฏว่ามีผลการตรวจปัสสาวะเป็นบวก ครั้งที่ ๑ ทางสถานศึกษาจะต้องนำส่งตัวนักศึกษาเข้าสู่กระบวนการเข้าค่ายบำบัดฟื้นฟูแบบสมัครใจโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ หลักสูตร ๑๕ วัน
๔.๓.๓ หากมีผลการตรวจปัสสาวะครั้งต่อไปมีผลการตรวจปัสสาวะเป็นบวก(ครั้งที่ ๒)ต้องประสานผู้ปกครองมารับทราบทุกรายและพิจารณาดำเนินการตามระเบียบของทางสถานศึกษาต่อไป
๔.๔.จัดทำแผนตารางกิจกรรมให้ความรู้ และเสริมสร้างทักษะชีวิตในการป้องกันตนเองไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อย่างน้อย ๑๐ ชั่วโมง เสริมกิจกรรมการตรวจปัสสาวะด้วย โดยมอบหมายให้ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าเป็นผู้ดำเนินการหลักร่วมกับทางวิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์
๔.๕. รายงานผลการขับเคลื่อนแผนงานฯให้จังหวัดทราบทุกเดือน (ในการประชุมคณะทำงานเฝ้าระวังแก้ไขปัญหายาเสพติดจังหวัดอุตรดิตถ์)
สรุปผลการดำเนินงานในเบื้องต้น ในห้วงระหว่างวันที่ ๑๗ พฤษภาคม-๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ พบว่ามีนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมครบทุกครั้งและให้ความร่วมมือและตรวจปัสสาวะมีผลเป็นลบ น่าเชื่อว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด(ยาบ้า) อีกต่อไป จำนวน ๗ คน
อนึ่ง วิทยาลัยเทคนิคอุตรดิตถ์ยังได้ดำเนินการจัดกิจกรรมจิตสังคมบำบัดร่วมกับทางโรงพยาบาลอุตรดิตถ์และสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง ระยะเวลาระหว่างวันที่ ๒๘ พฤษภาคม – ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๖ โดยมีนักศึกษาที่ตรวจพบว่าปัสสาวะมีผลเป็นบวกเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จำนวน ๔๗ คน
ไม่มีความเห็น