ทัศนะที่น่าชื่นชมของนักเขียนคนหนึ่ง
นามว่า..
พศิน
อินทรวงค์ จึงขอยืมความคิดเห็นเกี่ยวกับ
ความมีความเป็นตามที่ได้แสดง ความว่า...
ที่จริงเราไม่ได้เป็นอะไรเลย
ไม่ได้เป็นคนใจร้อน
ไม่ได้เป็นคนใจเย็น
ไม่ได้เป็นคนโง่และ
ไม่ได้เป็นคนฉลาด
เราพร้อมจะเป็นทุกสิ่งที่พูดมาทั้งหมด
ขณะที่เราอาจไม่เป็นอะไรเลย
ก็ได้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยรอบข้าง
คนคนหนึ่งอาจใจร้อนกับอีกคน
แต่ใจเย็นกับอีกคนก็เป็นได้
คนคนหนึ่งอาจฉลาดเมื่ออยู่กับคนหนึ่ง
แต่กลายเป็นคนโง่เมื่ออยู่กับอีกคน
เรื่องเช่นนี้มีให้เห็นอยู่เสมอ
ดังนั้น... การที่เราจะเข้าใจถึงการกระทำของใครสักคน
เราจำเป็นต้องมองให้ลึกลงไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้อง
และสถานการณ์ต่างๆที่เข้ามาประกอบอุปนิสัย
หรือความเป็นตัวตนของเขาคือ "สารตั้งต้น"
ส่วนสิ่งแวดล้อมผู้คนสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องคือสาร
หรือตัวแปรที่นำมาผสมลงไปผลลัพธ์จะออกมาเช่นไรนั้น
ขึ้นอยู่กับปัจจัยทั้งสองส่วนนี้เป็นหลัก
เพราะแท้จริงแล้วเราต่างไม่ได้เป็นอะไรเลย...
ชีวิตว่างเสมอ..พร้อมที่จะเป็นอย่างที่เราต้องการและถูกสิ่งแวดล้อมที่หล่อหลอมเรา..ดังนั้น ชีวิตจึงอยู่ในฐานะเป็นกลางเสมอ.. ส่วนที่เราว่าคนนั้น คนนี้เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ ก็เพราะเจตคติและทัศนคติข้างใน..เรียกว่า ตาใน มุมมองด้านใน สะท้อนกิจกรรมและจิตกรรมออกมาให้สายตาคนนอกบอกและประเมินว่า เป็นเช่นนั้น...แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า..เรารู้ว่าเราเป็นเช่นนั้น เช่นนี้ ด้วยสติ สัมปชัญญะเต็ม.. หรือเราจะเชื่อหรือไม่ว่า เรามิได้เข้าข้างตนเองจนเกินไป..นะท่านดาบเพชร
ขอบคุณนะที่เปิดไฟให้สมองมองเห็นประเด็นครับ..
กราบขอบพระคุณครับ